ความดันโลหิตสูง:ยารักษา 2

continued....

ในปัจจุบัน  แม้ว่าจะมียาใช้ลดความดันจำนวนมากมายก็ตาม
แต่เราไม่พบว่า  มียารักษาความดันตัวใดเหนือกว่าตัวใด ๆ เลย
ที่สำคัญ แม้ว่าคนเป็นความดัน...เหมือน ๆ กันทุกประการ  เช่นสามี ภรรยา
ต่างเป็นโรคความด้นด้วยกัน  ไม่ได้หมายความว่า  
เขาะต้องได้รับยาเหมือนกัน....

Classes of hypertension drugs

โดยทั่วไป  แพทย์สามารถเลือกใช้ยาจากกลุ่มยาต่าง ๆเท่าที่มี  
เพื่อใช้รักษาความดันโลหิตสูง ได้แก่:  diuretics, anti-adrenargics, direct-actng

Vasodilators, calcium-channel blockers, angiotensin converting enzyme

(ACE) inhibitors, และ angiotensin- receptor blockers (ARBs)

นอกเหนือจากนี้  ยังมียาอีกสามกลุ่มที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง
ได้แ่ก่   Direct rennin inhibitors, endothelin-receptor antagonists  และ

Vasopeptidase inhibitors

จากการมียาจำนวนมากมาย  ทำให้แพทยฺ์สามารถเลือกใช้ยาได้ตามใจชอบได้
แต่มีคำแนะนำของแพทย์ผ้เชี่ยวชาญ  ได้ให้ข้อคิดให้เราได้พิจารณาดู ดังนี:
  

JNC ได้ให้คำแนะนำเอาไว้ว่า...

ในคนส่วนใหญ่ที่เป็นโรความดันโลหิตสูง  ควรเริ่มต้นการรักษาด้วยยาขับปัสสาวะ

(diuretics)  แต่ก็อีกนั่นแหละ  มีหลายคนไม่เห็นด้วยกับคำแนะนำดังกล่าว

ยาขับปัสสาวะ (diuretics) 

Thiazide diuretics :

·         Chlorothiazide

·         Chorothalidone

·         Hydrochlorothiazide

Loop diuretics:

·         Bumetanide

·         Ethacrynic acid

·         Furosemide

·         Torsemide

Potassium-sparing diuretics:

·         Amiloride  (Midamor)

·         Spironolactone (Aldactone)

·         Triamterene (Dyrenium)

·         eplerenone (Inspra)

ยาขับปัสสาวะ  เป็นยาที่ถูกผลิตขึ้นมา  เพื่อใช้รักษาคนไข้ความดันสูงมาเป็นเวลานาน

โดยออกฤทธิ์ช่วยไตให้ทำการขับ sodium และน้ำออกทิ้งไป เป็นเหตุให้ปริมาณของ
ของเลือดในร่างกายลดลง ทำให้หัวใจบีบตัวแต่ละครั้ง  
เพื่อปั้มเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้น้อยลง  เป็นเหตุให้ความดันโลหิตลดลง

ยาขับปัสสาวะชื่อ Loop diuretics จะออกฤทธิ์ในไตตรงตำแหน่งที่เรียกว่าท่อไต (tubules) 
มีชื่อเรียกว่า  Loop of Henle  ทำให้ไตไม่สามารถดึงเอา sodium และน้ำกลับสู่กระแสเลือดได้
ทำให้ปริมาณของเลือด (Blood volume) ลดลง

ส่วนยาขบปัสสาวะชื่อ thiazide จะออกฤทธิ์ที่ท่อ tubules ของไต

เพื่อสกัดไม่ให้ sodium และน้ำถูกดูงกลับสู่กระแสเลือดได้

ข้อเสียอย่างหนึ่งของยาขับปัสสาวะ (diuretics)

คือ ทำให้สูญเสีย “โปรแตสเซี่ยม” ไป  ดังนั้นแพทย์อาจให้โปรแตสเซี่ยมให้แก่คนไข้

ซึ่งอาจเป็นอาหารเสริม....  เพื่อเป็นการชดเชยโปรแตสเซี่ยมส่วนที่เสียไป

เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย “โปรแตสเซี่ยม” จากการใช้ยาขับปัสสาวะ...

