วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556

ความดันโลหิตสูง: ยารักษา 6


March 7,2013
continued....
คำแนะนำในการใช้ยาลดความดันโลหิต
สำหรับคนกลุ่มต่างๆ:

African Americans:
ในชาวอเมริกัน เชื้อสายนิโกร จะมีลักษณะแตกต่างจากชนชาติอื่นหลายอย่าง
เป็นต้นว่า  สูบบุหรี่จัด,อ้วน, เป็นโรคเบาหวาน,  และมีความไวต่อความเค็ม

นอกจากนั้น  พวกเขายังมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะสมองขาดออกซิเจน(stroke)
และไตถูกทำลายไดงาย  เพราะไม่สนใจต่อสุขภาพตนเอง  
ปล่อยปละละลย  ไม่ให้ความสนใจในการรักษาตนเองเท่าที่ควร 
  
ยาลดความดันที่ดีสำหรับคนกลุ่มนี้  ได้แก่ diuretics เพราะใช้ได้ผลดี
กับคนที่มีความไวต่อความเค็ม (salt-sensitive)

การให้ยา ACE inhibitors เพียงต้วเดียว และมีขนาดต่ำแก่คนกลุ่มนี้ 
จะไม่ค่อยได้ผล  ทั้งนี้เพราะพวกเขามักจะเป็นโรคความดันที่อยู่ในขั้น
ที่รุนแรง (stage2) ซึ่งจำเป็นต้องได้รับยาตั้งแต่สองตัวขึ้นไป 
จึงจะสามารถควบคุมระดับความดันให้เป็นปกติได้

Older people:
โรคความดันของคนสูงอายุ...
JNC แนะนำให้ใช้ thiazide diuretics เพียงตัวเดียว หรือใช้ร่วมกับยา
Beta blockers  และ calcium channel blockers 

ในคนสูงอายุ...
ไม่ควรใช้ยาที่ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตลดเมื่อลุกนั่ง หรือยืน (orthostatic)
เพราะนอกจากจะก่อให้เกิดอาการวิงเวียนแล้ว  ยังสามารถทำให้คนสูงอายุเกิด
การหกล้มกระดูกแตกหักได้  ยาในกลุ่มนี้ได้แก่  anti-adrenergics และ alpha blockers

People with coronary artery disease:
ในคนไข้โรคความดันโลหิตสูง  เกิดภาวะแทรกซ้อนด้วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
เกิดมีอาการเจ็บหน้าอก (angina) มักจะได้รับประโยชน์จากการใช้ยา
กลุ่ม  beta blockers และ calcium channel blockers

JNC จึงแนะนำให้ใช้ยา beta blockers ในคนที่มี heart attack เกิดร่วม
ในโรคความดันโลหิตสูง  โดยเขากล่าวว่า  ยากลุ่มดังกล่าวสามารถป้อง
กันไม่ให้เกิด heart attack ขึ้นได้อีก


People with congestive heart failure:
เนื่องจากยากลุ่ม ACE inhibitors จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้  
ดังนั้น JNC จึงแนะนำให้ใช้ยากลุ่มนี้ (ACEi)อย่างเดียว 
หรือให้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ (diuretics) ในคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลวดังกล่าว
ซึ่งมีความดันโลหิตสูง  นอกจากนั้น  ยากลุ่ม beta blockers และ ARBs  อาจนำมา
ใช้ได้ดังกล่าวได้เช่นกัน

People with left ventricular hypertrophy:
ผลการวิจัยของ JNC พบว่า ยาลดความดันทุกชนิด  ยกเว้นเฉพาะ
ยากลุ่ม direct-acting vasodilators (hydralasine และ minoxidil)
สามารถลดความหนาของกล้ามเนื้อหัวใจได้
และยังกล่าวต่อไปอีกว่า  ACE inhibitors ได้รับการพิจารณาว่า 
เป็นยาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

นอกจากนั้น  ยังพบว่า  การลดน้ำหนักตัว  และจำกัดอาหารจำพวกเค็ม (salt) 
สามารถช่วยคนไข้ดังกล่าวได้

People with kidney disease:
ยาลดความดันโลหิตทุกตัว  สามารถนำมาใช้กับคนไข้ที่เป็นโรคไตได้
และมีคนไข้จำนวนไม่น้อยจำเป็นต้องใช้ยามากกว่าหนึ่งตัว (ขนาน)

เราพบว่า  คนที่เป็นโรคไต หรือเป็นโรคเบาหวานต่างตอบสนองต่อ
ยากลุ่ม ACE inhibitors ได้ดี  ทั้งนี้เป็นเพราะยากลุ่มดังกล่าวสามารถชะลอ
ไม่ให้ไตเสื่อมลงสู่ภาวะไตวาย (kidney failure) ได้

แต่ในขณะเดียวกัน  ACE inhibitors สามารถทำให้เกิดการสะสมของ
โปรแตสเซี่ยม โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับยารักษาโรคไขข้อ (NSAIDs)
เช่น  aspirin, ibuprofen และยาแก้ปวดต่าง ๆ
ต้องระมัดระวังให้ดี...

