10/14/12
Grape หรือที่เราเรียกว่า “องุ่น” เป็นผลไม้ที่เราท่านทั้งหลายรู้กันดี
Grape หรือที่เราเรียกว่า “องุ่น” เป็นผลไม้ที่เราท่านทั้งหลายรู้กันดี
สามารถซื้อหามารับประทานได้ง่าย ไม่เหมือนกับ grapefruit
ซึ่งเป็นผลไม้ต่างประเทศ ประเภทส้มขนาดใหญ่ ไม่ใช้ผลไม้ในบ้าน
เมืองของเรา แต่ชื่อของมันนี้ซิออกเสียงคล้ายกันมาก....
Grape juice และ grapefruit juice ฃึ่งฟังแล้วทำให้สับสนได้
เผลอนิดเดียว...ตกม้าตายได้ โดยเฉพาะผู้เขียน ถึงกับทำให้หลายท่านเข้าใจผิด โชคดีที่มีผู้ใจบุญให้คำชี้แนะมา ต้องของขอบคุณท่านผู้ที่เตือนมาเป็นอย่างสูง
เผลอนิดเดียว...ตกม้าตายได้ โดยเฉพาะผู้เขียน ถึงกับทำให้หลายท่านเข้าใจผิด โชคดีที่มีผู้ใจบุญให้คำชี้แนะมา ต้องของขอบคุณท่านผู้ที่เตือนมาเป็นอย่างสูง
และขอโทษท่านที่อ่านบทความของผม และเข้าใจผิดไป...
อย่างไรก็ตาม ผลไม้ทั้งสองชนิด ต่างมีประโยชน์จริง....
แต่หากไม่ระมัดระวัง เป็นอันตรายได้
เราทราบกันมานานแล้วว่า องุ่น :
เปลือกของลูกองุ่น , ใบ และเมล็ดของมัน ถูกใช้รักษาโรคมานาน
เมล็ดขององุ่น (grape seed) เป็นสิ่งที่เหลือตกค้างจากการผลิตเหล้าไวน์
อย่างที่ได้กล่าว สิ่งที่ต้องระวัง คือ อย่าสับสนระหว่างน้ำองุ่น
(grape juice) กับ grapefruit juice และยาตัวอื่น ๆ
ประโยชน์ขององุ่น...ฟังฝรั่งเขาร่ายยาวถึงคุณประโยชน์ขององุ่นแล้ว
คล้ายๆกับไทยเราร่ายยาวถึงคุณประโยชน์ของสมุนไพรของเรา
ซึ่งจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ใด ก็สุดแต่ท่านเถิด....?
องุ่น (grape) เคยถูกใช้เป็นยาป้องกันรักษาโรคหัวใจ และเส้นเลือด,
เส้นเลือดขอด (varicose veins), ริดสีดวงทวาร (hemorrhoids),
เส้นเลือดเข็ง (atherosclerosis), ความดันโลหิตสูง, อาการบวม
จากบาดเจ็บ หรือหลังการผ่าตัด, ภาวะหัวใจถูกทำลายากการขาดเลือด
(heart attack) และ ภาวะสมองขาดเลือด (stroke)
บางคนยังใช้องุ่นเป็นยาบายอ่อน ๆ และบางท่านอาจได้ยินมาว่า
องุ่นเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้สำหรับล้างพิษได้ (detoxification)
เมล็ดขององุ่น (grape seed) เคยถูกใช้รักษาภาวะแทรกซ้อนที่
เกิดจากโรคเบาหวาน เช่น ใช้รักษาปัญหาของเส้นประสาท และปัญหา
ที่เกิดขึ้นกับดวงตา, ทำให้แผลหายดี, ป้องกันฟันผุ, ป้องกันมะเร็ง,
ป้องกันโรคตาที่สัมพันธ์กับการเกิดโรค macular degeneration (AMD),
สายตาไม่ดีในตอนกลางคืน, โรคตับชนิดต่าง ๆ และโรค Hey fever…
องุ่นแห้ง (dried grapes), raisins และ sultanas (white raisins)
ถูกใช้เป็นยาแก้ไอ
ใบขององุ่นถูกใช้เป็นยารักษาโรค attention deficit-hyperactive disorder
(ADHD), chronic fatigue syndrome (CFS), โรคท้องร่วง, โรคประจำเดือน
ออกมาผิดปกติ และใช้รักษาบาดแผลในสัตว์
นอกจากนั้น ใบขององุ่นยังถูกนำไปใช้ในอาหาร
โดยเฉพาะอาหารของชาวกรีก....
How does it work?
สำหรับ องุ่น (grape) ทำไมมันจึงสามารถรักษาโรคได้เยอะแยะขนาดนั้น ?
