ยาทุกชนิดที่เรารับ....เพื่อการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ทุกตัวสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
นั่นเป็นเรื่องที่เราได้รับฟังมานาน เป็นเรื่องที่เราต้องระมัดระวัง...
มีความจริงอย่างหนึ่ง อาจทำให้เรางงได้...ยกตัวอย่าง
มียาจำนวนไม่น้อย เมื่อเรารับประทานเข้าสูร่างกายแล้ว
มันทำให้สารที่เป็นประโยชน์ต่อกายหลายอย่าง (nutrients) พร่องไป
ทำให้เราเกิดอาการขึ้น ซึ่งมันคือผลข้างเคียงที่เราพูดถึงนั้นเอง
ลองมาพิจาณาดูว่า มีอะไรบ้างที่ควรรู้
มียาอยู่หลายตัว หรือหลายกลุ่ม เป็นเหตุให้เกิดการดูดซับเอาไวตามิน และธาตุเกลือแร่เสียไป
หรือเป็นเหตุให้ร่างกายของเราขับมันออกจากร่างกายเราเกินไป
เมื่อมีเหตุการณ์ณีเช่นนั้นเกิดขึ้น จะก่อให้เกิดอาการจากน้อย ไปหามากได้
เช่น เหนื่อยหล้า อาการทางกระเพาะอาการ (stomach upset)
ไปจนถึงอาการที่รุนแรง เช่น โรคของหัวใจ โรคกล้ามเนื้อ และเส้นประสาทถูกทำลายไป
Diabetic Drugs:
คนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานส่วนมาก ซึ่งได้รับยาในกลุ่ม Sulfonylureas
เช่น glimepiride (Amaryl) glipizide(Glucotrol) และตัวอื่น ๆ
ยาเหล่านี้จะไปกระตุ้นตับอ่อน ให้สร้างอินซูลิน เพื่อทำหน้าที่ลดน้ำตาลในกระแสเลือดลง
ส่วน Metformin จะไม่ทำให้สารอินซูลินในกระแสเลือดสูงขึ้นแต่อย่างใด
สารอาหารที่เสียไปจากการใช้ยาในกลุ่มดังกล่าว...คือ CoQ10
ในคนเป็นเบาหวานมีโอกาสตายจากโรคหัวใจ และสมองขาดเลือดมากเป็นสองเท่าของคนปกติ
เมื่อท่านรับยาในกลุ่มใน sufonylureas จะเพิ่มการสูญเสีย CoQ10
ทำให้อาการที่ไม่พึงปราถนาหลายอย่างเกิด
ดังนั้น เมื่อท่านรับยา sulfonyluea เพื่อการรักษาโรคเบาหวานของท่าน
อย่าลืมเสริม CoQ10 30-100 mg/day
ส่วน Metformin จะทำให้ร่างกายของท่านสูญเสีย B12
ซึ่งควรได้รับการชดเชยด้วยการได้รับ B12
Antibiotics:
ยาปฏิชีวนะที่เราใช้กันบ่อยที่สุด คือ azithromycin (Zithromax) amoxicillin
ciprofloxacin (Cipro) Ofloxacin(Floxin) และ erythromycin
สารอาหารที่เสียไปจากการใช้ยาปฏิชีวนะพวกนี้ ได้แก่
• B vitamins ไวตามินพวกนี้ มีความสำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญ (metabolism)
ของร่างกาย ตลอดรวมไปถึงการทำงานของระบบภุมิคุ้มกัน และการทำงานของประสาท
• Vitamin K มีบทบาทสำคัญต่อการทำให้เลือดหยุดไหล (clotting)
และเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก เป็นที่ทราบกันว่า ในลำไส้ของคนเรามีกลุ่มเชือโรค (bacteria)
จำนวนหนึ่ง ซึ่งจัดเป็นเพื่อนบ้านทีดีของเรา เช่น Bifidobacterium bifidus
และ Lactobacillus acidophilus
ยาปฏิชีวนะทุกตัว นอกจากจะทำลายเชื้อโรคที่เป็นภัยแล้ว มันยังทำลายแบกทีเรียที่มีประโยชน์
