Aug. 3, 2013
Continued
RAYNAUD PHENOMENON TREATMENT
ด้วยการปฏิบัติตนตามขั้นตอนอย่างง่ายๆ ท่านสามารถลดความถี่ (fequency)
ของการเกิดอาการของปรากฏการณ์เรนอยด์ลงได้ และยาอาจช่วยลดอาการของ
ภาวะดังกล่าวได้ สิ่งที่ท่านควรพิจารณานำไปปฏิบัติมีดังต่อไปนี้:
• หลีกเลี่ยงสัมผัสกับความเย็น:
การทำให้ร่างกายของท่านมีความอบอุ่นทุกส่วน ไม่สัมผัสกับความเย็น
หรือหลีกเลี่ยงจากการเข้าไปในที่มีอุณหภูมิที่มีความแตกต่างอย่างรวดเร็ว
เช่น เข้าไปในแอร์.... ซึ่งหมายความว่า ท่านจะต้องนุ่งห่มให้ร่างกาย
ให้มีความอบอุ่น และใส่ถุงมือ
• ทำให้อาการหายไป:
มีวิธีการมากมายที่สามารถทำให้อาการหายไป เช่น เอามือแช่น้ำอุ่น
หรือเอามือไว้ในที่มีความอบอุ่น เช่น วางไว้ในบริเวณรักแร้ของท่านเอง
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่:
สารนิโครตีน และสารเคมีอย่างอื่นๆ ในบุหรี่สามารถทำให้เส้นเลือดเกิดการหดตัว
และทำให้เกิดปรากฏการณ์เรย์นอยด์เลวลงได้
• หลีกเลี่ยงการใช้ยา ซึ่งทำให้เส้นเลือดหดตัว:
เป็นต้นว่า ยาลดน้ำมูก (decongestants) ซึ่งมีสาร phenylephrine หรือย pseudoephedrine,
amphetamines, diet pills, และยารักษาอาการไมเกรน เช่น พวก ergotamine
นอกจากนั้น ยังมีสมุนไพรบางชนิดที่มีสาร ephedra และ มียาอีกหลายตัว
ซึ่งใช้รักษาโรคทางจิตประสาท (attention deficit disorder)
เช่น methylphenidate, dextroamphetamine- amphetamine และ atomoxetine
• ลดความเครียดลง:
การลดความเครียดด้วยวิธีผ่อนคลาย แบบใหนก็ก็ได้ เช่น การหายใจ ฝึกสติปัฏฐาน 4
ก็สามารถลดความเครียดลงได้
Medicine :
หากปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ที่กล่าวมา ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แพทย์ หรือพยาบาล
อาจแนะนำให้ท่านใช้ยารักษา และยาที่ใช้กันบ่อยที่สุดได้แก่ ยากลุ่ม calcium channel
blockers สามารถลดทั้งความรุนแรง และความถี่ของปรากฏการณ์เรนอยด์ลงได้
โดยท่านอาจรับทานยาเมื่อท่านต้องสัมผัสกับความเย็น เช่น ในช่วงฤดูหนาว
Secondary Raynaud phenomenon
ในคนที่เป็น secondary Raynaud phenomenon ในบางครั้งจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่าง
จริงจัง เพราะคนไข้ส่วนใหญ่จำเป็นต้องลดความถี่ (frequency) ของการเกิดปรากฏการณ์
เรย์นอยด์ และป้องกันไม่ให้เกิดบาดเจ็บขึ้นกับผิวหนังของนิ้วมือ และนิ้วเท้า
มียาหลายตัว ซึ่งได้รับการศึกษา เพื่อใช้รักษาคนที่ไม่ตอบสนองต่อ
ยา calcium channel blockers ยาดังกล่าวได้แก่
• Nitrates (tropical nitroglycerin)
• Antihypertensive drugs เช่น prazosin หรือ angiotensin
receptor inhibitorss (losartan)
• Phosphodiesterase inhibitors (sidenafil, pentoxifylline,
Orcilostazol)
• Antidepressant medication ( fluoxetine)
• Prostaglandins (prostacyclin)
คนไข้ในกลุ่มนี้ หากไม่ตอบสนองต่อการรักษา และการไหลเวียนของเลือดสู่นิ้วมือ
และนิ้วเท้าถูกตัดขาดอย่างรุนแรง อาจจำเป็นต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล และเพิ่มยา
รักษาเพื่อขยายเส้นเลือด และป้องกันไม่ให้มีลิ่มเลือดเกิดขึ้น
ในคนไข้บางราย อาจจำเป็นต้องใข้ยา หรือทำการผ่าตัดเพื่อบล๊อกคลื่นประสาท
ซึ่งกระตุ้นให้เส้นเลือดเกิดการหดตัว โดยการฉีดยา Botox ตรงตำแหน่งฐานของนิ้วมือ...
อาจช่วยเหลือได้
แม้ว่าคนไข้จะได้รับการรักษาดีแค่ใด...มีบางราย (แต่น้อยมาก) ไม่สามารถทำให้เส้นเลือด
หายจากการหดตัว ในรายเช่นนั้นอาจลงเอยด้วยการเป็นแผล (ulceration)
และหากการรักษาต่างๆ ตามที่กล่าวมา ไม่สามารถทำให้เนื้อเยื่อที่ขาดเลือดหายได้
อาจลงเอยด้วยการตัดนิ้วทิ้งได้
<< Prev.
www.uptodate.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น