บ่อยครั้งที่เราพบเห็นคนไข้โรคแอลไซเมอร์ มาพบเราด้วยอาการที่แตกต่างกัน
เป็นความแตกต่างในกระบวนการคิด และพฤติกรรมแสดงออก ทีผิดเพี้ยนไปจากปกติ
และผู้เชียวชาญเเกี่ยวกับโรคนี้ ได้ทำการแบ่งโรคเป็น 7 stages ด้วยกัน
เป็นการแสดงให้เห็นความรุนแรงของโรคในแต่ละ stage จากปกติ ถึงขั้นที่แย่ที่สุด
เป็นการแบ่งตาม นาย Barry Reisberg, MD, Clinical director of the New York University School of Medicine Silverstein Aging and Dementia Research Center.
เขาได้ทำการแบ่งคนเป็นโรค...จากน้อยไปถึงขั้นรุนแรง ดังนี้
Stage 1: No impairment (Normal function)
เป็นระดับของคนปกติ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงในด้านความจำ มีความจำเป็นปกติ
Stage 2: Very mild cognitive decline (may be normal age- related changes or earliest signs of Alzheimer’s disease
คนที่อยู่ในกลุ่มนี้อาจมีความรู้สึกว่า มีความจำเสื่อมไป เช่น ลืมคำพูดที่คุ้นเคย หรือ ลืมตำแหน่งที่เคยวางสิ่งของเป็นประจำทุกวัน
แต่จากการตรวจของแพทย์, เพื่อน, เพื่อนร่วมงาน...ไม่พบความผิดปกติใด
Stages 3: Mild cognitive decline (early-stage Alzheimer’s can be diagnosed in some, but not all, individual with these symptoms)
เพื่อนๆ, คนในกลุ่มงาน หรือสมาชิกในครอบครัว สามารถพบเห็นความผิดปกติ ได้จากการสอบประวัติ และ การตรวจของแพทย์ อาจพบปัญหาเกี่ยวกับความจำ และการรวบรวมความคิด(concentration)
ความผิดปกติที่พบเห็นได้แก่:
• ปัญหาที่พบ จะเป็นคำพูด หรือชื่อที่ถูกต้อง
• จำชื่อของคนที่แนะนำให้ไม่ได้
• จะสังเกตพบเห็นความลำบากในงานด้านสังคม หรือลืมสิ่งของที่พึ่งผ่านมายกๆ
• ลืมของมีค่าไป
• มีความลำบากในการวางแผน หรือการปฏิบัติ งานตามที่วางไว้
Stage 4: Moderate Cognitive decline (Mild or early – stage
Alzheimer’s disease)
พอคนไข้พัฒนามาถึงขั้น นี้ คนไข้ควรจะได้รับการชักประวัติละเอียดขึ้น เพื่อตรวจให้รู้ถึงปัญหาต่างๆ ...
• ลืมเหตุการณ์ในระยะไม่นาน
• ไม่สามารถนับเลขย้อนกลับ เช่น นับจาก 100 ย้อนกลับ...ช่วงห่าง 7
• มีความลำบากในการทำงานที่ซับซ้อน เช่น วางแผนเลี้ยงอาหารค่ำ หรือจำค่าอะไรสักอย่าง...ทำไม่ได้
• ลืมประวัติเกี่ยวกับตนเองไป
• มีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย โดยเฉพาะเกี่ยวกับงานสังคม หรืองานที่ท้าทายทางสมอง
Stage 5: Moderately severe cognitive decline
(Moderate to mid-stage Alzheimer’s disease) ช่องว่างระหว่างความจำ และความคิด จะปรากฏให้เห็น และคนที่เป็นโรคนี้จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือวันต่อวัน :
• ไม่สามารถจะจำบ้านเลขที่ของตัวเอง หรือหมายเลขโทรศัพท์ตัวเอง
• มีความสับสน เขาอยู่ที่ไหน และวันเป็นวันอะไร
• ไม่สามารถที่จะนับถอยหลัง โดยเริ่มจาก 40 ลงมา หักออกทีละ 4 หรือจาก 20 ลงมาโดยหักออกทีละ 2
• ต้องให้คนอื่นช่วยเลือกเสื้อผ้าแบบไหนสำหรับฤดูกาลใด เขาจะไม่รู้
• ยังสามารถจำความสำคัญของคนในครอบครัวได้
• ยังไม่จำเป็นให้ช่วยในด้านการกินอาหาร หรือการขับถ่าย
Stage 6: Severe cognitive decline
(Moderately severe or mid-stage Alzheimer’s disease)
คนในกลุ่มนี้ พบว่า ความจำจะเลวลงเรื่อยๆ บุคลิกภาพเปลี่ยน และจำเป็นต้องพึง พาความช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน
ในกลุ่มนี้ เราจะพบ:
• หมดความตระหนักรู้ในเหตุการณ์ที่ผ่านไป ตลอดรวมถึงสภาพแวดล้อม
• ยังจำชื่อตัวเองได้ แต่ไม่สามารถจำประวัติของตัวเองได้
• สามารถแยกสิ่งที่เคยพบเห็น กับสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่สามารถจำชื่อลูก หรือผู้ให้การดูแลรักษาได้
• ต้องให้ช่วยแต่งตัวให้เหมาะสม ใส่เสื้อผ้าผิดเวลา เช่นใส่ชุดนอนตอนกลางวัน หรือใส่รองเท้าผิดข้าง
• มีพฤติกรรมการนอนเปลี่ยนไป เช่น นอนกลางวัน และไม่สามารถนอนตอนกลางคืนได้
• มีพฤติกรรม และบุคลิกภาพเปลี่ยน เช่น มีความวาดระแวง เห็นภาพหลอน เช่น เห็นผู้ดูเป็นคนแปลกหน้า
• มีแนวโน้มที่จะหลงทาง และเกิดการสูญหายไป
Stage 7 : Severe cognitive decline
(Severe or late-stage Alzheimer’s disease)
เป็นระยะสุดท้ายของโรค คนไข้พวกนี้ ไม่ตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม
ไม่สามารถสนทนาปราศรัยได้ ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้ แต่ เขาอาจพูดคำพูดบางคำ หรือบางประโยคได้
คนไข้ในกลุ่มสุดท้ายนี้ จำเป็นต้องได้รับความพึงพาเรื่องใน ชีวิตประจำวัน เช่น การรับประทานอาหาร การใช้ห้องน้ำห้องส้วม เขา อาจไร้ความสามารถที่จะยิ้มได้ ไม่สามารถนั่งโดยไม่มีอะไรช่วยเสริม
Reflexes จะผิดปกติ
กล้ามเนื้อจะแข็งเกร็ง (rigid) และ
การกลืนอาหารลำบาก
นั่นเป็นขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับคนเป็นโรค Alzheimer’s
คนที่ท่านพบเห็น อาจเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มที่แตกต่างกัน จึงทำให้ท่านเห็นว่า ไม่เหมือนกัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น