เป้าหมายของการรักษาความดันโลหิตสูง ขึ้นกับสุขภาพของท่านเป็นสำคัญ
ถ้าสุขภาพของท่านดี เป้าหมายของความดัน คือ 140/90 mmHg หรือต่ำกว่า
แต่ถ้าสุขภาพของท่านไม่ดี เช่น มีโรคไตเรื้อรัง (chronic kidney disease)
โรคเบาหวาน (diabetes) โรคหลอดเลือด และหัวใจ
หรือผู้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือด และหัวใจ
ความดันโลหิตของท่านจะต้องมีค่า 130/80 mmHg
หรือต่ำกว่า
ถ้าหากหัวใจของเราทำงานได้ไม่ดี เช่น หัวใจล้มเหลว (heart failure)
หรือโรคไตเรื้อรัง (chronic kidney disease)
ระดับความดันควรอยู่ระหว่าง 120/80 mmHg
หรือต่ำกว่านั้น
ถ้าหากท่านเป็นคนสูงอายุ 80 หรือมากกว่านั้น
แพทย์อาจตั้งระดับความดันโลหิตให้สูงกว่า 140/90 mmHg เพียงเล็กน้อย
ในการรักษาความดันโลหิตสูง แพทย์จะแนะนำให้ให้ท่านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง
เพื่อควบคุมความดันโลหิตของท่าน บางครั้ง
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง
เช่น เรื่องอาหารการกิน และการออกกำลังกาย อาจไม่เพียงพอ..
ดังนั้น แพทย์อาจจำเป็นต้องให้ยาเม็ดรับประทาน
เพื่อเป็นการลดความดันโลหิตของท่าน...ลง
แพทย์จะให้ยากลุ่มใดแก่ท่าน ขึ้นกับ ของความดันโลหิต(สูง)อยู่ในขั้นใด (stage)
รวมทั้งโรคประจำตัว ที่ท่านมี
ยาที่แพทย็เขานำมาใช้รักษาความดัน มีหลายกลุ่มด้วยกัน
o Thiazide diuretics. เป็นยาขับปัสสาวะ หรือชื่อ “ Water pill”
ออกฤทธืที่ไตทำหน้าที่ขับสาร sodium และ น้ำออกจากกาย ทำให้ปริมาณของน้ำในกายลดลง
ยาที่ใช้ คือ Thiazide มักเป็นตัวแรกที่นำมาใช้ในการลดความดันลง
ยกตัวอย่าง เช่น หากความดันของท่านสูง และทานไม่ได้รับ diuretics
แพทย์อาจให้ยาตัวใดตัวหนึ่งในกลุ่มอื่นแก่ท่านเพื่อลดความดัน
หรือ ใช้ยาร่วมกับ diuretic
o Beta Blocker. ยาในกลุ่มนี้ลดการทำงานของ (workload) ของหัวใจลง
โดยการเปิดเส้นเลือดให้กว้างขึ้น เป็นเหตุให้หัวใจเต้นช้าลง (slow heart rate)
หัวใจไม่ต้องออกแรงมาก
ในการใช้ยาตัวนี้ หากเพียงตัวเดียวในคนผิวดำ หรือคนสูอายุ....มักจะไม่ค่อยได้ผลดี
แต่เมื่อใช้ร่วมกับ thiazide diuretic.จะได้ผลดี
o Angiotensin converting enzyme (ACE) inhibitors.
