10/4/12
การป้องกัน (Prevention):
สามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็งของปอดได้ดังนี้
สามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็งของปอดได้ดังนี้
§ เลิกสูบบุหรี่
§ หลีกเลี่ยงจากการสูดควันบุหรี่ของคนอื่น
§ ลดการสัมผัสกับแก๊สเรดอน
§ ลดการสัมผัสสาร asbestos
การรักษา (Treatment)
แน่นอน ภายหลังการวินิจมะเร็งได้แล้ว สิ่งทีที่ทุกคนต้องการรู้คือ
จะรักษาอย่างไร ?
การรักษามะเร็งปอด ขึ้นกับชนิด (type) และการแพร่กระจายของมะเร็งเป็นอย่างไร ?
Non-small cell lung cancer
ในการรักษามะเร็งปอดชนิด non-small cell จะได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นมะเร็งที่จำกัดตัวเองอยู่ภายในปอด ไม่กระจายออกนอกทรวงอก
การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเอาปอดออกนั้น จำเป็นต้องขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง
เช่น สภาพของปอดเอง เช่น โรคถุงลมโป่งพอง
ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัดเอาปอดออกทิ้งอย่างแน่นอน
ในการผ่าตัดเอาปอดออก สามารถกระทำได้สามแบบด้วยกัน:
§ Wedge resection เป็นการผ่าตัดเอาส่วนปอดบางส่วนออกเท่านั้น
§ Lobectomy เป็นการ่าตัดเอาปอดบางลอน (lobe) ออก
§ Pneumonectomy เป็นการ่าตัดเอาปอดออกทั้งปอด เช่นเอาปอดด้านซ้ายที่เป็น
โรคออกทิ้งหมด
นอกจากนั้น ยังมีการผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองออก พร้อมกับการตรวจดูว่า
มีเซลล์ของมะเร็งแพร่กระจายออกมานอกปอดหรือไม่
เนื่องจากวงการแพทย์มีการพัฒนาไปมาก แพทย์บางท่านอาจใช้วิธี
Vedeo-assistedthoracotomy (VATS) เพื่อทำการเอามะเร็งออก โดยเฉพาะในราย
ที่อยู่ระยะต้นๆ ของโรค และอยู่ที่บริเวณขอบ ของปอด
VATS ยังถูกใช้เป็นวิธีที่นำมาใช้ในการวินิจฉัยได้อีกด้วย และเนื่องจากแผลที่เกิดจาก
การผ่าตัดแผลที่มีขนาดเล็กมากกว่าวิธีการทั่วไป
ซึ่งแพทย์สามารถทำการตรวจการทำงานของปอดก่อนทำการผ่าตัดดเอาปอดออก
และสามารถคาดการณ์ได้ว่า หลังการผ่าตัดแล้วคนไข้จะเป็นอย่างไร?