ซึีง มันทำหน้าที่ส่งเสริมให้ระบบกระเพาะและลำไส้ให้ทำงานได้สมบูรณ์ขึ้น
และยังช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเรา ให้อยู่ในสภาพที่สมดุลอีกด้วย
ดังนั้นทุกครั้งที่ท่านรับ..ยาปฏิชีวนะอย่าลืมรับยาพวกไวตามินเสริมด้วนเสมอ และ
เสริมด้วยพวก Probiotic supplement เช่น พวก Yogert ซึ่งมีเชื้อโรคทีเป็นประFยชน์ต่อร่างกาย
เช่น L.idus, L. acidophilus organism
High Cholesterol Drugs:
ยาลดไขมันที่นิยมใช้มากที่สุด คือ พวก statins ทั้งหลาย เช่น simvastatin atorvastatom
Fluvastatin lovastatin และ pravastatin
สารอาหารที่เสียไปจากการใช้ยาในกลุ่มนี้ คือ CoQ10
เซลล์ทุกชนิดในร่างกายของเรา จำเป็นต้องอาศัย CoQ10
เพื่อให้การทำงานของ mitochondria ดำเนินไปได้ตามปกติ
โดย mitochondria เป็นโครงสร้างขนาดเล็กสุด มีบทบาทในการผลิตพลังงานภายในเซลล์แต่ละเซลล์
ดังนั้น เราจึงพบว่า เซลล์ชนิดใด ต้องทำงานมากจำเป็นต้องพึ่งพา CoQ10 ในจำนวนมาก
ยกตัวอย่าง กล้ามเนื้อของหัวใจ ซึ่งต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา
ในขณะเดียวกัน การมีระดับไขมัน cholesterol สูง ก็เป็นอันตรายต่อหัวใจเช่นกัน
แพทย์บางท่าน มีความห่วงใยกับการการให้ statin ในระยะยาว
เพราะมันอาจทำให้คนที่เป็นโรคหัวใจเลวลงได้
และจากการศึกษาพบว่า คนเป็นโรคหัวใจเรื้อรัง (chronic heart failure) มีระดับ CoQ10 ต่ำ
และจากการให้ CoQ10 แก่คนไข้จำพวกนี้ สามารถทำให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น
อาการแสดงที่เกิดจากร่างกายขาด CoQ10 ได้แก่ อาการเหนื่อยหล้า อ่อนเพลีย และกล้ามเนื้ออ่อนแรง
ดังนั้นทุกครั้งที่ท่านได้รับยา statin อย่าลืมรับประทาน CoQ10 อย่างน้อย 30 mg ต่อวัน
และ ท่านสามารถหาสาร CoQ10 ได้จากสารอาหาร เช่น จากเนื้อวัว (beef) เนื้อไก่ (Chicken)
Salmon ส้ม (oranges) และ broccoli
PAINKILLERS:
มีคนเป็นจำนวนไม่น้อย ที่ต้องรับประทานยาแก้ปวด ประเภท NSAIDs
เช่น ibuprofen naproxen celebrex และอื่น ๆ เพื่อรักษาโรคไขข้ออักเสบ
และลดอาการปวดจากการอักเสบชนิดอื่น ๆ
ผลเสียจากการใช้ยาในกลุ่มนี้ ทำให้ร่างกายขาดสาร folic acid
Folic acid เป็น water soluble vitamin B ซึ่งร่างกายต้องการนำไปสร้างเซลล์
และ DNA รวมไปถึงการสร้าง (synthesize) และการใช้ protein
การทำงานของหัวใจก็ถูกระทบจากการขาด folic acid ด้วย
จากการขาด folic acid อาจทำให้คนไข้หมดความรู้สึกไม่อยากทานอาหาร หงุดหงิด (irritable)
อ่อนแรง หายใจถี่สั้น ท้องล่วง ปวดศีรษะ เป็นโรคเลือดจาง หัวใจเต้นเร็ว และอื่น ๆ
หากคุณจำเป็นต้องรับ NSAIDs นานเกินหนึ่งถึงสองอาทิตย์
อย่าลืมรับยา Folic acid ด้วย
(400-800 mcg/day)
Beta-Blockers:
ยาลดความดัน ในกลุ่มนี้ เช่น pronpanolol atenolol metoprolol….
ถูกนำมาใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง และโรคต้อหิน glaucoma)
จากการใช้ยาในกลุ่มนี้ จะทำให้ร่างกายเราสูญเสีย CoQ10 ไป
อย่าลืมว่า CoQ10 มันช่วยทำให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น โดยเฉพาะคนเป็นโรคหัวใจเรื้อรัง
(chronic heart failure)
จากการศึกษาพบว่า มันปัองกันไม่ให้เกิด heart attack เกิดขึ้นได้เช่นกัน
ฉะนั้นทุกครั้งที่กินยาลดความดันในกลุ่มนี้...อย่าลืมรับยา CoQ10 30-100 mg/day
ACE INHIBITORS:
ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ Enalapril รวมปึงยาในกลุ่ม ARBs เช่น irbesartan
เป็นยาที่นำมาใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง
ยาในกลุ่มนี้ จะทำให้ร่างายสูญเสีย Zinc ไป
เป็นที่ทราบว่า Zinc ทำหน้าที่เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
จากการศึกษาพบว่า มันอาจช่วยย่นระยะเวลาการเป็นหวัดให้สั้นลงได้ ?
นอกจากนี้ Zinc ยังมีประโยชน์ทำให้แผลหายไว ทำให้กระดูกแข็งแรง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้
ฉะนั้น เมื่อท่านได้รับยาลดความดันดังกล่าว ยาลืมรับประทาน Zinc(50-100 mg/day)
ซึ่งท่านสามารถหาได้จากสารอาหารประเภท เนื้อวัว หอย oysters ไก่ เนื้อหมู(สันหลัง)
นม ถัว พวกธัญพืชต่าง ๆ
REFLUX DRUGS:
ยาที่เราใช้กันสมอ ๆ คือ proton pump inhibitors เช่น omeprazole เป็นยาที่นิยมใช้รักษาพวก
Chronic heatburn- ซึ่งเรารู้สนชื่อ gastroesophageal reflux disease (GERD)
และกระเพาะเป็นแผล
เมื่อรับประทานยาพวกนี้จะทำให้ร่างายของเราขาด B12
โดยสรุป ยาที่เรารับประทานทีซื้อหาเพื่อรับประทานเอง หรือจากแพทย์ที่จ่ายให้เป็นประจำ
ต่างมีส่วนดี และส่วนเสียด้วยกันทุกชนิด...
นอกจากเราจะทราบ และระมัดระวังแล้ว สิ่งที่เราควรทำคือ หากไม่จำเป็นแล้ว ให้พยามหลีกเลี่ยง
และ ที่สำคัญ สิ่งที่เราจะขาดไม่ได้ คือ
(1) รับประทานอาหารสุขภาพทุกวัน เช่น ผัก ผลไม้ พวกธัญพืชทั้งหลาย
(2) ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อย 30 นาที
(3) นอนหลับพักผ่อน 6- 8 ชั่วโมงทุกวัน
(4) ปฏิบัติธรรม ชำระจิตทุกวัน
หากเราทำได้แค่นี้ เราสามารถชดเชยส่วนไม่ดีทั้งหลาย ที่ร่างกายของเรารับเข้ามาโดยไม่รู้ตัวได้ไม่มากก็น้อย
www.diabeteslibrary.org/View.aspx?url=drugs-that-steal-nutrient
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น