หากเราไดติดตามข่าวสารด้านสุขภาพกัน จะพบคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายที่จะเกิดจาก
Cholesterol ในเลือดสูงเกิน ว่า มันเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เกิดโรคหัวใจขึ้น
นั่นเป็นเรื่องปกติ ที่เราท่านต่างทราบกันดี
สำหรับ Triglyceride...
ก็เป็นเรื่อง ที่เราควรให้ความสนใจเช่นกัน
Triglycerides เป็นไขมันในกระแสเลือดของคนเรา
ซึ่งมาจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั่นเอง
ร่างกายของเราจะผลิต triglyceride จากอาหารที่เป็น “คาร์โบไฮเดรต”
และ “อาหารที่เป็นมัน” ทั้งหลาย ที่เรารับประทานเข้าไป ไม่ไดมาจากที่อื่นเลย
ประมาณ 90 % ของไขมัน triglyceride เป็นไขมัน ที่มีอยู่ในเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดไขมัน
ถามว่า Triglyceride มีประโยชน์ต่อร่างกายหรือเปล่า ?
ไขมันที่ถูกสะสมไว้ในร่างกายของมนุษย์ เป็น Triglyceride ถึง 99 %
และไขมันตัวนี้แหละที่ ทำหน้าที่เป็นแหล่งสะสมของพลังงานในระยะยาว ของคนเรา
ซึ่งมันจะถูกสะสมไว้ในปริมาณที่มีความหนาแน่นมากกว่า แป้ง (starch)
และ โปรตีน (protein) ที่มีอยู่ในกล้ามเนื้อ
ในการสร้างไขมันนั้น จำเป็นต้องอาศัย “อินซูลิน”
Triglyceride ที่อยู่ในไขมัน จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานในตอนกลางวัน
ในระหว่างอาหารแต่ละมือ และในตอนกลางคืน
หรือเมื่อใดก็ตาม ที่ร่างกายอดอาหาร หรือในเวลาที่มีระดับอินซูลินลดลงต่ำ
ร่างกายจะใช้ triglyceride ทันที
เซลล์ไขมัน (fat cells) มีความสามารถสะสมไขมันได้อย่างมหาศาล
ซึ่งเป็นแหล่งทำให้คนเรามีความอ้วนเกิดขึ้น
เมื่อเราอดอาหาร หรืออยู่ในภาวะที่ขาดอินซลิน ตับจะทำหน้าที่เปลี่ยนไขมันให้เป็นพลัง
และทำให้เกิดมีผลพลอยได้ (by product) เป็น Ketones
ภายใต้ภาวะที่มีระดับ triglyceride ในปริมาณสูง ๆ
มักจะสัมพันธ์กับ HDL cholesterol ที่มีระดับต่ำเสมอ
ซึ่งนำไปสู่การทำให้เกิดภาวะ ทีเราเรียกว่า Diabetic dyslipidemia
และส่วนที่สาม มันจะมีส่วนสัมพันธ์กับไขมันเลว นั่นคือ LDL cholesterol
ซึ่งมีลักษณ์พิเศษ คือทำให้เส้นเลือดแข็ง (artherogenic)
โดยการไปเกาะตามผนังของเส้นเลือด
มีภาวะอย่างหนึ่ง คือ metabolic syndrome เป็นผลรวมของ
(1) triglyceride ในกระแสเลือดระดับสูง ๆ (2)ระดับ HDL cholesterol ต่ำ
และ (3)ความอ้วนรอบบั้นเอว
Metabolic syndrome มักจะเกิดขึ้นในคนเป็นเบาหวานถึง 80 %
ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงทีทำให้เกิดโรคหัวใจ ทำให้คนไข้เสียชีวิตก่อนเวลาอันควร
ระดับของ Triglyceride ค่าปกติ น้อยกว่า 150 mg/dl , borderline high 150- 199,
High 200-499 mg/dl , Very high 500 mg/dl หรือมากกว่า
ในคนปกติ ตอนอดอาหาร (fasting state) ระดับ triglyceride
อยู่ระหว่าง 100-150 mg/dl หรือต่ำกว่า
หลังรับประทานอาหาร ระดับของไขมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 300 mg/dl
ส่วนคนที่เป็นเบาหวานขนิดที่สอง ระดับของ triglyceride
จะมีค่าสูง ทั้งขณะท้องว่าง และหลังอาหาร
ในการตรวจหาค่า triglyceride ควรอดอาหารอย่างน้อย 12 ชั่วโมง
และงดดื่มแอลกอฮอล 24 ชั่วโมง
ในคนเป็นโรคเบาหวานชนิดที่สอง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ
ควรให้ระดับ triglyeceride ต่ำกว่า 150 mg/dl
ในคนไข้บางคนที่เป็นเบาหวานชนิดที่สอง มีระดับ triglyceride สูง 400 mg/dl
หรือบางรายอาจสูงถึง 2,000 mg/dl ได้
และในกรณีที่มี triglyeride สูงมากกว่า 1,000 mg/dl สามารถทำให้เกิดการสูญ
เสียความจำ (memory loss) มีอาการปวดท้อง (abdominal pain)
หรือแม้กระทั้งทำให้เกิดการอักเสบของตับอ่อน ซึ่งมีความรุนแรงถึงชีวิตได้
นั่นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ triglyceride ...
www.diabeteslibrary.org/View.aspx?url=Article717
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น