วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

Alzheimer’s Disease(7): Treatment

คนไข้ทุกคนที่มาพบแพทย์ สิ่งปรารถนาสูงสุด คือ
ขอให้แพทย์ทำการรักษาโรคของเขาให้ หายขาด
นั่นคือ สิ่งที่พบเห็นอยู่เป็นประจำ
แต่ความจริงมีว่า....มีโรคหลายชนิดที่พบเห็น แพทย์ไม่มีทางรักษาให้หายได้

“อัลไซเมอร” ก็เป็นโรคหนึ่ง ที่แพทย์ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้เลย
สิ่งที่แพทย์สามารถช่วยเหลือคนไข้ได้ คือ ช่วยความผิดปกติทางความคิด (cognitive) และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปให้ดีขึ้น

ลองมาพิจารณา “กระบวนการคิด” หรือ Cognitive process นั่นนะ มีขอบเขตกว้าง มากน้อยแค่ใด ?
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เขาให้คำจำกัดความ กระบวนการคิดเอาไว้ว่า มันครอบคลุมถึง:
• ความใส่ใจ (attending)
• การรับรับรู้ (perception)
• การจำได้ (remembering)
• การคิดอย่างมีเหตุผล (Reasoning)
• จิตนาการ หรือการวาดภาพในใจ (imagining)
• การคาการณ์ล่วงหน้า หรือการมีแผนการรองรับ (Anticipation)
• การตัดสินใจ (Decision)
• การแก้ปัญหา (Problem solving)
• การจัดกลุ่มสิ่งต่างๆ (classifying)
• การตีความหมาย (Interpretiing) และอื่น ๆ

องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ FDA ได้ยอมรับว่า มียาอยู่สองกลุ่มที่แพทย์เรานำมาใช้ รักษาโรค Alzheimer’s นั้นคือ

• Cholinesterase Inhibitor ซึ่งประกอบด้วยยา Aricept, Exelon, Razadyne และ Cognax
• Nemantine (namenda)

ยาทั้งสองกลุ่มดังกล่าว นำมาใช้ในการรักษาความผิดปกติทางความคิด เช่น การสูญเสีย ความทรงจำ (memory loss), อาการสับสน (confusion) หรือ มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ เหตุผล (problems and reasoning)

หมายเหตุ: กระบวนการความคิด จะครอบคลุมทุกอย่างที่กล่าวมา (ดู...ในวิพีเดีย สารานุกรม เสรี)

ในขณะที่โรค Alzheimer’s กำลังเลวลง ปรากฏว่ามีเซลล์ของสมองจำนวนมากตายลงไป ทำให้การติดต่อระหว่างเซลล์สมอง (neurons) เสียไป
นั่นคือต้นเหตุที่ทำให้อาการทางความคิด (cognitive) เสียไป และเลวลง

ในขณะที่แพทย์ไม่สามารถยับยั้งอาการเสื่อมของเซลล์สมอง และปล่อยให้เซลล์สมองตายลง ไปนั้น แพทย์ยังสามารถลดอาการแสดงที่เกิดขึ้น และยับยั้งความเสื่อมให้ชะลอลงได้ ในเวลาอันจำกัด ด้วยการอาศัยกระบวนการทางเคมี
ยับยั้ง “คลื่นประสาท” ระหว่างเซลล์ทั้งหลายภายในเนื้อสมอง
หมอบางคนใช้ยาทั้งสองกลุ่มร่วมกัน และแพทย์บางท่านใช้ยา vitamin E ในปริมาณที่สูง เพื่อรักษาอาการทางความคิดที่ผิดปกติ (cognitive problems)

ยาที่นำมาใช้รักษาคนไข้ Alzheimer’s ที่มีความรุนแรงขนาดปานกลาง ถึงรุนแรงสุด:

ยาที่นำมาใช้ในการรักษา คือยา Nemantine (namenda) ซึ่งในขณะนี้ได้รับการยอมรับ โดย FDA( องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ)
ให้แพทย์นำยา nemanda มาใช้รักษาคนไข้ ที่เป็นโรค เพื่อทำให้ความจำดีขึ้น คำพูดและ ภาษาดีขึ้น ตลอดรวมไปถึงการช่วยให้คนไข้สามารถทำงานตามปกติ
เราอาจใช้เพียงตัวเดียว หรือใช้ร่วมกับยารักษาตัวอื่น

มีหลักฐานบางอย่าง รายงานไว้ว่า คนไข้ที่เป็นโรค Alzheimer’s ทีมีความรุนแรง พอประมาณ ถึงขั้นรุนแรง อาจได้รับประโยชน์จากการใช้ยา nemanda
และยาในกลุ่ม Cholinesterase inhibitor มี Donepezil (Aricept) เป็นยาเพียง ตัวเดียวที่ได้รับการยอมรับว่า สามารถรักษาโรค Alzheimer’s ได้ทุกระยะจากน้อยถึง รุนแรงสุด

Nemantine:

ยาตัวนี้ มันมีบทบาทในการควบคุมการทำงานของสาร Glutamate
Glutamate เป็นสารเคมีอีกตัวหนึ่งทำหน้าที่เป็น “สื่อประสาท” (neurotramsmitter)
โดยมัน:

• มีส่วนข้องกับเรียนรู้ (learning) และความจำ (memory)
• ชะลอไม่ให้คนไข้บางรายมีอาการเลวลง ซึ่งช่วยได้ในระยะสั้น ๆ ผู้เชี่ยวชาญหลายนาย กล่าวว่า ประโยชน์หลายอย่างที่ได้จากยาตัวนี้ จะคล้ายกับที่ได้จากยาในกลุ่ม cholinesterase inhibitors
• ยาตัวนี้ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น ปวดศีรษะ (headache), ท้องผูก, สับสน (confusion) และ มึนงง (dizziness)

ในอดีตเคยมีคนนำเอา Vitamin E ขนาดสูงๆ มาใช้รักษาโรค Alzheimer’s เพื่อรักษา อาการทางการเรียนรู้ที่ผิดปกติไป
Vitamin E เป็น Antioxidant เป็นสารซึ่งเชื่อว่า อาจป้องกันไม่เซลล์สมองตาย และ ป้องกันเนื้อเยื้ออย่างอื่นของร่างกาย ไม่ให้เสื่อมสลายจากสารเคมีบางอย่าง
ในปี 1997 ได้มีการนำยาตัวนี้มาใช้ เพื่อชะลออาการเลวลงในการทำงาน ของคนไข้ Alzheimer’s
ต่อมาภายหลัง การศึกษาพบว่า Vitamin E ในขนาดที่สูง (high dose) ทำให้คนตาย มากขึ้น โดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจ (coronary disease)

เขาจึงสรุปว่า ไม่ควรนำเอา Vitamin E มาใช้ในการรักษาโรค Alzheimer’s ยกเว้น ภายใต้การดูและของแพทย์อย่างใกล้ชิด
Vitamin E ขนาดสูงๆ จะมีปฏิกิริยาทาง “ลบ” ต่อยาที่เรากำลังรับ...อยู่ เช่น ยาลดระดับ ไขมัน- cholesterol และ ยาป้องกันการจับตัวของเม็ดเลือด (blood thinner)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น