วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Eectile dysfunction & Heart disese : 2

10/8/12

Continued…

โรคทั้งสองต่างมีปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน...
ซึ่งนับเป็นเวลานานแล้ว  ที่แพทย์ทั้งหลายต่างทราบว่า
การที่คนเรามีอายุมากขึ้น, สูบบุหรี่จัด, มีระดับคลอเรสเตอรอลสูง, มีโรคความดัน
โลหิตสูง, เป็นโรคเบาหวาน, ไม่ออกกำลังกาย  และปล่อยให้ตัวเองอ้วน 
ต่างเป็นปัจจัยเสียงต่อการทำให้เกิดโรคหัวใจ  และเมื่อไม่นานมานี้
ปัจจัยดังกล่าว  ต่างเป็นตัวการทำให้เกิดโรค ED  เช่นกัน


ลองมาพิจารณาในแต่ละปัจจัยดู:

§  Age: ผลจาการศึกษาของ Massachusetts Male Aging Study
รายงานเอาไว้ว่า  อายุเป็นปัจจัยเสียงที่สำคัญของการเกิดปัญหาของอวัยวะไม่แข็งตัว 
โดยชายที่มีอายุถึง 40 จะเกิดภาวะอวัยวะไม่แข็งตัวถึง 2 %
ซึ่งตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่แก่ขึ้น
25 % เมื่ออายุ 65,  55% เมื่ออายุ 75  และ  65 % เมื่ออายุได้ 80

§  Smoking:  สำหรับคนที่มีพฤติกรรมที่แย่  จะพบว่า  ทุกครั้งที่จุดบุหรี่ขึ้นสูบ 
ท่านมีโอกาสทำให้อวัยวะเพศของท่านเสื่อมถอยลง

จากผลการศึกษาของ Mayo clinic  พบว่า 
คนสูบบุหรี่สามารถทำให้เกิดภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัวได้ถึง 1.4 เท่าของคนไม่สูบบุหรี่  
ยิ่งมีการสูบบุหรี่มากเท่าใด  อัตราเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ ED  ยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

§  Cholesterol.  ผลของการศึกษาจาก Massachusetts Male Aging Study 
รายงานเอาไว้ว่า  ระดับไขมัน HDL cholesterol ต่ำ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด
ภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเพิ่มขึ้น  และจากผลของการศึกษาของ California Study
โดยติดตามผลมากกว่า 25 ปี  พบว่า คนที่มีระดับของ total cholesterol สูง
มีโอกาสเกิดภาวะ ED ได้สูง   และการมีระดับไขมัน cholesterol สูง
เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะ ED

§  High blood pressure. ผลจากการศึกษาในคนอเมริกันจำนวนถึง 28 ล้าน
พบว่า  ชายที่ตกอยู่ในสภาพอวัยวะเพศไม่แข็งตัว (ED) จำนวน 38 % มีโอกาสเกิดโรค
ความดันโลหิตสูงได้มากกว่าคนที่มีความสามารถทางเพศปกติ

§  Diabetes.  เป็นที่ทราบกันว่า  โรคเบาหวานสามารถทำอันตรายทำอันตรายต่อ
เส้นประสาท  และเส้นเลือดทั้งหลาย   ดังนั้น  ท่านอย่าได้แปลกใจที่ได้เห็นชายที่เป็น
โรคเบาหวาน มีแนวโน้มเป็นโรค ED ได้ถึงสามเท่าของคนปกติ (healthy) 
และมักจะเกิดแต่เนิ่น ๆ ได้ถึง 10 – 15 ปี

ในกรณีที่เป็นโรคเบาหวานมานาน  และเป็นรุนแรงซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษา 
มีโอกาสเกิดโรค ED ได้ถึง  50 %

§  Lack of exercise.  การออกกำลังกายทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลง  แต่หากมีการ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  สามารถทำให้สมรรถภาพทางเพศถดถอยได้ 

แต่การศึกษาใน Harvard’s Health Professionals’ Follow-up study  พบว่า 
การออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน  มีโอกาสลดการเกิด ED 41 %  น้อยกว่าคนนั่งโต๊ะ
ซึ่งไม่ค่อยออกกำลังกายเลย

§  Obesity.   จาก Health Professional Study พบว่า ความอ้วนมีความสัมพันธ์กับ
การหมดสมรรถภาพทางเพศได้ ยกตัวอย่าง  ถ้ารอบเอว 24 นิ้ว  มีความเสี่ยงต่อ
การเกิดภาวะ ED ได้ถึง 50 % เมื่อนำไปเปรียบกับคนมีรอบเอว 32 นิ้ว


จากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่กล่าวมาสามารถอธิบายให้ทราบว่า 
ทำไมจึงมีคนเป็นจำนวนมาก ที่เป็นทั้งโรคหัวใจ  และภาวะของอวัยวะไม่แข็งตัว
(erectile dysfunction)


นอกจากนั้นยังพบข้อมลใหม่เพิ่มอีกว่า  การมี C-reactive protein สูงขึ้น 
รวมทั้งตัวบ่งบอกให้ทราบถึงการอักเสบ (inflammatory markers)
จะมีส่วนสัมพันธ์กับโรคหัวใจ  และมีส่วนเกี่ยวพันธ์กับการเกิด Erectile dysfunction


ที่เราควรรู้:
ภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack)  และ  อวัยวะเพศไม่แข็งตัว (erectile dysfunction)
ต่างเป็นโรคที่เกิดจากความบกพร่องในการไหลเวียนของเลือด (circulation)

<<Previous                                                                                                        Next>>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น