ในองุ่น จะมีสารตัวหนึ่งเรียก flavonoids เป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant effect), สามารถลดระดับไขมัน LDL-cholesterol,
ทำให้ผนังของเส้นเลือดคลายตัว (relax) และ สามารถลดความเสี่ยง
จากการเกิดโรคหลอดเลือดของหัวใจลงได้
ฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants)
สามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจ และอาจมีประโยชน์อย่างอื่น
ที่เราควรทราบ คือ red grape จะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่า
องุ่นชนิดอื่นๆ
ใบขององุ่นมีฤทธิ์ในการห้ามเลือดได้อีกด้วย โดยเฉพาะใบองุ่นสีแดง
(red grapes) นอกจากนั้นใบองุ่นยังสามารถหยุดอาการท้องร่วงได้
ประโยชน์ที่พึงได้รับจากองุ่น
จากการโฆษณาวนเชื่อว่า องุ่นสามารถรักษาโรคได้มากมาย เกือบจะ
กล่าวได้ว่า สารพัดโรค ตามหลักฐานที่พอเชื่อได้ มีโรคหรือภาวะไม่
กี่อย่างหรอกที่องุ่นสามารถนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้ เช่น
§ Circulation problems. ปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของโลหิตที่แย่ลง
เช่น chronic venous insufficiency ซึ่งสามารถทำให้ขาบวม
การรับประทานสารที่สกัดจากเมล็ดองุ่น สามารถทำให้อาการที่เกิด
จากภาวะการณ์ไหลเวียนของเลือดดำที่เสื่อมลงดีขึ้นได้
เช่น ลดอาการเหนื่อยเพลีย (tired), ขาหนัก และอาการเสียวซ่าน
และอาการปวด
ผลข้างเคียง (side effects) & ความปลอดภัย (safety)
โดยทั่วไปแล้ว องุ่นเป็นผลไม้ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
แต่การรับประทานในปริมาณมากไป (ไม่ว่าจะเป็นองุ่นสด, องุ่นแห้ง, ลูกเกด
ทั้งสี่แดงหรือขาว) อาจทำให้เกิดท้องร่วงได้ และมีบางคนอาจแพ้องุ่นได้
นอกจากนั้น องุ่นอาจก่อให้เกิดผลอันไม่พึงประสงค์หลายอย่าง เช่น ปวดท้อง
อาหารไม่ย่อย, คลื่นไส้, อาเจียน, ไอ, คอแห้, เจ็บคอ, เกิดอักเสบติดเชื้อ,
ปวดศีรษะ และมีปัญหาทางด้านกล้ามเนื้อ ซึ่งแสดงให้เห็นสัจธรรมอย่างหนึ่ง
นั้นคือ “อะไรที่มีประโยชน์ย่อมมีโทษด้วยเสมอ”
สิ่งพึงต้องระมัดระวัง
ในขณะนี้เราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับองุ่น ว่าคนที่กำลังท้อง หรือให้นมบุตร
ควรรับทานมากเท่าใด แต่ถ้าเราไม่ทราบ เราควรงดเว้นเอาไว้ก่อน
น่าจะปลอดภัย
เมื่อเราต้องรับประทานยา...จงระวัง !
โดยเอ็นไซม์ที่มีชื่อ Cytochrome P450 1A2 substrates (CYP 1A2)
ซึ่งมันจะทำปฏิกิริยากับองุ่น (grape)
ยาบางตัวจะถูกทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และถูกทำให้แตกสลายโดยตับ (Liver)
นั่นเป็นปรากฏการณ์ตามปกติ
น้ำองุ่นที่คนเราดื่มเข้าไปสามารถทำให้ตับทำลาย (break down
ยาบางชนิดด้วยการทำให้ยานั้นแตกสลายลงได้เร็วกว่าปกติ
เมื่อใดที่ท่านรับประทานยารักษา ร่วมกับดื่มน้ำองุ่น ตับทำให้ยาสลายตัวเร็วขึ้น
เป็นเหตุให้ประสิทธิภาพของยา (effectiveness) ลดลง
ทำให้การรักษาไม่ได้ผล
ยาที่สามารถถูกทำให้เปลี่ยนแปลงโดยตับ (Liver) ได้แก่:
o clozapine (Clozaril)- เป็น atypical anti-psychotic drugs
o cyclobenzaprine (Flexeril)-antispasmodic ใช้คลายกล้ามเนื้อ
o fluvoxamine (Luvox)-เป็นยากลุ่ม SSRI สำหรับอาการซึมเศร้า
o haloperidol (Haldol)-Atypical anti-psychotic drug
o imipramine (Tofranil)-Tricyclic drug สำหรับอาการซึมเศร้า
o mexiletine (Mexitil)-Tricyclic antidepressant
o olanzapine (Zyprexa)-atypical antipsychotic drug
o pentazocine (Talvin)- opioids ยาแก้ปวด...
o propranolol (Inderal)-non-selective beta blocker
o tacrine (Cognex)-acetylcholinesterase inhibitor รักษา Alzheimer’s o theophylline-bronchodilator
o zileuton (Zyflo)-leukotrient antagonist
o และอื่น ๆ
เนื่องจากร่างกายเราสามารถทำให้ยา phenacetin แตกสลายเพื่อกำจัดมันออกไป การดื่มน้ำองุ่น จะทำให้การทำลายยาดังกล่าวเร็วเข้า
ดังนั้นเมื่อรับทานยาตัวนี้ร่วมกับน้ำองุ่นเมื่อใด
จะทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง
§ Warfarin (Coumadin) จะทำปฏิกิริยากับน้ำองุ่นเช่นกัน
ยา Warfarin (Coumadin) เป็นยาที่แพทย์เราใช้เพื่อชะลอไม่ให้เลือด
จับตัวเป็นก้อน เมล็ดขององุ่นก็สามารถชะรอการจับตัวของเม็ดเลือดไม่ให้เป็นก้อนเลือดได้เช่นกัน ดังนั้น การรับประทานเมล็ดขององุ่นร่วมกับยา Warfarin
จะทำให้เลือดออกง่าย (bleeding) ทำให้เกิดมีการฟกช้ำตามผิวหนัง (bruising)
ในกรณีดังกล่าว ขนาดของยา warfarin อาจต้องมีการปรับขนาดให้เหมาะสม
โดยสรุป...
น้ำองุ่นเป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ขณะเดียวกันมันสามารถทำให้เกิด
ผลอันไม่พึงประสงค์ได้ โดยเฉพาะเมื่อดื่มร่วมกับยาบางตัว ซึ่งฤทธิ์ของมันจะช่วยให้ตับทำให้ยาที่เรารับประทานเข้าไป แตกสลายเร็วขึ้น เป็นเหตุให้ยานั้นมีประสิทธิภาพในด้านการรักษาลดลง…
Adapted from…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น