วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556

Correction Insulin

April 12,2013

Correction insulin  หมายถึง “การแก้ไข”  หรือ “การทำให้ระดับน้ำตาล
ในกระแสเลือดก่อนอาหารมีค่าสูง”  ลดลงสู่ระดับที่ต้องการ
บางรายอาจจำเป็นต้องได้รับอินซูลินเพื่อแก้ไขระดับน้ำตาลที่สูง
ในเวลาก่อนนอน  

และการให้อินซูลินในลักษณะดังกล่าว  เป็นการให้อินซูลินเพิ่มจากที่ได้รับตามปกติ
เพื่อ “แก้ไข”  ระดับน้ำตาลที่ขึ้นสูง  โดยไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันไม่ให้น้ำตาลสูงขึ้น

ชนิดของอินซูลิน...ใช้เพื่อแก้ไขภาวะน้ำตาลขึ้นสูง
(Types of Correction Insulin)

เราจะพบว่า อินซูลินที่นำมาใช้ในการแก้ไขระดับน้ำตาลขึ้นสูงในลักษณะดังกล่าว
สามารถใช้อินซูลินออกฤทธิ์สั้น (short-acting)
หรืออินซูลินออกฤทธิ์เร็ว (rapid-acting) 
ซึ่งประกอบด้วย
  • Regular
  • Novolog® (Aspart)
  • Humalog® (Lispro)
ปริมาณอินซูลินเพื่อแก้ไข (correction insulin) สามารถคำนวณจากสูตร
น้ำตาลที่เพิ่มขึ้นจากระดับเป้าหมาย (mg/dL) ÷  ICF

Insulin correction factor (ICF)  คืออะไร ?

ICF หมายถึงปริมาณของน้ำตาลในระแสเลือด
ซึ่งถูกอินซูลินในปริมาณ 1 unit จัดการให้ลดลง
และเราจะใช้ ICF จัดการแก้ไขระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ที่สูง หรือต่ำ
ให้เข้าสู่ระดับปกติ  โดย  1 unit of Rapid-acting insulin สามารถลดระดับ
น้ำตาลในเลือดลงได้  40 mg/dL (insulin correction factor)

ตัวอย่าง:
สมมุติท่านเป็นโรคเบาหวาน มีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดก่อนอาหาร
(Before meal blood sugar)  = 200 mg/dL 
ซึ่งจำเป็นต้องลดระดับน้ำตาลลงสู่เป้าหมาย (target blood sugar)
โดยมีค่า =120  

Insulin Correction Factor = 40

จากข้อมูลที่ได้รับ  เราสามารถคำนวณหาปริมาณอินซูลิน เพื่อลดระดับน้ำตาล
โดยใช้สูตรตามที่เสนอ

ระดับน้ำตาลที่สูงขึ้นจากระดับเป้าหมาย ÷ ICF

(200 – 120) ÷ 40 = 2 units

2 units of rapid insulin คือจำนวนอินซูลินที่ต้องการใช้เพื่อลดระดับน้ำตาล
จาก 200 mg/dL ลดลงสูระดับ 120 mg/dL

โดยสรุป...

สำหรับท่านที่เป็นโรคเบาหวานประเภทสอง  จะต้องจำเอาไว้:

·     ปฏิบัติตนตามปกติ  เมื่อพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูง  อย่ารับประทานอาหารน้อยลง 
     เพราะการทำเช่นนั้น  รังแต่จะก่อให้เกิดอันตรายจากการทำให้ระดับน้ำตาลตก-hypoglycemia

·     อย่าใช้แก้ไขน้ำตาลที่สูงขึ้นด้วยการให้อินซูลิน (correction insulin) บ่อยนัก
     ไม่ควรใช้เกินทุก 4 – 6 ชั่วโมง ยกเว้นเว้นเฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น

·     ถ้าท่านจำเป็นต้องใช้วิธี correction insulin ทุกวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน หรือบ่อยกว่านั้น 
     ซึ่งมันบ่งบอกให้ทราบว่า มีอะไรซักอย่างในการรักษาผิดปกติเกิดขึ้นซะแล้ว....
     ต้องบอกให้แพทย์ผู้รักษาได้ทราบ เพื่อการปรับเปลี่ยนยาที่ให้ตามปกติ (usual dose)

·     การออกกำลังกาย มีแนวโน้มทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดลดลง
     ซึ่งท่านอาจไม่จำเป็นต้องใช้ correction insulin เพื่อแก้ไขระดับน้ำตาล
     ในช่วงเวลาก่อนอาหาร หรือหลังการออกกำลังกาย...


·     ถ้าระดับน้ำตาลในกระแสเลือดวัดในขณะก่อนอาหาร มีค่าต่ำกว่า 150 mg/dL.... 
     ไม่ต้องให้ correction insulin  และระดับน้ำตาลวัดได้ก่อนนอน  มีค่าน้อยกว่า 200 mg/dL 
     ไม่ต้องใช้  Correction Insulin เช่นกัน

 
http://www.uwhealth.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น