วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

เบาหวาน: Diabetes and Gastroparesis

เป็นที่ยอมรับกันว่า การที่คนเรา มีอาการผิดปกติทางกระเพาะ และลำไส้
จัดเป็นเรื่อง ที่พบเห็นเป็นประจำ
รวมถึงคนที่เป็นโรคเบาหวานด้วย

ในช่วงหนึ่งของชีวิตของคนเรา ต่างมีโอกาสมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่เกิดขึ้นกับกระเพาะ และลำไส้
เช่น กระเพาะอาหารอักเสบ เป็นแผล เป็นนิ่วในถุงน้ำดี กระเพาะ-ลำไส้ไวต่อสิ่งเล้า
อาหารเป็นพิษ หรือโรคภัยอย่างอื่น

จากการได้พบเห็นคนไข้สูงอายุ มีจำนวนจำนวนหนึ่ง ที่เปฌนเบาหวาน
มาด้วยอาการทางกระเพาะ-ลำไส้ สามารถพบปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ช่องปาก
ท่ออาหารส่วนบน (esophagus) ลงไปถึงลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก
ดังนั้น อาการของคนไข้จึงมีได้ต่าง ๆ กัน ตามตำแหน่งที่เป็นโรค

อาการที่เราพบเห็นกันบ่อย ๆ ได้แก่ กลืนอาหารลำบาก (dysphasia)
รับประทานอาหาร อิ่มเร็วไป (satiety)Reflux (กรดไหลย้อน)
ท้องผูก (constipation)
ปวดท้อง (abdominal pain) คลื่นไส้ (nausea)
อาเจียน (vomiting) และท้องล่วง (diarrhea)

มีคนเป็นจำนวนไม่น้อย ที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย และไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์
เพราะไม่ความสำพันธ์กับโรคเบาหวาน

ในคนที่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งมีระดับน้ำตาลสูงในระยะไม่นาน (acute)
หรือ มีมานาน (chronic hyperglycemia)เนื่องมาจากสาเหตุไม่ได้รับการควบคุมที่ดี
สามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางระบบกระเพาะ และลำไส้ได้
เหมือนกับภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่น ที่เกิดในโรคเบาหวาน

เมื่อมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงมา ซึ่งเกิดจากการควบคุมไม่ได้
น้ำตาลจไปตามเกาะเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย เกาะแล้วเกาะเลย
ไม่แต่เพียงเท่านั้น มันยังเป็นพิษ ต่อจากนั้น จะมีการทำลายเซลล์ที่มันเกาะ

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้มีการทำลายส้นเลือด เส้นประสาท
ของระบบกระเพาะ และลำไส้ ทำให้การทำงานของมันผิดปกติไป

คนเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งมีภาวะแทรกซ้อนทางตา (retinopathy)
ทางไต (nephropathy) ทางประสาท (neuropathy)
ให้คาดเดาได้เลยว่า คนไข้ที่มีอาการแทรกซ้อนเหล่านั้น
จะมีอาการทางกระเพาะลำไส้ด้วยเสมอ

อย่างที่กล่าว ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ที่เกิดขึ้นกับระบบกระเพาะลำไส้
จะมีส่วนสัมพันธ์กับประสาท ที่ไปหล่อเลี้ยงระบบดังกล่าว
ซึ่งมีพยาธิวิทยาในการเกิดโรค เช่นเดียวกับเส้นประสาทของเท้าถูกทำลายไป

เมื่อเส้นประสาทที่ไปหล่อเลี้ยงกระเพาะลำไส้ถูกทำลาย จะมากหรือน้อย แล้วแต่กรณี
แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะนำไปสู่การทำให้ความผิดปกติขึ้น
เช่น การเคลื่อนไหว (motility) ของกระเพาะ-ลำไส้ผิดปกติไป
รวมไปถึง ความรู้สึก...การขับน้ำย่อย (secretion) และการดูดซึม (absorption)
ซึ่งมีความรุนแรงของอาการแตกตจ่างกันไป

การที่เส้นประสาทที่ไปหล่อเลี้ยงกระเพาะอาหารถูกทำลายลงไปนั้น
ทำให้เกิดภาวะอย่างหนึ่ง เรียก Gastroparesis
เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อของกระเพาะเป็นอัมพาต หรืออ่อนแรงลง
ทำให้การทำงานผิดปกติ ใช้เวลาให้การขับเคลื่อนอาหารสู่ลำไส้ (emptying time)
นานกว่าปกติ ทำให้มีอาหารถูกกักเก็บไว้ในกระเพาะ และลำไส้
เป็นเหตุ ให้เกิดอาการต่าง ๆ
เช่น อาการแน่นเสียดท้อง ท้องพอง อิ่มเร็วเกินไป ปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน

นอกจากนั้น การมีอาหารถูกเก็บกัก ไว้ในกระเพาะ
จะทำให้อาการของกรดไหลย้อนกับ และอาการแสบท้อง (heart burn)

ยิ่งเป็นอาหารประเภทไขมันมัน หรือมีเส้นใยมาก ๆ ย่อมทำให้การทำงานของกระเพาะข้าลง
เป็นเหตุทำให้คนไข้มีอาการมากยิ่งขึ้น
นั่น คือภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ทีมีต่อกระเพาะอาหาร


www.journal.diabetes.org/clinicaldiabeyes/V18N42000/pg148.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น