Feb. 25, 2014
ในกรณีที่ตรวจพบว่า...
ไขมัน “ไตรกลัเซอไรด์” ในกระแสเลือดของท่านสูงมากๆ (sever hyper-
Triglyceridemia) เช่น สูงมากกว่า 500 mg/dL จะต้องได้รับการรักษาทันที
เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบของตับอ่อน (pancreatitis)
โดยทั่วไป ยาที่จะให้เป็นตัวแรก คือ fibrate ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
(lifestyle changes)
ในรายที่มีระดับ “ไตรกลีเซอไรด์” ในกระแสเลือดสูง 200 – 500 mg/dL:
การรักษาที่คนไข้ควรเริ่มการรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (lifestyle chages)
และตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดมีระดับไขมันตัวดังกล่าวสูง เป็นต้นว่า
ความอ้วน (obesity), ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ (hypiothyroidism)
หรือ โรคเบาหวาน (diabetes)
ถ้ายังปรากฏว่า ผลการตรวจ “ไตรกลีเซอไรด์” ยังสูง
สมาคม NCEP-ATP III ...แนะนำให้ทำการรักษา LDL cholesterol ก่อน
ต่อจากนั้นทำการรักษา non-HDL cholesterol ให้ลดสู่เป้าหมาย โดยการใช้ยา statin
ในขนาดที่เหมาะสม ซึ่งอาจตามด้วยยา fibrates(ถ้าจำเป็น)
การให้ยา fenofibrates ร่วมกับยา statin จะปลอดภัยที่สุด...
ส่วนยา gemfibrozil เมื่อใช้ร่วมกับ statin แล้วมีโอกาสเกิดการสลายตัวของกล้ามเนื้อ
(rhabdomyolysis) ได้
ในปัจจุบันได้รับการยอมรับให้ใช้ omega-3 fish oil เพื่อรักษาภาวะไขมัน
ไตรกลีเซอไรด์สูงได้ และสามารถให้เสริมยา statin ได้
Niacin ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับรักษา...
ซึ่งในปัจจุบันมียารวมรหว่าง Niacin และ simvastatin
สำหรับคนที่มีไขมัน “ไตรกลีเซอไรด์” สูงพอประมาณเพียงตัวเดียวเท่านั้น
ส่วนไขมันตัวอื่นๆ ยังอยู่ในระดับปกติ...
NCEP-ATP III ไม่ได้แนะนำอะไรเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม ถ้าระดับไขมัน “ไตรกลีเซอไรด์” มีระดับสูง และ
LDL cholesterol & non-HDL cholesterol มีความเข็มข้นเป็นปกติดี
เราอาจทำการรักษาด้วยยาเพื่อลดระดับ “ไตรกลีเซอไรด์” โดยเฉพาะใน
รายที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจจากหลอดเลือด (CVD)
หรือรักษาในรายที่เป็นโรคเบาหวานประเภท 2
<< BACK
www.aafp.org/afp/2011/0201/p242.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น