ไวรัสตับลงตับ...หรือ ตับอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส ตามที่คนทั่วไปเข้าใจกัน
แม้ว่ามันจะเป็นโรคที่น่ากลัว ( ไม่มีใครอยากเป็นโรคดังกล่าว )แต่เราก็สามารถป้องกันมันได้ ด้วยวิธีการใช้ immonglobulin
เมื่อเราจำเป็นต้องไปเผชิญกับคนที่เป็นโรค
การให้ immunoglobulin จะให้ก็ต่อเมื่อเราผู้รับ ได้เผชิญกับคนที่เป็นโรคอักเสบจากเชื้อไวรัส
เป็นการให้สารที่สามารถเข้าไปต่อต้านเชื้อโรคที่เข้าไปอยู่ในร่างกายแล้วทันที เราเรียกว่า passive protection
ส่วนการฉีดวัคซีน เป็นการฉีดวัควีนซึ่งมีเชื้อไวรัสที่ถูกฆ่าตายแล้ว หรือชิ้นส่วนของไวรัส ที่ไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ (infective components)
ฉีดเข้าร่างกาย จากนั้นร่างกายก็จะสร้างภูมิต้านของตัวเองขึ้น
ฉีดเข้าร่างกาย จากนั้นร่างกายก็จะสร้างภูมิต้านของตัวเองขึ้น
Immunoglobulins ที่มีใช้:
o Immune serum globulin (ISG)- ได้จากน้ำเลือดของคน ซึ่งมีแอนตี้บอดี้ ที่สามารถต้านทานไวรัสตับอักเสบ A
ถูกนำมาใช้ในคน ที่ไปสัมผัสกับคนเป็นโรคไวรัสตับอักเสบ A ซึ่งสามารถป้องกันได้ทันที และสามารถคงสภาพการป้องกันได้หลายเดือน
มักจะใช้ในรายที่คนเราต้องเดินไปยังสถานที่มีการอักเสบจากไวรัสตัวดังกล่าว
ISG มีผลข้างเคียงน้อยมาก
o Hepatitis B immune globulin หรือ HBIG (BeyHebB)- เป็นภูมิต้านทานที่ได้จากน้ำเลือดของคน
ซึ่งมีภูมิต้านทานไวรัส B surface antigen ในปริมาณสูง
ซึ่งมีภูมิต้านทานไวรัส B surface antigen ในปริมาณสูง
หากเราให้แก่คนที่สัมผัสกับคนที่เป็นโรคไวรัส B ภายในระยะเวลา 10 วัน สามารถป้องกันไม่ให้คนเกิดโรคได
แม้ว่า จะให้ช้าไปนิดก็ตาม มันยังสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ จะป้องกันได้นานเพียง 3 อาทิตย์เท่านั้น
Vaccinations:
o Hepatitis A- ในสหรัฐฯ มีวัคซีนสำหรับป้องกันไวรัสที่ทำให้เกิดตับอักเสบจากไวรัส A อยู่สองตัว (Hayrix และ Vagta
ไวรัสทั้งสองชนิด ทำจากเชื้อไวรัสที่ถูกฆ่าไปแล้ว
ในการฉีดวัคคซีนเพื่อกันโรคตัวนี้ เขาให้ 2 doses ด้วยกัน หลังจากให้เข็มแรก ภายในสองอาทิตย์ สามารถป้องกันโรคได้ 70 %
และสามารถป้องกันได้ 95 % เมื่อได้เข็มที่สองใน 4 อาทิตย์
หลังจากได้รับวัคซีนจำสวน 2 doses แล้ว มันสามารถปกป้องคนได้นานหลายปี
o Hepatitis B- เป็นวัคซีนที่ไม่มีอันตรายใด เป็น Hepatitis B Antigen เป็นวัคซีนที่ฉีดเข้าไปแล้ว
มันกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิต้านทาน ทำหน้าที่ต่อต้านเชื้อไวรัสตับอักเสบ B ( Surface antigen of Hepatitis B)
มันเป็น recombinant hepatitis B vaccine ซึ่งทำจากสารโปรตีนที่ได้จากผิวของไวรัส (surface antigen)
เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้ว สามารถสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B ได้
วัคซีนตัวนี้ ให้ทั้งหมด 3 doses ด้วยกัน หลังจาก Dose แรก เราให้เข็มที่สองในเวลา 1 – 2 เดือน
และเข็มที่ สาม ให้ในเวลา 4 – 6 เดือนหลังจากเข็มแรก
และเข็มที่ สาม ให้ในเวลา 4 – 6 เดือนหลังจากเข็มแรก
เพื่อให้ได้ผลดี เขาบอกว่า ควรฉีดวัคซีนที่บริเวณกล้ามเนื้อ ต้นแขน ไม่ใช้ บริเวณกล้ามเนื้อสะโพก
o Hepatitis C
ในปัจจุบันนี้ เรายังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันไวรัสตับอักเสบ ไวรัส
กล่าวโดยสรุปแล้ว เราพบว่า ไวรัสตับอักเสบที่ทำให้เกิดการอักเสบของตับ มีอยุ่หลายตัว (A,B,C,D,E และ G)
ที่พบมากที่สุด คือ A,B และ บุคคลที่เสี่ยงต่อการติดโรคไวรัสนั้น ได้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ให้การรักษาคนป่วยที่เป็นโรค คนสำส่อนเสพเมถุนไม่เลือก
พวกใช้เข็มฉีดยาของพวกติดยา พวกโรคเลือด –hemophiliacs และจากการให้เลือดที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส
ไวรัสทุกตัวที่กล่าวมาสามารถทำให้เกิดตับอักเสบได้ทั้งนั้น
มีแต่เฉพาะ B C เท่านั้นที่ทำให้เกิดเป็นตับอกัเสบเรื้อรัง
ในคนไข้ตับอักเสบจากไวรัส ชนิดเฉียบพลัน มีอาการประกอบด้วยลักษณะของคนเป็นหวัด...Flu-like มีปัสสาวะสีดำ อุจจาระซีด มีตาเหลือง
ตัวเหลืองในที่สุด
ตัวเหลืองในที่สุด
คนไข้ตับอักเสบเรื้อรังจากเชื้อไวรัส มักจะไม่มีอาการ หรือมีน้อย จึงทำให้การวินิจฉัยช้าออกไป
สำหรับการรักษาคนไข้ที่เป็นโรคตับชนิดเรื้อรัง มีเป้าหมายที่ “ป้องกัน” ไม่ให้ตับถูกทำลายลงไปอีก ป้องกันไม่เกิดเป็นมะเร็ง
และสุดท้ายฃสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน....ซึ่งพวกเราทุกคนสามารถเลือกทีจะทำเช่นนั้นได้อยู่แล้ว....
Resource:
www.umm.edu >….> Complementary medicine
www.medicinet.com >……..> viral hepatitis.index
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น