วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

อาหาร และ โภชนาการ (Diet and Nutrition)


April 15, 2013

เมื่อคนเราเป็นโรคเบาหวาน...
เราจำเป็นต้องรู้เรื่องอาหารที่เราต้องรับประทาน.
เราถือว่า  หัวใจของการรักษาโรคเบาหวาน คืออาหารที่ให้สุขภาพนั่นเอง
เพราะอาหารหลายอย่าง  มีผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในกระแสเลือด
และนอกจากนั้น  มันยังกระทบต่อน้ำหนักตัว และสุขภาพของหัวใจ
(heart health) อีกด้วย

Understanding Food:

ในการเข้าใจในเรื่องอาหาร หมายความว่า  เราต้องทราบว่า  อาหารชนิดไหน
ที่ให้ “คาร์โบฮัเดรต”, “โปรตีน” และ “ไขมัน” และรวมไปถึงการรู้ว่า
เราจะเลือกอาหารที่สมดุล (ครบทุกหมู่เหล่า และได้ปริมาณที่ครบถ้วน)

อาหารแต่ละชนิด จะให้พลังงาน (clories) แตกต่างกันไป
ยกตัวอย่าง ไขมันจะให้พลังงานมากเป็นสองเท่า ของคารโบฮัยเดรตและโปรตีน 
(กรัมต่อกรัม) 

พลังหลักสำคัญที่ปรากฏในอาหาร

มนุษย์เราจะได้รับโภชนาการจากอาหารที่เรารับประทาน

และเพื่อให้ร่างกายของเราสามารถดำเนินอยู่ได้  เราจำเป็นต้องได้รับ

อาหารสามชนิดด้วยกัน  นั้นคือ 

·         คาร์โบฮัยเดรต (Carbohydrate)

  ·      ไขมัน (Fat)

·         โปรตีน (Protein)


พลังงานที่ได้จากอาหาร (Calories in food)

อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วว่า  อาหารทุกชนิดให้พลังงานได้ไม่เท่ากันยกตัวอย่าง:


·         ไขมัน (Fat) =  9  คาลอรี่ ต่อกรัม
·         คาร์โบฮัยเดรต (CHO) = 4 คาลอรี่ ต่อกรัม
·         โปตีน (Protein) = 4  คาลอรี่ ต่อกรัม

คาลอรี่ (calories) = พลังงาน (Energy)
และเราจะเห็นว่า  อาหารประเภทไขมันจะให้พลังงาน (calories) มากที่สุด
(ระหว่างน้ำหนักกรัมต่อกรัม)

เราควรรับประทานอาหารทั้งสามกลุ่ม (CHO, Fat และ Protein)
มากน้อยเท่าใดในแต่ละวัน ?

ก่อนอื่นขอให้เข้าใจไว้ว่า  เราไม่มีสูตรที่สมบูรณ์  ที่บอกว่าได้ว่า อาหาร
ทั้งสามกลุ่มควรเป็นเท่าใด  และที่เราใช้เป็นหลักปฏิบัติกันอย่าวกว้าง ๆ ว่า 
อาหารที่เรารับประทานกันทุกวัน  ควรประกอบด้วย:

·         คาร์โบฮัยเดรต  45 – 65 % ของพลังงานที่ควรได้ต่อวัน
·         โปรตีน  10 – 35 % ของพลังงานต่อวัน
·         ไขมัน 25 – 35 % ของพลังงานต่อวัน

อัตราส่วนดังกล่าว สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับคนปกติ หรือคนเบาหวานได้
เนื่องจากมีอาหารหลายอย่าง  ที่คนเราจำเป็นต้องรับประทาน  
เอาเป็นว่า  เพื่อให้ง่ายต่อการจำ  อาหารที่เรารับประทานต่อวัน  
ควรมีส่วนประกอบต่อไปนี้

·         คาร์โบฮัยเดรต (CHO) 50 %
·         โปรตีน (Protein)  25 %
·         ไขมัน (Fat)   25 %

คาร์โบฮัยเดรต (CHO)
ถ้าท่านเป็นโรคเบาหวาน... 
ท่านต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับ อาหารประเภท คาร์โบฮัยเดรต พอสมควร

ในชนิดของอาหารทั้งหลายที่คนเรารับประทานทุกวัน  จะพบว่า
อาหารประเภท “คาร์โบฮัยเดรต” ซึ่งมีผลกระทบต่อน้ำตาลในกระแสเลือดมากที่สุด   
และอาหารประเภทคาร์โบฮัยเดรต (CHO) จะประกอบด้วยอาหารที่เป็นแป้ง (starch) 
และน้ำตาล (sugar)

หลังจากเรารับประทานอาหารประเภทคาร์โบฮัยเดรตเข้าไป  ทั้งสอง
รูปแบบ (starch & sugar) มันจะถูกย่อยให้แตกตัวเป็นส่วนที่เล็กสุด
เรียก “กลูโกส” (glucose)

อาหารประเภท “คาร์โบฮัยเดรต” ถือเป็นส่วนสำคัญของอาหารที่เรารัปประทานทุกวัน  
เพราะพลังงานหลักที่สำคัญของร่างกายคือ “กลูโกสนี้เอง

