วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Large Cell Cancer of the Lung 1

11/5/12

มะเร็งปอด  ซึ่งลักษณะของเซลล์ภายใต้กล้องจุลทรรศน์  มีสองชนิด
หนึ่งจะมีขนาดใหญ่ผิดปกติจัดเป็น non-small cell cancer
ส่วนอีกชนิดหนึ่งเป็นเซลล์ซึ่งมีลักษณะขนาดเล็ก  เรียก small cell lung cancer


มะเร็งปอดชนิดเซลล์ขนาดใหญ่  ส่วนมากจะเริ่มเกิดขึ้นที่ส่วนกลางของปอด
คนเป็นมะเร็งชนิดนี้  ส่วนมากจะมาพบแพทย์เมื่อมะเร็งอยู่ในสุดท้าย
ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีการเจริญเติบโตได้ไว  และมีการแพร่กระจายออกนอกปอดไป
โดยมะเร็งจะกระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียง  และผนังของทรวงอก
นอกจากนั้น  มันยังสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะที่อยู่ไกลออกไป
โดยที่เซลล์ในบริเวณปอดมีขนาดเล็กเท่านั้นเอง


คนส่วนใหญ่ที่เป็นมะเร็งปอดชนิดเซลล์ขนาดใหญ่  มักเป็นคนสูบบุหรี่มาก่อน
หรือสูบในปัจจุบันขณะที่พบเป็นมะเร็ง 


อาการ (Symptoms)
บ่อยครั้งที่คนเป็นมะเร็งปอดจะตรวจพบจากการตรวจเอกซเรย์ปอด  หรือตรวจ
CT scans ซึ่งเป็นการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรคอย่างอื่น
เป็นการตรวจพบโดยบังเอิญเสียเป็นส่วนใหญ่


เมื่ออาการของโรคมะเร็งเกิดขึ้น  ส่วนมากเขาจะมาด้วยอาการ “ไอ” อย่างต่อเนื่อง
แต่ก็อีกนั้นแหละ  คนที่มีอาการไออย่างต่อเนื่องไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นมะเร็ง
ของปอดเสมอไป  แต่เป็นโรคอื่นก็ได้....


นอกจากอาการไอดังกล่าวแล้ว  คนไขที่เป็นมะเร็งอาจมีอาการอย่างอื่น เช่น:

§  ไอเป็นเลือด (cough up blood)
§  หายใจลำบาก (shortness of breath)
§  ลมหายใจมีเสียง wheezing ของปอดข้างใดข้างหนึ่ง
§  เหนื่อยเพลียอย่างมาก
§  ปอดอักเสบ (pneumonia)  ซึ่งมักจะเกดขึ้นที่จุดเดิมเสมอ
§  น้ำหนักลด หรือเบื่ออาหารโดยไม่ทราบสาเหตุ

Diการวินิจฉัย(agnosis)
ส่วนใหญ่แพทย์มักตรวจพบคนเป็นมะเร็งโรคปอดจากการถ่ายภาพเอกซเรย์
ของทรวงอก  และอาจมีการตรวจอย่างอื่นอีก เป็นการตรวจด้วยภาพ เช่น
computed tomography(CT) ,  magnetic resonance imaging (MRI) scans
และ positron emission tomography (PET) cans
ซึ่งผลของการตรวจที่ได้  สามารถแสดงขนาด,  รูปร่าง 
และตำแหน่งของโรคได้  และจากข้อมูลที่ได้สามารถช่วยให้แพทย์เจาะเอา
ชิ้นเนื้อไปทำการตรวจดูเซลล์ของมะเร็งได้


ในการตรวจด้วย PET scans  เขาจะใช้สารทึบแสง (dye) มีส่วนของน้ำตาล
เป็นหลัก  และสามารถช่วยวินิจฉัยมะเร็งของปอดได้  มันสามารบอกได้ว่า
มะเร็งมีการแพร่กระจายไปไกลแค่ใด
โดยที่เซลล์มะเร็งจะดูดเอาสารทึบแสงดังกล่าวมากกว่าเซลล์ปกติ
และการศึกษาด้วย PET scans อาจดีกว่า CT scans  ตรงที่มันสามารถบอก
ให้เราทราบว่า  มะเร็งได้แพร่กระจายไปที่ใด


การตรวจสอบเสมหะเพื่อดูเซลล์ (cytology)
ทำให้เราบอกได้ว่า  มะเร็งปอดที่เกิดขึ้นนั้น  เป็นมะเร็งชนิดใด
(เซลล์ใหญ่  หรือเซลล์ขนาดเล็ก)


นอกจากนั้น  แพทย์อาจใช้วิธีการตรวจอย่างอื่นๆ
เพื่อวินิจฉัย Large cell lung cancer เช่น:


§  Thorcentesis: แพทย์จะใช้เข็มดูดเอาน้ำจากช่องระหว่างปด และทรวงอก
นำเอาน้ำดังกล่าวไปทำการตรวจเซลล์มะเร็ง  และเราจะนำวิธีนี้มาใช้เมื่อตรวจพบว่า
มีน้ำอยู่ในช่องปอดดังกล่าวเท่านั้น


§  Mdiastinoscopy:  เป็นวิธีการผ่าตัด  ซึ่งแพทย์จะตัดเอาต่อมน้ำเหลืองจาก
ปอด  โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดด้วยแลเล็กๆ ที่บริเวณด้านหน้าของส่วนล่างของคอ
จากนั้น แพทย์ทางพยาธิจะเป็นคนตรวจดูเซลล์...


§  Needle biopsy: เป็นหน้าที่ของแพทย์จะทำการเอาชิ้นเนื้อจากบริเวณที่
สงสัยมาทำการตรวจ  โดยการใช้เข็มขนาดเล็กเจาะเอาชิ้นเนื้อจากปอด 
หรือเจาเอาชิ้นเนื้อจากที่อื่นที่คิดว่า  มะเร็งได้กระจายไป...


§  Broncholscopy: ในการตรวจด้วยวิธีนี้  แพทย์จะใช้กล้องขนาดเล็กที่ติด
ในบริเวณท่อ  ซึ่งสามารถงอดพับได้ตามต้องการ  โดยแพทย์จะทำการสอดท่อ
เข้าทางปากเข้าสู่ปอด เมื่อปลายของท่อสอดเข้าถึงตำแหน่งที่ต้องการ  แพทย์
สามารถดูเนื้องอกได้โดยตรง  และสามารถเจาะเอาชิ้นเนื้อไปทำการตรวจได้


§  Video assisted thoracoscopic surgery (VATS): สำหรับวิธีการนี้
แพทย์จะใช้กล้องที่ติดปลายท่อที่งอพับได้ (flexible tube)  แต่วิธีการนี้จะกระทำ
โดยสอดท่อเข้าทรวงอกผ่านแผลที่ทรวงอกโดยตรง 
ซึ่งแพทย์สามารถมองเข้าไปยังตัวปอด  และสามารถตัดเอาชิ้นเนื้อมาทำการตรวจได้


§  Surgery:  บางที  วิธีการที่ดีที่สุด  คือการผ่าตัดเอาเนื้องอกออกมา
ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้กันบ่อย  เมื่อจากการตรวจทำ CT scans  และไม่มีหลักฐาน
ยืนยันว่า  มะเร็งได้กระจายไปที่อื่น



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น