ยาตัวนี้ จะทำหน้าที่ช่วยลดความดัน โดยทำให้เส้นเลือดคลายตัว (relax)
ด้วยการสกัดกั้น ไม่ให้มีการสร้างสารเคมี ที่ทำหน้าที่ให้เส้นเลือดหดตัว (vasoconstriction)
ซึ่งเป็นเหตุให้กิดมีเส้นเลือดหดตัว
o Angiotensin II Receptors blockers ยาในกลุ่มนี้
ออกฤทธิ์โดยป้องกันไม่ให้สารเคมี ทำให้เส้นเลือดหดแคบลง
ไม่ใช้ป้องกันการสร้างสารเคมี....เหมือนพวก ACE
o Calcium channel blockers มันออกฤทธิ์โดยการทำให้เส้นเลือดคลายตัว (relax)
อาจมีการลดอัตราการบีบตัวลง(heart rate)
ยาในกลุ่มนี้ ทำงานได้ดีในคนผิวดำ หรือคนสูงอายุ และดีกว่าการใช้ ACE หรือ beta blocker อย่างเดียว
ผลเสียตัวนี้ ห้ามใช้ยาตัวนี้กับน้ำองุ่น (grape juice) เพราะมันสามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อกันได้
เป็นอันตรายต่อคนไข้ได้
o Renin inhibitors. ยาในกลุ่มนี้ Aliskiren (Tektuma)
มันทำหน้าที่สร้างสาร Renin
สาร Renin เป็นเอ็นไซม์ที่สร้างในไต...ซึ่งมีขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำให้ความดันโลหิหิตสูง
ยา Tektuma จะทำหน้าที่ลดขบวนการทำงานของ Renin ลง
หากคนไข้ได้รับการรักษาด้วยการใช้ยาร่วมกับยาตัวอื่น ๆ แล้ว ไม่ได้ผล แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยา Tektuma
ร่วมในการรักษาก็ได้
o Alpha blocker. สารตัวนี้ จะไปลดคลื่นประสาทที่เส้นเลือดลง
ยังผลให้เส้นเลือดคลายตัว (relax)โดยมันจะลดผลที่เกิดจากสารเคมีที่ได้จากธรรมชาติ
ซึ่งสามารถทำให้เส้นเลือดหดเล็กลง
o Central blocking agents. ยาในกลุ่มนี้
จะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้สมองสั่งการ (signaling) ไปทำให้หัวใจเต้นเร็ว และไม่ให้เส้นเลือดหดตัว
o Vasodilators. เป็นยาท่ำหน้าที่โดยตรงต่อกล้ามเนื้อของเส้นเลือด
ป้องกันไม่ให้มีการหดตัว ปล่อยเส้นเลือดให้ขยายตัว
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อรักษาความดันโลหิตสูง
(Lifestyle changes to treat high blood pressure)
ไม่ว่าแพทย์เขาจะให้ยารักษาความดันชนิดแก่ท่าน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความดันยังมีความจำเป็นอยู่ดี
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ได้แก่ การรับประทานอาหารสุขภาพ ลดอาหารประเภทเค็มลง
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เลิกสูบบุหรี่ และอย่าให้น้ำหนักตัวเพิ่ม
หากน้ำหนัท่านเพิ่มอยู่แล้ว ท่านต้องลด
Resistant hypertension:
ในกรณีที่เราไม่สามารถไม่สามารถควบคุม หรือลดความดันลงมาได้
แม้ว่า ท่านจะได้รับยาถึงสามตัวแล้วก็ตาม
หนึ่งในจำนวนสามตัวดังกล่าว คือ diuretic
เราเรียกความดันชนิดนี้ว่า Resistant hypertension
ซึ่งหมายถึง คนไข้มีความดันสูงโดยที่ความดันของเขาไม่ตอบสนองต่อยารักษา...ที่เขาได้รับ
สำหรับคนไข้ความดันโลหิตสูง ซึ่งได้รับยารักษาจำนวน 4 ตัว แม้ว่า เราสามารถควบคุมความดันได้ก็ตาม
รายังเรียกว่า Resistant hypertension อยู่ดี
การเป็น Resistant hypertension ไม่ได้หมายความว่า เราไม่สามารถลดความดันลงสู่ปกติ....
เรายังสามารถลดความดันสู่ระดับปกติได้
แต่สิ่งที่แพทย์ และคุณจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน คือ หาสาเหตุที่อยู่บื้องหลังความดันโลหิตสูงนั้นให้ได้
แพทย์ที่ทำหน้าที่รักษาท่าน สามารถตรวจสอบ และวิเคราะห์ ชนิด และขนาดของยาที่ใช้รักษาความดัน
ว่า มันมีความเหมาะสมหรือไม่ ?
คุณอาจได้รับการปรับขนาดของยา (ขึ้น หรือลง)ตามความเหมาะสม
นอกเหนือไปจากนั้น ตัวท่านเอง และแพทย์จะได้พิจารณายาต่าง ๆ ที่ท่านใช้รักษาโรคอย่างอื่น
เช่น ยาบางตัว หรืออาหารเสริมบางชนิด
เพราะมียาเหล่านั้นอาจมีผลทำให้ความดันของท่านสูงขึ้นได้
หรือป้องกันไม่ให้ยาที่ท่านกำลังใช้อยู่นั้น ทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือไม่ทำงานเลย ?
ถ้าคุณไม่ปฏิบัติตาม ไมรับประทานยาตามแพทย์สั่ง.....
หรืองดเว้นการรับปะทานยาไปสักวัน ด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม
สามารถทำให้การควบคุมโรคความดันไม่ประสบผลได้
ผลเสียหายต่างๆ จะเกิดขึ้น...ไม่ได้เกิดขึ้นกับแพทย์ผู้ทำการรักษาเลย
แต่มันเกิดขึ้นกับตัวท่านเอง
www.mayoclinic.comhealth/high-blood-pressure/DS00100/DSECTION
www.cdc.gov/bloodpressure/about.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น