แม้ว่าท่านจะเป็นโรคเบาหวาน...  
ท่านไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มี “คาร์โบฮัยเดรต” 
แต่สิ่งที่ท่านต้องรู้  คือท่านสามารถบอกได้ว่า  อาหารชนิดใดมี“คาร์โบฮัยเดรต
จากนั้น  ท่านเพียงแต่ควบคุมปริมาณที่ท่านรับประทานไม่ให้มากเกินไป
เท่านั้นเป็นพอ

อาหารประเภท “ค์โบฮัยเดรต” ที่เราสามารถบได้เสมอ คือ:
·         พวกข้าว, ธัญพืช และพวก พาสต้า (pasta)
·         ขนมปัง (Breads), ขนมปังกรอบ (Crackers)
·         อาหารประเภทถั่ว (beans)
·         พวกผัก เช่น มันฝรั่ง (potato) ข้างโพด (corn)
·         ผลไม้ (fruit)
·         นม (milk)
·         โยเกริต (Yogurt)
·         น้ำตาล (sugars) และน้ำผิ้ง (honey)
·         อาหาร และเครื่องดื่มทั้งหลายที่มีน้ำตาล และของหวาน

ถ้าท่านเป็นโรคเบาหวานประเภทหนึ่ง (T1DM) ...
ท่านจำต้องปรับปริมาณอินซูลินให้เหมาะสมกับคาร์โบฮัยเดรต
ที่ท่านรับประทาน และเพื่อให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ถูกต้อง 
ท่านจำเป็นต้องวัดปริมาณของคาร์โบฮัยเดรตให้ถูกต้องแม่นยำ  
โดยวัดเป็นกรัม  หากวัดผิด  จะมีผลต่อระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้อย่างมาก

ในทำนองเดียวกัน...
ถ้าท่านเป็นเบาหวานประเภทสอง (T2DM)
ซึ่งท่านได้รับยาเม็ดรับประทานเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด 
เพื่อกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมา  หรือได้รับยาฉีด “อินซูลิน”
ท่านจะต้องปรับขนาดของปริมาณอาหารประเภทคาร์โบฮัยเดรตให้เหมาะกับ
ขนาด (dose) ของยาลดน้ำตาลในเลือด  เพื่อทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับ
ที่ไกล้เคียงกับระดับปกติ

อาหารประเภทโปรตีน (Proteins)

โปรตีน เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอาหาร และจำเป็นต่อร่างกายมนุษย์เราเช่นกัน

หากรับประทานมากไป  สามารถเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

อาหารประเภทเนื้อ (meats) ส่วนใหญ่จะมีไขมันเป็นส่วนประกอบด้วยเสมอ

 

ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีปริมาณของโปรตีนที่ได้จากสัตว์เป็นจำนวนมาก

ย่อมหมายความว่า  ท่านได้รับพลังงานเพิ่มมากขึ้นพร้อมๆ กับได้รับไขมันเพิ่มขึ้นด้วย  

ซึ่งหมายความว่า...คนที่รับประทานอาหารตามที่กล่าว ย่อมมีโอกาสเพิ่มน้ำหนักตัวด้วย

 

เราจะพบอาหารประเภทโปตีนได้จาก 

·         เนื้อวัว และ เนื้อหมู

·         สัตว์ปีก เช่น เป็ดไก่

·         ปลา หอย

·         ไข่

·         อาหารประเภทนมสัตว์

·         พวกถั่ว..เต้าหู้ 

คำแนะนำ...
อาหารประเภทโปรตีนที่ดีที่สุดได้แก่
พวกโปรตีนที่มีไขมันต่ำ  เช่น เนื้อไม่มีมัน (lean meats), สัตว์ปีก (poultry)
และเนื้อปลา  และอาหารประเภทถั่ว (เต้าหู้)

อาหารประเภทไขมัน (Fats)
ไขมัน (fats) เป็นอีกส่วนหนึ่งของอาหารที่มีความสำคัญ
และเราต้องจำเอาไว้ว่า ไขมันให้พลังงานได้มากกว่าพวก CHO และโปรตีนถึงเท่า
ตัว  และการจำกัดอาหารประเภทไขมัน  ย่อมเป็นประโยชน์ในด้านช่วย
ควบคุมน้ำหนักตัว และป้องกันไม่ให้เกิดโรคของหัวใจ และเส้นเลือด

อาหารไขมันจะพบได้ใน:
·         เนย (butter) และ เนยเทียม (margaine)
·         น้ำมันพืช (vegetable oils, olive oil และ canola oil)
·         น้ำสลัดทั้งหลาย (salad dressing, mayonnaise)
·         ผลไม้เปลือกแข็งทั้งหลาย (nut), พวกเมล็ด
·         อาหารประเภท เนื้อ เนื้อวัว, เนยแข็ง...

ไขมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่ไขมันที่ได้จากพืชทั้งหลาย

<< BACK      NEXT  >>  Understanding carbohydrate

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น