วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Erectile dysfunction and Heart disease: 3

10/8/12

Continued….

ในคนที่เป็นโรคหัวใจ   มีการตีบแคบของหลอดเลือดแดงของหัวใจ (coronary rtery) 
โดยมีคราบไขมันเกาะตามผนังของหลอดเลือดแดงดังกล่าว
แต่คนที่เป็นโรคอวัยวะเพศไม่แข็งตัว (ED)  จะไม่มีคราบไขมันทำให้เส้นเลือดของ
อวัยวะเพศ (penile arteries) เกิดการตีบแคบเลย


เมื่อความจริงเป็นเช่นนั้น...
คำถามที่พวกเราต้องการรู้  คือ อะไรเป็นตัวปัญหาที่ทั้งสองโรคเกิดร่วมกันละ ?


เส้นเลือดแดงทุกเส้นของกล้ามเนื้อหัวใจ  และของอวัยวะเพศของชาย (penile)
รวมถึงเส้นเลือดแดงส่วนอื่น ของร่างกาย  จะมีเซลล์ที่บุภายในเส้นเลือดแดงเหล่านั้น 
ถูกเรียกว่า   “endotherial cells”


Endotherial cells  จะทำหน้าที่สร้างสารชนิดหนึ่ง คือ  nitric oxide”
เป็นสารเคมีตัวเล็ก ๆ  ซึ่งมีหน้าทีไม่ธรรมดา  แต่จะทำให้เส้นเลือดแดงอยู่ในสภาพ
ที่สมบูรณ์ (healthy)  และทำให้ผนังภายในเส้นเลือแดงอยู่ในสภาพที่เรียบและรื่น smooth)
ทำให้เลือดไหลผ่านได้สะดวกขึ้น


นอกจากนั้น  สาร nitric oxide  ยังทำหน้าที่อื่น  อีกหลายอย่าง เช่น:

§  ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อชั้นกลางของผนังเส้นเลือดเกิดการผ่อนคลาย  เป็นเหตุให้
เส้นเลือดขยายตัว  และมีการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

§  ทำให้กล้ามเนื้อของหัวใจทำงานได้มากขึ้น  ด้วยการได้รับเลือดที่มีออกซิเจนมากขึ้น

§  ทำให้อวัยวะเพศชายเกิดการแข็งตัว  ซึ่งทำให้มีปริมาณของเลือดในอวัยวะเพศ
เพิ่มขึ้นถึงหกเท่าตัว

§  ทำให้เซลล์ของประสาท  ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความปรารถนาทางเพศ 
ได้ส่งสัญญาณให้แก่เส้นเลือดในอวัยวะเพศ (penis)


เราไม่สามารถวัดได้ว่า  ร่างกายของมนุษย์เราผลิต  nitric oxide ได้มากเท่าใด
แต่สามารถวัดการทำงานของเซลล์บุผิวของเส้นเลือดแดงได้ด้วยการตรวจบางอย่าง


ในคนที่เป็นโรคหัวใจ   และโรคอวัยวะเพศไม่แข็งตัว   พบว่าการทำงานของ เซลล์บุผิว
เส้นเลือดแดง (endotherial cell  function) เสียไป เพราะเซลล์ถูกทำลาย(damage)   
นั้นคือต้นเหตุทำให้เกิดโรคหัวใจ (heart attack) และ โรคอวัยวะเพศไม่แข็งตัว (ED)


ท่านสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว  ด้วยการป้องกัน
ไม่ให้เกิดโรคหัวใจ  โดย :

§  เลิกสูบบุหรี่
§  ทำให้ระดับ cholesterol ลดลง
§  ลดระดับความดันที่สูง
§  ควบคุมโรคเบาหวาน และ
§  ออกกำลังกาย
   

การปฏิบัติการทั้งห้าที่กล่าวมา... 
จะสามารถลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค ED ได้หรือไม่?
ผลจากการศึกษาชี้บ่งว่า  มันอาจช่วยได้.
โดยผลจากการศึกษาเกี่ยวกับโรค ED จำนวนไม่น้อย  พบว่า
ภาวการณ์แข็งตัวของอวัยวะเพศของคนสถานการณ์ต่อไปนี้ดีขึ้น  เช่น
คนอ้วนที่สามารถลดน้ำหนัก และออกกำลังกาย่างสม่ำเสมอ,  คนเป็น
โรคเบาหวานถูกควบคุมระดับน้ำตาลเป็นนอย่างดี,  คนสูบบุหรี่เลิกสูบ,
และคนที่มีระดับ cholesterol สูงถูกลดลงสู่ระดับปกติ


โดยสรุป  ทั้งโรคหัวใจ  และโรคอวัยวะเพศไม่แข็งตัวต่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าพิสมัย
ด้วยกันทั้งคู่  แม้ว่าจะเป็นโรคคนละอย่าง  แต่ทั้งสองโรคมีปัจจัยเสี่ยงต่อการ
เกิดโรคร่วมกัน  และมักจะเกิดขึ้นในคนๆ เดียวกันซะด้วย


จากสถิติของคนในสหรัฐฯ พบว่า  คนที่เสียชีวิตจากสาเหตุทุกชนิด  มีประมาณ 40 %
เสียชีวิตเพราะโรคหัวใจ  และครึ่งหนึ่งของคนเป็นโรคหัวใจนั้นไม่เคยถูกวินิจฉัยได้
มาก่อน (silent heart disease)


สำหรับโรคหัวใจที่เจ้าตัวไม่เคยทราบมาก่อน (silent heart disease)
แพทย์พยายามหาทางที่จะทำการวินิจฉัยภาวะ silent heart disease ให้ได้
และในขณะนี้  วิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการวินิจฉัยโรคดังกล่าว  คือ


§  พยายามองหาปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ
§  พยายามมองหาอาการแสดงที่ไม่ปกติของโรคหัวใจ และ
§  ถ้าคนไข้มีอาการที่น่าจะเกิดจากโรคหัวใจ  ให้พิจารณาทำการตรวจด้วย
วิธีการที่เหมาะสม  เช่น stress tests, nuclear scans, CT scans  
หรือแม้กระทั้ง angiography

 ผลจากความพยายามคนหาสาเหตุของโรคหัวใจที่ไม่เราไม่รู้ (silent heart disease)
ทำให้เราได้หันมาศึกษาเรื่องโรค ED  และพบว่า:
คนเป็นโรคอวัยวะเพศไม่แข็งตัว (ED)  จะเกิดภาวะโรคหัวใจที่ซ่อนตัว  หรือไม่ได้รับ
การวินิจฉัย (silent Heart disease)
ดังนั้น  ในชายทุกคนที่เป็นโรคอวัยวะไม่แข็งตัว  สมควรได้รับการตรวจสอบสภาพหัวใจ
ตลอดรวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคหัวใจด้วย


ในคนที่เป็นโรค ED  ที่เกิดขึ้นเร็ว  จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้สูง
ด้วยเหตุผลดังกล่าว  ใครก็ตามที่เกิดมีปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว 
ควรใส่ใจต่อสุขภาพของหัวใจของตนเองเอาไว้ก่อน  ด้วยการปรึกษาแพทย์ 
ส่วนการใช้ยา (viagra) เพื่อให้อวัยวะแข็งตัว  น่าจะเป็นเรื่องรอง....

 


http://www.intelihealth.com/

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น