Aug. 3, 2013
ในการวินิจฉัยไวรัสตับอักเสบ
B ...
เราสามารถกระทำได้ด้วยการตรวจเลือด
ดูสารก่อให้เกิดภูมิต้านทาน
(antigens ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเชื้ไวรัส)
และดูภูมิต้านทาน
ซึ่งถูกสร้างโดยภูมิคุ้มกัน
ที่ตอบสนองต่อการมีเชื้อไวรัสตับอักเสบ HBV
การตรวจครั้งแรกเพื่อการวินิจฉัยไวรัสตับอักเสบ
B จะตรวจดู HbsAg
(the hepatitis B surface
antigen) และภูมิต้านทานอีกสองตัว:
anti-HBs (antibodies to the HBV surface antigen)
และ
anti-HBc (antibodies to The
HBV core antigen)
ตามเป็นจริง anti-HBc มีสองชนิดที่ถูกสร้างขึ้น:
immunoglobulin M (IgM) Antibodies และ IgG
โดย
IgG จะถูกสร้างขึ้นในระยะหลังของการอักเสบ และมันจะไปแทน
ที
IgM antibodies...
เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน...
ลองพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ดู อาจทำให้ท่านเข้าใจเรื่องไวรัสตับอักเสบ
ของท่านดีขึ้น:
Hepatitis B Status
|
HBsAg
|
Anti-
HBc
(total)
|
Anti-
HBc
(IgM)
|
Ant-
HBs
|
ท่านไม่เคยได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบมาก่อนเลย ควรพิจารณาฉีดวัคซีนกันเชื้อไวรัสเสีย
|
Negative
|
Negative
|
Negative
|
Negative
|
เคยได้รับการอักเสบจากเชื้อไวรัสมาเมื่อ
6
เดือนที่ผ่านมา และยังอยู่ในภาพมีฤทธิ์อยู่
(acitve)
|
Positive
|
Positive
|
Positive
|
Negative
|
เคยได้รับการอักเสบจากเชื้อไวรัสเมือ
6
เดือนที่ผ่านมา
และอยู่ในระหว่างกำลังหายจากโรค (clearing process)
False positive อาจพบได้
การที่คนไข้
HBV positiveควรทำการตรวจ HBV viral load
|
Negative
|
Negative
|
Positive
|
Negative
|
มีการอักเสบมานานเกิน
6 เดือน และถูกควบคุมโดยระบบภูมิคุ้มกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
|
Negative
|
Positive
|
Negative
|
Positive
|
วัคซีนที่ฉีดสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคไวรัสตับอักเสบ
|
Negative
|
Negative
|
Negative
|
Positive
|
Chronic HBV
|
Positive
|
Negative
|
Positive
|
Negative
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น