วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Asthma: Treatment

10/30/12

Drug Treatment: Controllers And Relievers

เมื่อนานมาแล้วนี้ เราพบว่า... 
คนไข้ที่ทรมานจากโรคหืด  จะใช้ยารักษาอาการของเขาเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น
นั้นคือ  ยาขยายหลอดลม- bronchodilators
ซึ่งมันจะออกฤทธิ์ด้วยการทำให้ทางเดินของลมหายใจขยายตัว

แต่มาวันนี้  เมื่อเราได้เข้าใจว่า  ต้นเหตุของอาการโรคหืดมาจากการอักเสบ
(inflammation) จึงมีการเพิ่มยาอีกตัวให้แก่คนไข้ 
เพื่อทำหน้าที่ควบคุมการอักเสบ  ซึ่งเป็นตัวนำไปสู่การเกิดอาการของโรคหืด
โดยท่านอาจจำเป็นต้องใช้ยาถึงสองกลุ่มด้วยกัน  กลุ่มแรก ทำหน้าที่ควบคุม
หรือป้องกันไม่ให้โรคหืดของท่านสำแดงฤทธิ์ออกมา 
และยากลุ่มที่สอง  จะทำหน้าที่ช่วยทำให้ท่านหายใจดีขึ้น
เมื่ออาการของโรคหืดปรากฏขึ้น

ที่ถูกต้อง...เราน่าจะกล่าวว่า  ยาที่ใช้ในการรักษาโรคหืดน่าจะใช้คำว่า
ยาสำหรับควบคุมโรค (controllers) และยารักษาอาการ(relievers)
Controllers  คือยาใช้จัดการกับอาการอักเสบ (inflammation)
ซึ่งเป็นต้นตอของโรคหืด  ส่วน relievers  
คือยาที่ใช้รักษาอาการของโรคหืดที่เกิดขึ้น
·        Controllers
·        Relievers
เมื่อการอักเสบถูกควบคุมได้  การหดเกร็งของทางหลอดลม (bronchospasm)
ไม่น่าจะเกิดขึ้น    ส่วนใหญ่แล้ว  ยาในกลุ่ม controllers  สามารถจัดการ
และป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบ  เกิดในทางเดินของลมหายใจในคนเป็นโรคหืด

ส่วนยาตัวอื่นๆ  ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการอักเสบเลย
แต่ถูกใช้ให้ทำงานตลอดเวลา  ด้วยการทำให้กล้ามเนื้อของทางเดินลมหายใจ
เกิดการคลายตัว (relax)  ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่ง  ที่ยาดังกล่าวสามารถป้องกันไม่ให้
ทางเดินของลมหายใจเกิดการหดเกร็ง   เมื่อมีอาการแพ้เกิดขึ้น

ตามปกติแล้ว  ยาในกลุ่ม controllers จะต้องใช้ทุกวัน 
โดยไม่ต้องไปคำนึงว่าจะเกิดมีอาการหรือไม่
มีคนเป็นโรคหืดบางคนเข้าใจผิดว่า...
เมื่อไม่มีอาการแล้ว  และรู้สึกสบาย  เขาจะต้องหยุดยากลุ่มควบคุม (controllers)
ทันที  นั่นเป็นความเข้าใจผิดถนัด  เพราะการหยุดยากลุ่มดังกล่าว
จะทำให้การอักเสบกลับเป็นขึ้นมาอีก  พร้อมกับมีอาการของโรคหืดหอบเกิดขึ้น
ยาในกลุ่มทำหน้าที่ควบคุมโรค (controllers) ได้แก่:

Corticosteroids:
จัดเป็นยาสำหรับลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด  ที่เรานำมาใช้ควบคุม
โรคหืดในระยะยาว  จะเป็นยาพ่น (inhaled corticosteroids)

สำหรับยาเม็ดรับประทาน  สามารถใช้ในขนาดสูง ๆ
เพื่อหวังควบคุมโรคเป็นเวลาหลายวัน 
และถูกนำมาใช้ในขณะที่มีอาการกลับเป็นขึ้นมาอีก (flare up)

นอกจากนั้น  ยาเม็ดรับประทานในกลุ่มนี้  จะถูกใช้ในระยะยาว
เพื่อควบคุมโรหืดที่มีความรุนแรง

Cromolyn sodium & nedocromil:
เป็นยาลดการอักเสบ (anti-inflammatory drugs)
อาจถูกนำมาใช้รักษาโรคในเด็กที่เป็นโรคหืดในระยะยาง  และถูกนำมาใช้ใน
กรณีก่อนออกกำลังกาย  หรือก่อนที่จะสัมผัสถูกตัวกระตุ้นให้เกิดอาการ

ยาตัวนี้มีฤทธิ์ไม่เทียบเท่ายากลุ่ม corticosteroid  inhalers
แต่จะเป็นยาที่เหมาะกับคนไข้  ที่มีอาการไม่รุนแรง (mild symptoms)

Long-acting beta-2 agonists:
ยาในกลุ่มนี้  จะทำหน้าที่ขยายทางเดินของลมหายใจ (bronchodilatators)
จะถูกใช้ร่วมกับยาลดการอักเสบในระยะยาว
โดยเฉพาะในรายที่มีอาการในตอนกลางคืน

