วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความดันโลหิตของท่านเป็นปกติดีอยู่หรือ ? P. 6: Hypertensive Emergency

Feb. 10, 2014

Hypertensive emergency เป็นภาวะความดันเลือดสูงถึงระดับที่ควรได้รับ
การรักษาอย่างฉุกเฉิน ส่วน hypertensive urgency เป็นภาวะความดันเลือดสูง
ซึ่งที่ควรให้การรักษาอย่างเร่งรีบ...

อ่านมาถึงตรงนี้  หลายท่านอาจเกิดความงุนงงระหว่างคำ  "urgency"  กับคำว่า
"emergency" ได้....ลองอ่านต่อไป ท่านอาจเข้าใจความแตกต่างได้

Hypertensive emergency หรือภาวะความดันเลือดสูงวิกฤติ ซึ่งจะต้องได้
รับการรักษาอย่างฉุกเฉิน  ด้วยการทำให้ระดับความดันลดลงให้เร็ว
 เพราะมีอัยวะสำคัญหลายอย่างถูกทำลายไป (damage)  โดยความดันเลือดสูงมาก
กว่า 180 สำหรับค่าตัวบน (systolic) หรือ 120 สำหรับค่าตัวล่าง (diastolic) 
หรือระดับความดันเลือดอาจต่ำกว่าระดับดังกล่าวก็ได้....แต่ต้องมีอวัยวะภายในถูกทำลาย

ส่วนความดันสูงวิกฤติแบบ urgency...ไม่มีการทำลายของอวัยภายใน  และจะต้อง
ได้รับการรักษาอย่างรีบด่วน  โดยไม่จำเป็นต้องให้ความดันลดลงอย่างเร็ว
และไม่ต้องนอนพักในโรพยาบาล

ผลที่เกิดจากภาวะ hypertensive emergency อาจมีความรุนแรง
ได้ เป็นต้นว่า :

o สมองถูกทำลาย... (stroke)
o สูญเสียความจำ (memory loss)
o กล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลายจากการขาดเลือด (heart attack)
o ตา และไตถูกทำลาย (damage to the eye and kidneys)
o ไตสูญเสียการทำงานไป (loss of kidney function)
o เส้นเลือดใหญ่ เอ-ออ-ติค ฉีก (aortic dissection)
o เจ้บหน้าอก- angina (unstable angina)
o มีน้ำในปอด (pulmonary edema)
o เกิดชัก (eclampsia)

เมื่อใดก็ตาม ที่พบว่าความดันเลือดของท่านอ่านได้ 180/110 mm Hg
หรือสูงกว่า และท่านมีอาการที่บ่งบอกให้ทราบว่า มีอวัยวะภายในถูกทำลาย
เป็นต้นว่า เจ็บหน้าอก, หายใจลำบาก, ปวดหลัง, มีอาการชา หรืออ่อนแรง,
สายพล่ามัวา, พูดลำบาก....

ในกรณีเช่นนี้ ท่านต้องรีบแล้วละ...ห้ามรีรอเป็นอันขาด
ท่านจำเป็นต้องไปโรงพยาบาล- ห้องฉุกเฉิน) ทันที...

PREVIOUS >>p. 5:The symptoms of hypertensive crisis

NEXT >> P.7   : What is the test to make blood pressure ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น