10/11/12
มะเร็งของปอดชื่อ Adenocarcinoma…
มันเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ทิ่ผิดปกติ มีการแบ่งตัวจนไม่สามารถควบคุมได้
และเกิดเป็นมะเร็งขึ้น สุดท้าย เซลล์ของมะเร็งนี้เองสามารถ
แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณรอบๆ
และในบริเวณระหว่างปอดทั้งสอง, ตับ, กระดูก,
ต่อมเหนือไต และสมอง
เมื่อนำเอามะเร็งชนิดนี้ไปเปรียบกับมะเร็งปอดชนิดอื่น จะพบว่า
Adenocrcinoma มีแนวโน้มที่จะอยู่กับที่ในตำแหน่งเดียว และตอบสนอง
ต่อการรักษาได้ดีกว่ามะเร็งปอดชนิดอื่น ๆ
มันเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยสุดในกลุ่มมะเร็งปอดทั้งหลาย
และมักจะพบเห็นในคนที่เป็นพวกที่สูบบุหรี่
อย่างไรก็ตาม มันเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในคนไม่สูบบุหรี่
และเป็นมะเร็งชนิดที่พบได้บ่อยสุดของมะเร็งปอด
ซึ่งเราพบเห็นในสตรีและในคนที่มีอายุน้อยกว่า 45
ซึ่งเราพบเห็นในสตรีและในคนที่มีอายุน้อยกว่า 45
ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดมะเร็งชนิด adenocarcinoma จะมีลักษณะเหมือน
กับมะเร็งของปอดชนิดอื่น ๆ
§ Smoke การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด
ตามเป็นจริง คนสูบบุหรี่มีโอกาสเกิดมะเร็งปอดได้ถึง 13 เท่าของคนไม่สูบบุหรี่
การสูบไปป์ หรือสูบซิกการ์ ก็มีอันตรายเหมือนการสูบบุหรี่เช่นกัน
§ Breath tobacco smoke. ถึงแม้เราไม่สูบบุหรี่ แต่สูดเอาควันบุหรี่ของคนอื่น
ก็ทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดได้เช่นกัน
§ Exposed to radon gas. การสัมผัสกับแก๊สเรดอน ซึ่งมีกัมมันตาภาพรังสี
สามารถทำให้เกิดมะเร็งได้ โดยเป็นสาเหตุอันดับสองที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด
§ Exposed to asbestos. Asbestos เป็นสารที่นำไปใช้ทำฉนวน,
ใช่เป็นส่วนประกอบวัสดุป้องกันไฟ และอื่นๆ คนที่ทำงานในสถานที่ก่อสร้าง
ที่มีสาร asbestos ในปริมาณสูงมาก เช่นสถานที่สร้างหรือซ่อมเรือ หรือเครื่องยนต์
จะทำให้คนเหล่านั้น มีโอกาสเกิดมะเร็งปอด adenocarcinoma ได้สูง
นอกจากนั้น เขายังมีโอกาสเกิดมะเร็งอีกชนิดหนึ่ง คือ mesothelioma
ซึ่งเป็นมะเร็งของเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ ปอด
§ Exposed to other cancer- causing agents at works. การทำ
งานในสถานที่มีสารที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น uranium, arsenic, vinyl chloride,
nickel chromates, coal products, mustard gas, chloromethyl ethers,
gasoline, และควันรถยนต์ดีเซล
อาการ (Symptoms)
มะเร็งปอดทุกชนิด รวมทั้ง adenocarcinoma จะมีอาการเหมือนกันหมด
โดยมีอาการต่อไปนี้
§ ไอตลอดเวลา
§ ไอมีมีเลือดออกมา
§ หายใจลำบาก
§ หายใจหอบ
§ เจ็บหน้าอก
§ มีไข้
§ กลืนอาหารลำบาก
§ เสียงแหบ
§ น้ำหนักลด
§ เบื้ออาหาร
ถ้ามะเร็งกระจายไปนอกทรวงอก มันสามารถทำให้เกิดอาการอย่างอื่นได้
ยกตัวอย่าง คนไข้อาจมีอาการปวดกระดูกถ้ามะเร็งกินกระดูกเข้า
นอกจากนั้น มะเร็งอาจไปที่อื่น ๆ และทำให้เกิดอาการอ่างอื่นเข้า
การวินิจฉัย (Diagnosis)
ในการวินิจฉัยโรคมะเร็งไม่ใช้เรื่องยาก...
แพทย์ของท่านจะเริ่มทำการซักประวัติความเจ็บป่วยของท่าน
เช่น เรื่องการสูบบุหรี่ หรือใกล้ชิดกับสถานบันเทิง ซึ่งมีโอกาสได้สูดควันบุหรี่
เขาอาจถามถึงสถานที่ทำงานของท่านว่า มีส่วนใกล้ชิด
หรือสัมผัสกับสาร asbestos หรือสารที่เป็นตัวก่อให้เกิดมะเร็งหรือไม่ ?
ต่อไปแพทย์จะทำการสั่งตรวจด้วยภาพ เพื่อตรวจดูว่ามีก้อนภายในปอดหรือไม่ ?