ยาในกลุ่มนี้ได้แก่  salmeterol (Serevent), fromotero (Foradil)  และ
ยาร่วมระหว่าง salmeterol กับ corticosteroid (Advair)

ในการใช้ยาในกลุ่มนี้  ได้รับคำเตือนจาก FDA ในปี 2005 ว่า...-
ยาดังกล่าว  สามารถทำให้คนไข้เกิดมีอาการรุนแรง  อาจถึงเสียชีวิตได้
แต่เนื่องจากมันเกิดได้น้อยมาก  และมีผลทางการรักษาได้ผลดีมาก
ดังนั้น  ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ใช้ยาในกลุ่มนี้นี้ต่อไป

Methyxanthines:
เป็นยา theophylline ที่ออกฤทธิ์ได้นาน  มีฤทธิ์ทำให้ทางเดินหายใจขยาย
ตัว (bronchodilatator)  อาจถูกนำมาใช้ร่วมกับยา inhaled corticosteroid
เพื่อป้องกันไม่เกิดมีอาการในตอนกลางคืน

ยาในกลุ่ม Methylxanthines เช่น  theophylline จะไม่ค่อยใช้ในผู้ใหญ่
เพราะเป็นยาที่ผลข้างเคียง  ซึ่งทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
และเนื่องจาก  มันสามารถทำปฏิกิริยากับยาตัวอื่นๆ ที่ใช้เป็นประจำ
และนำไปสู่ผลข้างเคียงต่างๆ ได้

Leukotriene modifiers:
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่  Zafirlukast, zileuton หรือ montelukast
อาจถูกนำมาใช้  เพื่อลดขนาดของยา inhaled corticosteroids ในคนไข้เด็ก
เล็กที่มีอายุต่ำถึง  1  ปี  แต่ไม่ควรใช้ในเด็กทั่วไป
ทั้งนี้เป็นเพราะ  ยา corticosteroid inhalers  เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับ
ใช้ในการควบคุมโรคได้เป็นอย่างดี (controllers)

Immunotherapy
การฉีดสารที่ก่อให้เกิดภิแพ้ (allergy shots)…
สามารถมีประโยชน์ในคนไข้บางราย  ที่โรคหืดหอบชนิดที่เกิดจากการแพ้
(allergic asthma)  โดยเฉพาะโรคหืดถูกกระตุ้นด้วยสารก่อให้เกิดอาการ
แพ้ (ไรฝุ่น, ขนสัตว์, เกษรดอกไม้, รังแคสัตว์)

การฉีดสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้เข้าใต้ผิวหนังทีละน้อย(allergy shots)
จะเปลี่ยนวิธีของระบบภูมคุ้มกันให้มีต่อตัวที่ก่อให้เกิดอากาแพ้
ซึ่งจำทำให้มีอาการน้อยลง

ยา Omalizumab (Xolair) ถูกนำมาใช้ในการบล็อกผลของ IgE antibodies
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิกิริยาที่เกิดจากการแพ้...
ยาชนิดนี้  ได้รับการยอมรับให้ใช้ในการรักษา  คนไข้โรคหืดหอบ (asthma)
ซึ่งไม่ตอบสนองต่อยาในกลุ่ม corticosteroids

อย่างไรก็ตาม  ยาตัวนี้ไม่ค่อยจะได้ใช้กันมากนัก
เพราะมันมีราคาแพงมาก  และไม่สะดวกต่อการนำมาใช้ในการรักษา

ยารักษาอาการ (Relievers)
ยารักษาอาการของโรคหืด  จะมีบทบาทที่แตกต่างจากยาในกลุ่มควบคุมโรค
(controllers)  โดยที่ยาในกลุ่ม relievers  สามารถเปลี่ยนอาการของคนไข้
ได้ง่ายกว่า  ซึ่งยาในกลุ่มนี้  จะทำให้หลอดลมที่หดแคบลงเพราะการอักเสบ
หรือจากการละคายเคือง  เกิดการขยายตัวด้วยการทำให้กล้ามเนื้อของหลอด
ลมคลายตัว

ยาในกลุ่ม relievers…  มีให้เราใช้ในรูปของยาพ่นเข้าปาก (inhalers)
หรือให้การรักษาด้วยการหายใจเอาละอองน้ำที่มียาขยายหลอดลม
(nebulisers) ยาในกลุ่มนี้  ได้แก่:

Short-acting beta-2 agonists:
ยาในกลุ่มนี้  ได้แก่ albuterol และ pributerol
จัดเป็นยาที่ถูกเลือกให้ใช้  เพื่อลดอาการของโรคหืดชนิดอย่างเฉียบพลัน
และสามารถใช้ป้องกันอาการหืด  ซึ่งเกิดจากการออกกำลังกาย

Anticholinergics:
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่  Ipratropium  bromine ( Atrovent)
อาจเพิ่มประสิทธิผลให้กับยากลุ่ม short-acting beta- 2 antagonist
สำหรับรักษาโรคหืดที่มีความรุนแรง
อาจเป็นตัวเลือก สำหรับรายที่ไม่สามารถทนต่อการใช้  inhaled short-
Acting  beta-2 agonist


http://www.intelihealth.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น