วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วัณโรค (Tuberculosis)

10/1/12

วัณโรค  หรือ Tuberculosis….
จัดเป็นการอักเสบติดเชื้อชนิดหนึ่ง  ซึ่งสามารถทำลายชีวิตคนได้ปีละสองล้าน
โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างไทยเราเป็นต้น
เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าว คือ  mycobacterium tuberculosis




จัดเป็นโรคที่พบได้บ่อยพอสมควร
มีการประมาณการว่า  มีประชากรของโลกจำนวนถึงหนึ่งในสามที่เกิดวัณโรค
อย่างไรก็ตาม  คนส่วนใหญ่ที่เป็นวัณโรค  จะไม่แสดงอาการของโรคให้เห็น
และในคนพวกนี้  เชื้อโรคที่ซ่อนเร้น  และไม่มีพลังที่จะทำร้ายคน (inactive)
ไม่สามารถแพร่เชื้อ หรือกระจายไปทำร้ายคนอื่นได้


แต่ถ้าเมื่อใดที่ร่างของคนมีเชื้อโรคซ่อนตัวอยู่  เกิดมีภูมิตานทานอ่อนแอลง
เมื่อนั้นแหละ  เจ้าเชื้อวัณโรคก็จะกลับมามีพลังในการทำลาย (active)
และทำให้คนเราเกิดเป็นโรคขึ้น


ทั่วโลกต่างถือว่า  วัณโรคถูกจัดเป็นอันดับสองรองจากโรคเอดส์ (HIV)
ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดความตายจากการติดเชื้อของคนในช่วงวัยผู้ใหญ่
มีประเทศที่กำลังพัฒนาหลายประเทศ  ซึ่งประสบกับปัญหาของการแพร่ระบาด
ของสองโรค  หนึ่ง คือ วัณโรค  และสอง  คือโรคเอดส์ (HIV) 


การเกิดสองโรคขึ้นพร้อมกันจะเกิดมีปฏิกิริยาที่เรียกว่า “Toxic synergy”
ซึ่งโรคแต่ละชนิดที่เกิดขึ้น  จะกระทบกับประชาชนในบริเวณที่ยากจน
และแต่ละโรคที่เกิดขึ้น  มันจะทำให้โรคตัวอื่นที่เกิดร่วมมีอาการเลวลง  


คนเป็นโรคเอดส์ (HIV) จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
จึงเป็นเหตุให้มีแนวโน้มที่จะได้รับโรควัณโรคขึ้นมาใหม่  หรือทำให้เชื้อวัณโรคที่ไม่
มีฤทธิ์ (latent) ซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายร่างกายเกิดมีฤทธิ์ขึ้นมา
และพร้อมทีทำลายคนได้ทันที  และคนที่เป็นวัณโรคร่วมกับการเป็นโรคเอดส์
มีอากาศที่จะเสียชีวิตได้ง่ายขึ้น


เมื่อเราเอ่ยถึงวัณโรค  เราหมายถึงการอักเสบของปอดที่เกิดจากเชื้อวัณโรค
แต่ประมาณหนึ่งในสามของคนมีโรคเอดส์  จะมีวัณโรคเกิดร่วม 
และจะพบว่าโรคมันสามารถเกิดกับอวัยวะอย่างอื่นได้ 
เช่น  การอักเสบของต่อมน้ำเหลือง,   อักเสบของเยื่อหุ้มสมอง, 
อักเสบของข้อ  ไต  และเยื่อบุช่องท้อง


เชื้อวัณโรคสามารถกระจายจากคนสู่อีกคนทางอากาศ 
โดยที่เชื้อโรคจะออกทางปาก หรือจมูกของคนเป็นโรคตอนที่เขาจาม  หรือไอ
การสัมผัสคนเป็นวัณโรคเพียงครั้งเดียว  ไม่น่าจะติดโรคได้
แต่จำเป็นต้องสัมผัสกับคนเป็นวัณโรคบ่อยครั้ง  หรือเป็นเวลานานจึงจะมีโอกาสติดโรคได้


ในการสัมผัสคนเป็นวัณโรค  หรือร่วมกันใช้ของส่วนตัว  จะไม่เกิดการติดเชื้อได้ 
ทั้งนี้เพราะการที่ปอดจะติดเชื้อวัณโรคได้ก็โดยผ่านทางการหายใจ
เอาเชื้อแบคทีเรียเข้าปอดเท่านั้น


