วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ไวรัสตับอักเสบ B ชนิดเรื้อรัง (2) : มีการตรวจเลือดชนิดใดที่ท่านควรรู้... ? (Cheonic Hepatitis : Laboratory Tests You need to know

Aug. 2, 2013
(continued)

สมมุติว่า ท่านเป็น chronic hepatitis B...

แพทย์ผู้ดูแลท่านมักจะสั่งให้มีการตรวจอย่างอื่นอีก เพื่อเช็คว่า
ท่านยังมีการอักเสบ (active) หรือไม่ ?

การตรวจเพิ่มเติมได้แก่:


 HBeAg และ anti-HBe:


HBeAg เป็น antigen ทีอยู่บนผิวที่หุ้มห่อ (envelope) เชื้อไวรัส

และ anti-HBe เป็นภูมิต้านทานที่ถูกสร้างขึ้น  เพื่อต่อต้าน  HBeAg

ถ้าท่านถูกตรวจพบ HBeAg ในเลือดของท่าน   มันหมายความว่า

เชื้อไวรัสยังคุกรุ่นอยู่ (acitve)   โดยอาศัยอยู่ในตับของท่าน และพร้อมที่จะ
แพร่กระจายไปทำลายคนอื่น

ถ้าเลือดของท่านตรวจพบ HBeAg negative และพบ  anti-HBe positive

หมายความว่า เชื้อไวรัสที่อยู้่ในตัวของท่าน  มันไม่ทำงาน (inactive)
และไม่สามารถที่จะแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปยังคนอื่นได้...
นั่นเป็นทฤษฎี

อย่างไรก็ตาม มันไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป   เพราะมีคนบางคนที่เป็น chronic hepatitis 

มาเป็นเวลาหลายปี เชื้อไวร้ส  มันสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบเป็น   “precore” 
หรือ “core variant”    ทำให้ผลการตรวจเป็น HBeAg เป็น Negative และ anti-HBe Positive
โดยที่เชื้อไวรัส  ที่อยู่ในตับยังอยู่ในสภาพสามารถทำลายล้าง (acitve) 
และพร้อมที่จะแพร่กระจายไปทำลายคนอื่นได้

 HVB viral load:


เป็นการตรวจหาปริมาณของเชื้อไวรัส  HBV  ในกระแสเลือดของท่าน 

 ซึ่งนำมาช่วยพิจารณาว่า   เชื้อไวรัสมีการแบ่งตัวภายในตับของท่านหรือไม่ ?

ในคนที่ตรวจพบ HBeAg และ  มี HBV viral load > 20,000 IU/mL

มันบอกให้ทราบว่า เชื้อไวรัสกำลังคุกรุ่น (active) อาศัยอยู่ภายในตับ
และพร้อมทำลายตับของท่านได้สูงมาก และ...

ในคนที่พบตรวจไม่พบ   HBeAg  ( Negative)   เป็น chronic Hepatitis B และผล

การนับ HBV viral load > 2,000 IU/mL   บ่งชี้ให้ทราบว่า 
 เชื้อไวรัสยังคุกรุ่น    และพร้อมที่จะทำลายเนื้อตับของท่านได้ทุกเมื่อ

โดยทั่วไป ถ้าผลการตรวจ viral load ได้ตัวเลขที่สูงกว่านี้...

เขาจะพิจารณาให้การรักษา    

อย่างไรก็ตาม  มีผู้เชี่ยวชาญบางนายเชื่อว่า 

 คนที่เป็นไวรัสตับอักเสบ B   เมื่อตรวจพบว่ามี viral load ทั้งๆ มีค่าตำ่ก็ตาม 
จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของตับ
ดังนั้นเขาจึงมีความเห็นว่า  ควรให้การรักษา

 Liver Function Tests:


เอ็นไซม์ของตับที่สำคัญที่สุด ที่ควรตรวจ คือ alamine Aminotransferase (ALT) 

และบางครั้งแพทย์อาจสั่งให้มีการตรวจ SGPT ด้วย

ผลการตรวจพบ ALT มีค่าสูง บอกให้ทราบว่า ตับทำงานผิดปกติ และมีบ่งชี้ให้ทราบว่า 

ตับมีความเสี่ยงต่อการถูกทำลาย   ในระหว่างที่มีการอักเสบของตับอย่างเฉียบพลัน 
 ค่าของ ALT  อาจเพิ่มสูงได้ในช่วงสั้นๆ    และไม่น่าจะเกิดปัญหาแก่ตับได้

ในรายที่มีการไวรัสตับอักเสบ B เรื้อรัง... ALT สามารถสูงได้เป็นบางครั้งบางคราว 

หรือมีระดับสูงอย่างต่อเนื่อง   ซึ่งบ่งบอกให้ทราบถึงภาวะตับมีความเสี่ยงต่อ
การถูกทำลายระยะยาวได้

<< Prev.   Next>>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น