บางครั้งเราจะพบเห็นแพทย์สั่งยาขับปัสสาวะอีกประเภทหนึ่ง  เรียกว่า...

Potassium-sparing diuretics ให้แก่คนไข้....แต่ก็อีกนั้นแหละ...ผลเสียจากการใช้ยาตัวนี้  คือ

มันทำให้ “potassium” ในกระแสเลือดสูงขึ้นในคนไข้บางคนได้

ยาขับปัสสาวะทั้งหลาย (diuretics) เป็นยาที่เหมาะต่อคนไข้  ที่มีความดันโลหิตสูง 
 ซึ่งมีความไวต่อความเค็ม (salt-sensitive) และถูกนำไปใช้รักษาคนไข้ที่เป็นความดันสูงชนิด
isolated systolic hypertension

นอกจากใช้รักษาคนเป็นความดันโลหิตสูงแล้ว...

ยาขับปัสสาวะยังนำมาใช้รักษาอาการบวมจากโรคหัวใจล้มเหลว, โรคไต, โรคตับ
หรืออาการบวมในระยะก่อนมีประจำเดือน

ตามความเห็นของ JNC ได้รายงานเอาไว้ว่า...

ยาที่ทำหน้าที่ขับปัสสาวะ (diuretics)เป็นยาที่ดี  มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง
แต่ก็ปรากฏว่า  มีการใช้ยากลุ่มดังกล่าวกันน้อยมาก

เขาแนะว่า  เราควรใช้ thiazide diuretics เป็นยาตัวแรก  เพื่อรักษาคนไข้โรคความดันโลหิตสูง
 และควรใช้ร่วมกับยาลดความดันตัวอื่น ๆ  เมื่อจำเป็นต้องทำเช่นนั้น

ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ diuretics ได้แก่  
การทำให้มีการปัสสาวะบ่อยขึ้น, เกิดอาการวิงเวียน, เหนื่อยหล้า, ท้องร่วงหรือ ท้องผูก และ

กล้ามเนื้อปั้น....

นอกจากนั้น  สำหรับในคนไข้เพศชาย  อาจเกิดผลข้างเคียงด้วยอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

และทำให้เกิดอาการของโรคเก้าท์...ปวดข้ออย่างรุนแรง  
ซึ่งเป็นผลมาจากกรดยูริคถูกสะสมในกระแสเลือดในปริมาณสูงนั่นเอง

ยาขับปัสสาวะชนิด thiazide diuretics อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง

และในคนไข้บางอาจอาจทำให้เกิดระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น  หรือทำให้โรคเบาหวานมี

อาการเลวลงกว่าเดิมได้

สำหรับ... Potassium-sparing diuretics นอกจากจะทำหน้าที่ลดความดัน

โลหิตสูงด้วยการ “บล็อก” ฤทธิ์ของฮอร์โมน “aldosterone” ไม่ให้เก็บรักษา sodium และ น้ำไว้ใน
ร่างกาย   บางที่เราเรียกยาขับปัสสาวะชนิดนี้ว่า “aldosteron-receptor blockers”

แต่มีสามตัวในกลุ่มดังกล่าว ทำให้เกิดอาการอันไม่พึงปรารถนา

เช่น ทำให้นมโตขึ้น, หมดสมรรถภาพทางเพศ และทำให้สตรีมีประจำเดือนไม่ปกติ 
ยาทั้งสามได้แก่ Amiloride (Midamor), spironolone (Aldactone)

และ Triamterene (Dyrenium)

ในกลุ่ม potassium-sparing diuretics มียาที่ดีสำหรับใช้ลดความดันโลหิตสูง
ไม่ก่อให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์เหมือนกับสามตัวที่กล่าวมา

ยาตัวนั่นคือยา Eplerenone (Inspira)   ซึ่งออกฤทธิ์ต่อฮอร์โมน “aldosterone” เพียงตัวเดียวเท่านั้น 

ไม่ออกฤทธิ์ที่ฮอร์โมนตัวอื่นๆ

<< BACK    NEXT >>