Niacin หรือ B3 เป็นไวตามิน ที่เมื่อรับประทานในปริมาณมาก
สามารถทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้นได้
ดังนั้น จึงไม่เหมาะที่จำนำมาใช้รักษาเบาหวาน
แต่ตามความจริงแล้ว หากใช้ยาในขนาดน้อย (small dose) สามารถรักษาโรคได้
ผลการศึกษาของนักวิจัยจาก University of Texas Southwestern Medical center
ได้ทำการศึกษาโดยการให้ยา niacin ที่ค่อยออกฤทธิ์อย่างช้า ๆ (extended release)
พบว่า ทำให้ระดับของไขมันดีขึ้น มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับน้ำตาลน้อยมาก
ผลจากการศึกษาก่อนหน้านั้น พบว่า การให้ niacin ในขนาดสูง ๆ
จะมีผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในกระแสเลือด โดยทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้น
แต่จากการศึกษาในตอนหลังนี้ เมื่อให้ยา niacin ในขนาด 1,000 mg/day และ 1,500 mg/day
ปรากฏว่า คนไข้สามารถทนต่อการใช้ยาได้เป็นอย่างดี
มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของน้ำตาลน้อยมาก
ที่สำคัญมีผลต่อการควบคุม lipids และ cholesterol ได้เป็นอย่างดี
คนไข้เบาหวานมี Triglyceride สูง ซึ่งได้รับยาลดไขมันชื่อ fibrate
เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ niacin ปรากฏว่า
ในการเพิ่ม HDL cholesterol ในกระแสเลือด: Niacin ได้ผลดีกว่าการใช้ fibrated
Niacin นอกจากจะเพิ่ม HDL cholesterol แล้ว ยังลด triglycerides ได้ดีด้วย
คนไข้เบาหวานส่วนใหญ่ มักจะได้รับยายาลดไขมัน ประภท statins เป็นประจำ
เพื่อใช้ลดไขมันประเภท LDL cholesterol
นอกจากนั้น การให้ niacin ร่วมกับ statins ในคนไข้เบาหวาน
สามารถควบคุมพวก lipids และ lipoproteins ได้เป็นอย่างดี
กล่าวโดยสรุป niacin ในขนาด (dose)น้อย สามารถใช้รักษาในคนไข้เบาหวาน
โดยมุ่งเป้าของการรักษา ไปที่ลดระดับของ lipids และ lipoproteins ลง
โดยไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลเลย
www.newtraingredients-usa.com/Research/Niacin-could-be-dibetes-treatment
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น