Aug. 22, 2013
Medications for Rheumatoid Arthritis (RA)
(continued)
DMARDs:
DMARDs เป็นตัวย่อของ disease-modifying antirheumatic drugs...
เป็นยาที่ออกฤทธิ์อย่างช้า ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนการดำเนิน
ปัจจุบัน
ยาในกลุ่มดังกล่าว ได้ถูกนำมาใช้รักษาโรครูมาตอยด์กันมากที่สุด
คือ methotrexate นอกจากยาตัวดังกล่าวแล้ว ยังมียาตัวอื่น ๆ อีกหลายตัว
ถูกนำมาใช้รักษาโรคชนิดเดียวกันนี้ ได้แก่ hydroxychloroquine (Plaquenil), sulfasalzine (Azulfidine, Azufudube EN-Tabs), lefflunomide (Arrava)
และAzathioprine (Imuran)
คือ methotrexate นอกจากยาตัวดังกล่าวแล้ว ยังมียาตัวอื่น ๆ อีกหลายตัว
ถูกนำมาใช้รักษาโรคชนิดเดียวกันนี้ ได้แก่ hydroxychloroquine (Plaquenil), sulfasalzine (Azulfidine, Azufudube EN-Tabs), lefflunomide (Arrava)
และAzathioprine (Imuran)
เป็นที่น่าสังเกตุว่า...
ในคนไข้ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ จะได้รับการรักษา
ด้วยยากลุ่ม DMARDs ในช่วงต้นๆ ของการเกิดโรค เพราะการให้ยาในระยะ
แรก ๆ ของการเกิดโรค ยาสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ข้อถูกทำลายลงได้
แรก ๆ ของการเกิดโรค ยาสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ข้อถูกทำลายลงได้
หากให้การรักษาช้า...ย่อมทำให้เกิดทำลายข้อได้
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของแพทย์จะต้องให้ยากลุ่มดังกล่าวแต่เนิ่น ๆ
ยิ่งให้ได้เร็วเท่าใดยิ่งเป็นผลดีแก่คนไข้มากเท่านั้น
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของแพทย์จะต้องให้ยากลุ่มดังกล่าวแต่เนิ่น ๆ
ยิ่งให้ได้เร็วเท่าใดยิ่งเป็นผลดีแก่คนไข้มากเท่านั้น
Biologic agents:
ในขณะนี้เรายังมียากลุ่มใหม่สุด โดยถูกนำมาใช้รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ซึ่งเป็น “เซทย่อย” ของยากลุ่ม DMARDs
มีชื่อเรียก biologic response modifiers หรือเรียกว่า biologics
ยาในกลุ่มใหม่นี้มีด้วยกันถึง 10 ขนาน ซึ่งถูกนำไปใช้รักษาโรครูมาตอยด์
เช่น abatacept (Orencia), adalimumab (Humira), anakinra (Kineret), certolizumab pegol (Cimzia) etanercept (Enbrel), infliximab (Remicade), golimumab (Simponi) and rituximab (Rituxan).
มีชื่อเรียก biologic response modifiers หรือเรียกว่า biologics
ยาในกลุ่มใหม่นี้มีด้วยกันถึง 10 ขนาน ซึ่งถูกนำไปใช้รักษาโรครูมาตอยด์
เช่น abatacept (Orencia), adalimumab (Humira), anakinra (Kineret), certolizumab pegol (Cimzia) etanercept (Enbrel), infliximab (Remicade), golimumab (Simponi) and rituximab (Rituxan).
ยาในกลุ่ม biologics แต่ละตัว จะออกฤทธิ์ด้วยการขัดขวางขั้นตอนต่างๆ
ในกระบวนการอักเสบเป็นการเฉพาะ:
Ø กลุ่มทำหน้าทีขัดขวาง cytokine ที่มีชื่อ tumor necrosis factor-alpha
ในกระบวนการอักเสบเป็นการเฉพาะ:
Ø กลุ่มทำหน้าทีขัดขวาง cytokine ที่มีชื่อ tumor necrosis factor-alpha
(TNF) ได้ Cimzia, Enbrel,
Humera, Remicade and
Simponi
ยาในกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า TNF inhibitors
Ø กลุ่มทำหน้าที่ขั้ดขวาง cytokine ที่มีชื่อเรียก Interleukin-1 (IL-1)
Ø กลุ่มทำหน้าที่ขั้ดขวาง cytokine ที่มีชื่อเรียก Interleukin-1 (IL-1)
ได้แก่ Kinerret
Ø กลุ่มท่ำหน้าที่ข้ดขวางการกระตุ้น T-cells ได้แก่ยา Orencia
Ø กลุ่มที่ขัดขวาง B cells
Ø กลุ่มทำหน้าที่ขั้ดขวาง cytokine ที่มีชื่อเรียก interleukine-6 (Il-6)
Ø กลุ่มท่ำหน้าที่ข้ดขวางการกระตุ้น T-cells ได้แก่ยา Orencia
Ø กลุ่มที่ขัดขวาง B cells
Ø กลุ่มทำหน้าที่ขั้ดขวาง cytokine ที่มีชื่อเรียก interleukine-6 (Il-6)
ได้แก่
Actemra
ข้อสังเกตุ:
เนื่องจากยาในกลุ่ม biologics ต่างทำหน้าที่ขัดขวางขั้นตอนของการอักเสบ
ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ไม่สามารถกวาดล้างภูมิต้านทาน ซึ่งเป็๋นเป็นอันตราย
ต่อร่างกายได้หมด... แต่ผลจากการใช้ยากลุ่มดังกล่าว สามารถชะลอ,
ต่อร่างกายได้หมด... แต่ผลจากการใช้ยากลุ่มดังกล่าว สามารถชะลอ,
ปรับเปลี่ยน
หรือยุติการดำเนินของโรคลงได้ โดยยากลุ่มอื่นไม่สามารถทำได้
JAK inhibitors:
จัดเป็นยากลุ่มใหม่เมื่อเปรียบกับยาในกลุ่ม Biologics
ได้แก่ tofacitinib (Xeljanz) จัดเป็นกลุ่มย่อยของยากลุ่ม DMARDs
ซึ่งรู้ในชื่อ JAK inhibitors โดยออกฤทธิ์ขัดขวางการทำงานของ Janus kinase
หรือ JAK pathway ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานที่ผิดเพี้ยน
ของระบบภูมิคุ้มกัน
หรือ JAK pathway ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานที่ผิดเพี้ยน
ของระบบภูมิคุ้มกัน
ข้อแตกต่างของสาร JAK inhibitors จากสารกลุ่ม biologics
คือ สาร JAK inhibitos สามารถรับทานได้
ทื้งหมดเป็นข้อมูลโดยย่อของยาที่ถูกใช้รักษาโรครูมาตอยด์
ซึ่งท่านควรรู้เอาไว้ อาจมีประดยชน์ไม่มากก็น้อย
ส่วนรายละเอียดของการใช้ยาดังกล่าว จะได้กล่าวกันต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น