วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

เบาหวานประเภท 2 กับ อินซูลิน 3

March 20,2013
Continued….

เมื่อคนเป็นเบาหวานปรเภทสอง (T2DM)...

ได้รับการรักษาด้วยยาเม็ดลดระดับน้ำตาล ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกำรรม
ยังปรากฏว่า  ไสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้
จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการฉีด "อินซุลิน"

จะเริ่มอย่างไรดี ?

(How it initiate insulin ?)

โดยทั่วไป การให้ิอินซูลิน (insulin) แก่คนไข้ที่เป็นเบาหวานประเภทสอง...
แพทย์ส่วนใหญ่เขาจะเริ่มด้วยการให้ Long-acting insulin (ฉีด) แก่คนไข้ด้วยการฉีดวันละครั้ง

และในการพิจารณาว่า  จะให้ insulin ในขนาด (dose) ในขนาดเท่าใดนั้น
แพทย์เขามีวิธีตัดสินใจหลายทางด้วยกัน

ทางเลือกแรก...
แพทย์เขาจะพิจารณาใช้น้ำหนักคนไข้เป็นเกณฑ์  
และสุดท้าย  คนไข้เบาหวานประเภทสองจำนวนไม่น้อย จะได้รับ insulin 1 – 2 units
สำหรับน้ำหนักตัว 1 Kilogram ซึ่งหมายความว่า คนน้ำหนักตัว 80 kilogram
จะได้รับ insulin 80 units ต่อวัน

อย่างไรก็ตาม  ในการเริ่มให้ยาเป็นครั้งแรก...
แพทย์อาจเริ่มต้นด้วยการให้ insulin 0.15 units ต่อน้ำหนักตัว  1 kilogram
ดังนั้น  คนไข้เบาหวานประเภท 2 จะได้รับ insulin 12 units

ทางเลือกที่สอง....
ไม่ต้องคิดมาก เริ่มให้อินซูลิน (insulin) 10 units
ซึ่งเป็นขนาดทีมากพอสำหรับคนไข้ส่วนใหญ่ 
โดยไม่น่าจะทำให้เกิดภาวะน้ำตาลลดต่ำ-hypoglycemia ได้
ต่อจากนั้น  ค่อยๆ เพิ่มขนาดของ insulin ทุก 3 – 7 วัน ตามระดับของน้ำตาล
ที่วัดได้จากกระแสเลือดของคนไข้

ถ้าระดับของน้ำตาลทีวัดได้ในตอนเช้า  มีค่าระหว่าง 80 – 100 mg/dL
ถือว่าใช้ได้  ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงขนาดของ insulin

ถ้าระดับของน้ำตาล วัดได้ค่าต่ำกว่า 80 mg/dL…
มันบ่งบอกให้ทราบว่า  ขนาดของ insulin ที่ให้มากไป  จำเป็นต้องลดขนาดลง 2 units

อย่างไรก็ตาม  คนไข้ส่วนใหญ่  จะได้รับ insulin มากกว่าขนาดตอนเริ่มต้น
และเพื่อความปลอดภัย  การปรับขนาดของ basal insulin จะถือหลักเกณฑ์
ดังกล่าว

ในการให้ insulin…
แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้ insulin ในตอนเย็น
ซึ่งจะช่วยลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดในตอนเช้าของวันถัดไป

อย่างไรก็ตาม  ปัญหาอย่างหนึ่งจากการให้ NPH ในตอนเย็น (bedtime) คือ...
ยาดังกล่าว จะทำให้มีฤทธิ์สูงสุดในตอนเที่ยงคืน  ซึ่งมีแนวโน้มทำให้เกิด
ภาวะน้ำตาลตก hypoglycemia ในระหว่างนอนหลับได้
ระวัง!.....

ในปัจจุบัน  เราจะพบว่า  แพทย์หันมาใช้ insulin- detemir & glargine
ด้วยเหตุผลที่ว่า  ฤทธิ์ยาในกระแสเลือดจะอยู่ในระดับที่สมำเสมอขคงที่ได้ดีกว่า NPH 
จึงเป็นยาที่ปลอดภัยจากการเกิด hypoglycemia ในตอนกลางคืนได้

การให้ยา  อาจเป็นตอนเช้า หรือตอนเย็นก่อนนอนนั้น  
ย่อมขึ้นกับแนวโน้มของระดับน้ำตาลในเลือด  และความชอบของแพทย์ผู้ให้การรักษา...
ซึ่งหมายความว่า  basal insulin สามารถให้ในตอนเช้า..
แทนการให้ในตอนเย็นได้

ภายหลังจากการใช้ Long acting insulin เพียงอย่างเดียวเป็นเวลา 3 เดือน
ยังพบว่า  HbA1C มีค่าสูงกว่า 7 %  ซึ่งบ่งบอกให้ทราบว่า
คนไข้ควรได้รับ Regular หรือ rapid- acting insulin เพื่อคุมระดับน้ำตางที่ได้จากอาหาร
ที่คนไข้รับประทานเข้าไป  โดยสามารถเริ่มให้ในมื้อที่รับประทานอาหารหนัก 
ซึ่งมักจะเป็นอาหารเย็น (สำหรับคนอเมริกัน)

ด้วยวิธีการง่าย ๆ โดยการเริ่มให้ regular insulin ในช่วงรับประทานอาหาร
สามารลดระดับของอินซูลินออกฤทธิ์ยาว ( long-acting insulin)ได้ถึง 10 % 
และรับอินซูลินที่ออกฤทธิ์เร็ว ( rapid-acting Insulin)ในช่วงของอาหารเย็น

ยกตัวอย่าง  ถ้าท่านเคยรับ long-acting insulin (glargine)  20 units ใน
ตอนเย็น (bedtime)….
เมื่อท่านรับ aspart, lospro หรือ glulisine เพื่อคุมอาหารเย็น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น