คนไข้ทุกคนที่มาพบแพทย์ สิ่งปรารถนาสูงสุด คือ
ขอให้แพทย์ทำการรักษาโรคของเขาให้ หายขาด
นั่นคือ สิ่งที่พบเห็นอยู่เป็นประจำ
แต่ความจริงมีว่า....มีโรคหลายชนิดที่พบเห็น แพทย์ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้
“อัลไซเมอร” ก็เป็นโรคหนึ่ง ที่แพทย์ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้เลย
สิ่งที่แพทย์สามารถช่วยเหลือคนไข้ได้ คือ ช่วยความผิดปกติทางความคิด (cognitive) และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปให้ดีขึ้น
ลองมาพิจารณา “กระบวนการคิด” หรือ Cognitive process นั่นนะ มีขอบเขตกว้าง มากน้อยแค่ใด ?
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เขาให้คำจำกัดความ กระบวนการคิดเอาไว้ว่า มันครอบคลุมถึง:
• ความใส่ใจ (attending)
• การรับรับรู้ (perception)
• การจำได้ (remembering)
• การคิดอย่างมีเหตุผล (Reasoning)
• จิตนาการ หรือการวาดภาพในใจ (imagining)
• การคาการณ์ล่วงหน้า หรือการมีแผนการรองรับ (Anticipation)
• การตัดสินใจ (Decision)
• การแก้ปัญหา (Problem solving)
• การจัดกลุ่มสิ่งต่างๆ (classifying)
• การตีความหมาย (Interpretiing) และอื่น ๆ
องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ FDA ได้ยอมรับว่า มียาอยู่สองกลุ่มที่แพทย์เรานำมาใช้ รักษาโรค Alzheimer’s นั้นคือ
• Cholinesterase Inhibitor ซึ่งประกอบด้วยยา Aricept, Exelon, Razadyne และ Cognax
• Nemantine (namenda)
ยาทั้งสองกลุ่มดังกล่าว นำมาใช้ในการรักษาความผิดปกติทางความคิด เช่น การสูญเสีย ความทรงจำ (memory loss), อาการสับสน (confusion) หรือ มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ เหตุผล (problems and reasoning)
หมายเหตุ: กระบวนการความคิด จะครอบคลุมทุกอย่างที่กล่าวมา (ดู...ในวิพีเดีย สารานุกรม เสรี)
ในขณะที่โรค Alzheimer’s กำลังเลวลงนั้น ปรากฏว่ามีเซลล์ของสมองจำนวนมากตายลง ไป ทำให้การติดต่อระหว่างเซลล์สมอง (neurons) เสียไป
นั่นคือต้นเหตุที่ทำให้อาการทางความคิด (cognitive) เสียไป และเลวลง
ในขณะที่แพทย์ไม่สามารถยับยั้งอาการเสื่อมของเซลล์สมอง และปล่อยให้เซลล์สมองตายลง ไปนั้น ยังดีที่แพทย์สามารถลดอาการแสดงที่เกิดขึ้น และยับยั้งความเสื่อมให้ชะลอลงได้ใน เวลาอันจำกัด ด้วยการอาศัยกระบวนการทางเคมี
โดยการใช้สารเคมียับยั้ง “คลื่นประสาท” ระหว่างเซลล์ทั้งหลายภายในเนื้อสมอง
หมอบางคนใช้ยาทั้งสองกลุ่มร่วมกัน และแพทย์บางท่านใช้ยา vitamin E ในปริมาณที่สูง เพื่อรักษาอาการทางความคิดที่ผิดปกติ (cognitive problems)
ยาที่นำมาใช้รักษาคนไข้ Alzheimer’s ที่มีความรุนแรงขนาดปานกลาง ถึงรุนแรงสุด:
ยาที่นำมาใช้ในการรักษา คือยา Nemantine (namenda) ซึ่งในขณะนี้ได้รับการยอมรับ โดย FDA( องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ)
ให้แพทย์นำยา nemanda มาใช้รักษาคนไข้ ที่เป็นโรค เพื่อทำให้ความจำดีขึ้น คำพูดและ ภาษาดีขึ้น ตลอดรวมไปถึงการช่วยให้คนไข้สามารถทำงานตามปกติได้ดีขึ้น
เราอาจใช้เพียงตัวเดียว หรือใช้ร่วมกับยารักษาตัวอื่น
มีหลักฐานบางอย่าง รายงานไว้ว่า คนไข้ที่เป็นโรค Alzheimer’s ทีมีความรุนแรง พอประมาณ ถึงขั้นรุนแรง อาจได้รัวประโยชน์จากการใช้ยา nemanda
และยาในกลุ่ม Cholinesterase inhibitor มี Donepezil (Aricept) เป็นยาเพียง ตัวเดียวที่ได้รับการยอมรับว่า สามารถรักษาโรค Alzheimer’s ได้ทุกระยะจากน้อยถึง รุนแรงสุด
Nemantine:
ยาตัวนี้ มันมีบทบาทในการควบคุมการทำงานของสาร Glutamate
Glutamate เป็นสารเคมีอีกตัวหนึ่งทำหน้าที่เป็น “สื่อประสาท” (neurotramsmitter)
• มีส่วนข้องกับเรียนรู้ (learning) และความจำ (memory)
• ชะลอไม่ให้อาการเลวลงในคนไข้บางราย ซึ่งช่วยได้ในระยะสั้น ๆ ผู้เชี่ยวชาญหลายนาย กล่าวว่า ประโยชน์หลายอย่างที่ได้จากยาตัวนี้ จะคล้ายกับที่ได้จากยาในกลุ่ม cholinesterase inhibitors
• ยาตัวนี้ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น ปวดศีรษะ (headache), ท้องผูก, สับสน (confusion) และ มึนงง (dizziness)
ในอดีตเคยมีคนนำเอา Vitamin E ขนาดสูงๆ มาใช้รักษาโรค Alzheimer’s เพื่อรักษา อาการทางการเรียนรู้ที่ผิดปกติไป
Vitamin E เป็น Antioxidant เป็นสารซึ่งเชื่อว่า อาจป้องกันไม่เซลล์สมองตาย และ ป้องกันเนื้อเยื้ออย่างอื่นของร่างกาย ไม่ให้เสื่อมสลายจากสารเคมีบางอย่าง
ในปี 1997 ได้มีการนำยาตัวนี้มาใช้ เพื่อชะลออาการเลวลงในการทำงาน ของคนไข้ Alzheimer’s
ต่อมาภายหลัง การศึกษาพบว่า Vitamin E ในขนาดที่สูง (high dose) ทำให้คนตาย มากขึ้น โดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจ (coronary disease)
เขาจึงสรุปว่า ไม่ควรนำเอา Vitamin E มาใช้ในการรักษาโรค Alzheimer’s ยกเว้น ภายใต้การดูและของแพทย์อย่างใกล้ชิด
Vitamin E ขนาดสูงๆ จะมีปฏิกิริยาทาง “ลบ” ต่อยาที่เรากำลังรับ...อยู่ เช่น ยาลดระดับ ไขมัน- cholesterol และ ยาป้องกันการจับตัวของเม็ดเลือด (blood thinner)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น