เนื่องจากการผ่าตัดเอาปอดออก แม้จะเป็นบางส่วน หรือเอาปอดออกทั้งอัน
อาจทำให้เกิดปัญหาด้านการหายใจในภายหลังได้
โดยเฉพาะในรายที่เป็นโรคถุงลมโป่งพอง (emphysema)
ในการรักษา อาจจำเป็นต้องให้ยาเคมีบำบัดก่อน โดยเฉพาะในกรณีที่มีการกระจาย
ของเซลล์มะเร็งออกนอกทรวงอกไปแล้ว
ซึ่งวิธีการรักษาด้วย “เคมีบำบัด” อาจให้ก่อน หรือหลังการผ่าตัดก็ได้
เมื่อมะเร็งได้แพร่กระจายไปมากแล้ว การใช้เคมีบำบัด
อาจทำให้เซลล์มะเร็งเจริญช้าลงได้เท่านั้น โดยไม่สามารถรักษาให้หายได้
นอกจากนั้น เคมีบำบัดยังช่วยทำให้คนไข้รู้สึกสบายขึ้น และ
สามารถทำให้คนไข้มีอายุยืนยาวขึ้นได้
การรักษาด้วย “รังสีรักษา” นั้น สามารถบรรเทาอาการของคนไข้ได้แล้ว
มันเป็นวิธีการรักษาคนเป็นโรคมะเร็งปอดที่กระจายไปนอกปอด ไปยังสมอง, หรือ
กระดูก และทำให้เกิดอาการเจ็บปวด
การรักษาด้วย “รังสีรักษา” สามารถใช้เพียงอย่างเดียว หรือใช้ร่วมกับ “เคมีรักษา”
ยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาคนไข้ที่เป็นมะเร็งปอดที่ยังจำกัดตัวของมันอยู่ในปอด
ในรายที่คนไข้ไม่สามารถทนต่อการผ่าตัดได้ เนื่องจากปัญหาทางร่างกาย
คนไข้อาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วย “รังสีรักษา” โดยอาจให้ร่วมกับ เคมีรักษา
เพื่อหวังผลให้มะเร็งของปอดหดตัวเล็กลง
นอกเหนือจากที่กล่าวมา การตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรมเฉพาะบางอย่าง
อาจนำมาใช้ในการรักษามะเร็งด้วยกรรมวิธีที่เราเรียกว่า “Target therapy” ได้
ในการที่แพทย์รู้เรื่องเกี่ยว พันธุกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เขาสามารถคาดการณ์ได้ว่า
มะเร็งชนิดนั้นๆ ควรได้รับการรักษาแบบใดจึงจะดีที่สุด
เช่น สตรีที่เป็นมะเร็งชนิด adenocarcinoma ผู้ซึ่งไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน
Small cell lung cancer
ในการรักษามะเร็งปอดชนิดที่เป็นเซลล์ตัวเล็ก (small cell lung cancer)
การรักษาจะขึ้นกับระยะของมะเร็ง
§ รายที่เป็นมะเร็งที่จำกัดอยู่ในปอด การรักษาประกอบด้วย “เคมีบำบัด”,
และ “รังสีรักษา” ส่วนการผ่าตัดไม่ค่อยจะได้ใช้
คนไข้ส่วนใหญ่ที่เป็นชนิดเซลล์ขนาดเล็ก จะตอบสนองต่อเคมีบำบัดได้ดี
และมะเร็งมักจะกลับปรากฏภายหลังได้ในไม่กี่เดือน หรือบางทีหลายปี
§ รายที่มะเร็งกระจายไปที่อื่น การรักษาประกอบด้วยเคมีบำบัด ร่วมกับการ
ฉายแสงตรงบริเวณที่มะเร็งกระจายไป
และ “รังสีรักษา” ส่วนการผ่าตัดไม่ค่อยจะได้ใช้
คนไข้ส่วนใหญ่ที่เป็นชนิดเซลล์ขนาดเล็ก จะตอบสนองต่อเคมีบำบัดได้ดี
และมะเร็งมักจะกลับปรากฏภายหลังได้ในไม่กี่เดือน หรือบางทีหลายปี
§ รายที่มะเร็งกระจายไปที่อื่น การรักษาประกอบด้วยเคมีบำบัด ร่วมกับการ
ฉายแสงตรงบริเวณที่มะเร็งกระจายไป
การพยากรณ์โรค (Prognosis)
คำถามที่เราอยากจะรู้กัน คือเมื่อใครที่เป็นมะเร็งของปอดแล้ว เขาจะลงเอยอย่างไร ?
การที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้ ย่อมขึ้นกับชนิดของมะเร็ง ระยะของมะเร็ง
และสุขภาพโดยรวมของคนไข้เอง
โดยทั่วไป คนที่เป็นมะเร็งปอดจะมีชีวิตรอดได้เพียง 14 % ภายในเวลาห้าปี หรือ
นานกว่านั้น
http://www.intelihealth.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น