ในคนไข้ที่เป็นไตวายเรื้อรัง (chronic kidney failure) มักจะเกิดมี
โรคความดันโลหิตสูงร่วมด้วยเสมอ  ทั้งนี้เป็นเพราะร่างกายมีการกักเก็บ
น้ำและเกลือเพิ่มขึ้น  ดังนั้นเราจะพบว่า  ยาขับปัสสาวะ – Loop diuretics
สามารถช่วยเหลือคนไข้ที่ตกอยู่ในเช่นนี้ได้  
แต่ JNC ได้ให้คำเตือนเอาไว้ว่า   การใช้ยาขับปัสสาวะชนิด potassium-sparing 
สามารถก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน...ต้องระวัง

People with diabetes:
ในคนที่เป็นโรคความดันสูง  และเป็นโรคเบาหวานด้วย...
เขาแนะนำให้ใช้ยากลุ่ม ACEs inhibitors และ ARBs อย่างใดอย่างหนึ่ง  เพราะยา
ทั้งสองสามารถชะลออัตราการเสื่อมของโรคไตได้

มียาลดความดันโลหิตหลายตัว  มีอันตรายในคนที่เป็นโรคเบาหวาน...
เช่น  ยาขับปัสสาวะ (diuretics) อาจเพิ่มระดับของน้ำตาลในเลือด
และยากลุ่ม  beta blockers สามารถบดบังอาการของภาวะน้ำตาลลดต่ำ 
(hypoglycemia) ได้

People with high cholesterol:
ในกรณีที่ท่านต้องการควบคุมระดับ cholesterol ที่สูง  ซึ่งเกิดร่วมกับความดันโลหิตสูง  
การใช้ยาลดความดัน alpha-1 blockers อาจช่วยลดระดับ total cholesterol 
และเพิ่มระดับ HDL cholesterol ได้

มียาลดความดันบางตัวมีผลเสียต่อคนที่ระดับไขมัน cholesterol ในเลือดสูง
ซึ่งทำให้แพทย์กังวลใจ...
Beta blockers สามารถเพิ่มระดับ triglycerides และลดระดับ HDL –Cholesterol
ซึ่งเป็นไขมันดีลง

การให้ยาขับปัสสาวะในขนาดสูง  ทั้ง thiazide และ Loop diuretics  สามารถ
เพิ่มระดับ cholesterol, LDL cholesterol และ triglycerides ทั้งหลายขึ้นได้

ส่วน calcium-channel blockers, ACE inhibitors และ ARBs จะไม่มีผลเสีย
ต่อระดับไชมันในเลือด

People with respiratory disease:
เนื่องจากยากลุ่ม  beta blockers สามารถทำให้อาการของคนที่เป็นโรค
หลอดลมอักเสบเรื้อรัง (chronic bronchitis) , โรคถุงลมโป่งพอง และโรคหืดหอบ
มีอาการเลวลงได้  ดังนั้น  เราจึงไม่แนะนำให้ใช้ยากลุ่ม Beta blockers 
เพื่อรักษาคนที่เป็นทางระบบหายใจดังกล่าว

นอกจากนั้น  ยังพบอีกว่า  ยาที่ซื้อจากร้านขายยา (over-the counter)
สำหรับรักษาโรคหืด และยารักษาโรคหวัด (cold remedies) ต่างมีสารทำให้เส้นเลือด
เกิดการหดตัว  จึงเป็นเหตุทำให้หัวใจเต้นเร็ว และความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น  
ดังนั้น  ก่อนใช้ยาดังกล่าว  ควรปรึกษาแพทย์...

People with gout:
คนที่มีระดับของ uric acid ในกระแสเลือดสูงสามารถทำให้เกิดโรคเก้าท์
และก่อให้เกิดความเจ็บปวดข้อได้...
การใช้ยาขับปัสสาวะ (diuretics) สามารถเพิ่มระดับของ uric acid 
เป็นเหตุให้เกิดอาการปวดข้อจากการอักเสบของโรคเก้าท์ได้

ด้วยเหตุผลดังกล่าว เราจะไม่แนะนำให้ใช้ยาขับปัสสาวะ  เพื่อรักษาความ
ดันโลหิตสูง  ยกเว้นเฉพาะคนไข้ใช้ยาลดระดับ uric acid


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น