เมื่อมีการติดเชื้อวัณโรค  ตัวเชื้อวัณโรคที่อาศัยในหยดน้ำ(น้ำมูก หรือเสมหะ) 
จะถูกหายใจเข้าสู่ส่วนลึกสุดของปอด  และที่นั้นเองเชื้อวัณโรคจะมีการแบ่งตัวเพิ่ม
จำนวนมากขึ้น  และมีการกระจายไปทั่วร่างกาย
ในขณะเดียวกัน  ระบบภูมิต้านทาน  จะจัดการกับเชื้อวัณโรคด้วยการไม่ให้มันมีการ
แบ่งตัวเพิ่มขึ้น  แต่ไม่สามารถทำลายเชื้อวัณโรคให้สิ้นซากได้
โดยเชื้อวัณโรคจะยังคงอาศัยอยู่ภายในร่างกายในรูปแบบที่ไม่มีฤทธิ์ (inactive)
แต่มีโอกาสที่จะมีแผลงฤทธิ์ (active) ในอนาคตได้


คนที่มีแต่เชื้อวัณโรคภายในร่างกาย  แต่เชื้อโรคไร้ฤทธิ์ (inactive)
มันจะไม่แสดงอาการใดให้ปรากฏหรอก  และเราไม่มีทางที่จะรู้ได้ว่า
มันเกิดอักเสบขึ้น  ยกเว้นเฉพาะการตรวจทางผิวหนัง(skin test) เท่านั้น


วัณโรคที่กำลังมีฤทธิ์ (active) สามารถเกิดได้หลายรูปแบบ

 §  Primary pulmonary tuberculosis   คนที่มีเชื้อวัณโรคในร่างกาย  พบว่า
มีประมาณ 5% ที่ระบบภูมิคุ้มกัน  ไม่สามารถยุดยั้งการอักเสบตั้งแต่เริ่มแรกได้ 
ทำให้คนมีเชื้อวัณโรคในกายเกิดการอักเสบขึ้น  ซึ่งมักจะเกิดภายในระยะ
หนึ่งปีหลังสัมผัสกับเชื้อวัณโรค  โดยเราจะพบได้บ่อยในเด็กเล็ก (infant)
และเด็ก (children)  ในประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยากจน 
และเป็นโรคขาดสารอาหาร


ประชาชนที่เป็นโรค HIV  และโรคอื่นๆ  ซึ่งยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
จะทำให้คนตกอยู่ในความเสี่ยงต่อการเกิดวัณโรคได้ง่าย


 §  Active post-primary (reactivation) pulmonary tuberculosis  เป็น
วัณโรค  ซึ่งเชื้อวัณโรคมีโอกาสผงาดขึ้นมา(active) เพื่อทำลายล้างได้หลังจาก
ถูกระบบภูมิคุ้มกันทำให้สิ้นฤทธิ์ (inactive) ได้ระยะหนึ่ง
เราจะพบว่า  มีประมาณ 95 % ของคนที่เกิดการอักเสบจากเชื้อวัณโรคในตอนแรก
เชื้อวัณโรคจะไม่มีพิษสงใด ๆ เพราะนั้นเป็นผลงานของระบบภูมิต้านทาน


สำหรับรายที่การอักเสบติดเชื้อ  และเชื้อโรคสามารถแผลงฤทธิ์ได้เป็นเพราะมัน
สามารถเอาชนะระบบภูมิคุ้มกันได้  ซึ่งมันจะมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้น
และมีการแพร่กระจาย  โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณปอด
บางที  เชื้อวัณโรคอาจทำลายเนื้อปอดได้อย่างมาก  ทำให้เซลล์ของปอดถูก
ทำลายในบริเวณกว้างจนเกิดเป็นโพง (cavity) ทำให้เซลล์ของปอดตายไป


 §  Extra-pulmonary tuberculosis  เชื้อวัณโรคอาจมีฤทธิ์ทำลายล้าง (active)
อวัยวะส่วนอื่น ของร่างกาย  เช่น  วัณโรคของกระดูก, ไต,  ต่อมน้ำเหลือง 
และระบบประสาทส่วนกลาง


 §  Disseminated or miliary tuberculosis.  เชื้อวัณโรคสามารถสารถกระจาย
ไปตามกระแสเลือด  และเกิดทำลายอวัยวะอื่น ได้ทั่วร่างกาย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น