ส่วนใหญ่คนไข้ที่สงสัยจะได้รับการตรวจเอกซเรย์ปอด
ถ้าเอกซเรย์ปอดเกิดความสงสัยว่า อาจเป็นมะเร็งของปอด
แพทย์จะสั่งทำการตรวจ computed tomography (CT) scan
ซึ่งสามารถให้ภาพที่ละเอียดขึ้น แพทย์สามารถเห็นขนาดของมะเร็ง
และตำแหน่งของมะเร็งได้ชัดเจนขึ้น
นอกจากนั้น แพทย์อาจสั่งตรวจ magnetic resonance imaging (MRI) scan
หรือสั่งตรวจ positron emissiotomography (PET) scans ให้ท่าน
สิ่งที่ท่านควรรู้ คือ การตรวจ MRI scans สามารถให้ภาพของสิ่งผิดปกติ
ได้ละเอียดขึ้น มันเป็นการใช้คลื่นวิทยุ และคลื่นแม่เหล็กเป็นตัวสร้างภาพให้
เห็น ไม่ใช้รงสีเอกซเรย์
ส่วนการตรวจด้วย PET scans เป็นการตรวจดูการ activity ของเนื้อเยื้อมากกว่าที่จะตรวจ
ทางกายภาพเหมือนการตรวจ MRI scans
ในมะเร็งของปอด จะเห็นภาพที่บ่งบอกให้ทราบว่า มันมี metabolic activity สูง
จากการตรวจด้วยภาพดังกล่าวมา หากพบว่ามีความสงสัยเกิดขึ้น..
แพทย์ย่อมทำการตรวจอย่างอื่นเพิ่มอีก เพื่อเป็นการยืนยันกาวินิจฉัยโรค,
ทราบชนิดของมะเร็งปอด และดูว่า มะเร็งได้กระจายไปจากปอดแล้วหรือยัง?
การตรวจเหล่านั้นได้แก่:
§ Sputum exam. เอาเสมหะของคนไข้มาตรวจหาเซลล์มะเร็ง
§ Biopsy. เอาชิ้นเนื้อที่ได้จากคนไข้มาทำการตรวจหามะเร็ง ดูเซลล์
มะเร็งว่า เป็นมะเร็งชนิดเซลล์เล็ก หรือเซลล์ใหญ่
§ Bronchoscopy. เปนการตรวจด้วยการใช้เครื่องมือสอดเข้าปอด ผ่าน
ทางปาก เพื่อสำรวจดูมะเร็งในปอด พร้อมกับตัดเอาชิ้นเนื้อมาตรวจ
§ Mediastinoscopy. เป็นการสอดเครื่องมือ (ท่อ) เข้าสู่บริเวณที่อยู่
ระหว่างปอดทั้งสองข้าง ซึ่งอยู่ใต้ต่อกระดูกอกไก (sternum) พร้อม
กับตัดเอาชิ้นเนื้อจากต่อมน้ำเหลืองมาตรวจหาเซลล์มะเร็ง
§ Fine-needle aspiration. ต้องอาศัยุ CT scans เป็นตัวช่วยเพื่อ
บอกตำแหน่งที่จะใช้เข็มเจาะเอาชิ้นเนื้อมาตรวจดูเซลล์มะเร็งว่า
เป็นเซลล์ชนิดใด
§ Thoracentesis. ถ้ามีน้ำอยู่ในช่องปอด เราสามารถใช้เข็มเจาะเอาน้ำมา
ทำการตรวจดูเซลล์มะเร็งได้
§ VATS (video-assisted thoracoscopy). เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้เครื่องมือ
ที่เป็นท่อ มีเครื่องถ่ายภาพ (camera) ที่บริเวณปลายท่อ สอดเข้าสู่ภาย
ในทรวงอกผ่านแผลเล็กที่ทรวงอก เครื่องมือด้งกล่าว สามารถสำรวจดูความ
ผิดปกติของปอด ดูตำแหน่งของมะเร็ง พร้อมกับตัดเอาชิ้นเนื้อมาทำการ
ตรวจ
มะเร็งกระจายไปนอกปอดแล้หรือยัง ?
เช่น สมอง, กระดูหก หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ภายหลังการวินิจฉัยมะเร็งได้แล้ว ขั้นตอนต่อไป แพทย์จะประเมินดูว่า
มะเร็งที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในระยะใด
ระยะของมะเร็งจะบอกให้เราได้ทราบว่า มะเร็งมีขนาดเท่าใด และมีการแพร่กระ
จายไปไกลแค่ใด สำหรับระยะ หรือ stage I มะเร็งจะมีขนาดเล็กยังไม่มีการแพร่
กระจายไปที่ใด ส่วน stage II & III มะเร็งได้แพร่กระจายไปที่เนื้อเยื่อรอบๆ มะเร็ง
และกระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง หรืออวัยวะอื่นนอกปอด
มะเร็งปอดชนิด adenocarcinoma จะเจริญไปเรื่อย ๆ ไม่มีการหยุดจนกว่า
มันจะได้รับการรักษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น