Feb. 08,2013
มีผลการศึกษาจำนวนไม่น้อยลงความเห็นว่า...
โรคเบาหวาน และโรคเส้นเลือด และหัวใจมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
จากรายงานของ Joslin Diabetes Center กล่าวว่า คนเป็นเบาหวาน
มีอุบัติการณ์เกิดโรคหัวใจได้สูงกว่าคนทั่วไปถึง 3 – 4 เท่าตัว
ตามเป็นจริง โรคในระบบหัวใจ-เส้นเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุนำทำให้เกิด
โรคหัวใจ และสมองจากการขาดเลือด (heart attack & stroke)
จะเป็นต้นเหตุของความตายในคนเป็นโรคเบาหวานทั้งชาย และหญิง
นอกจากนั้น ยังพบอีกว่า โรคในระบบเส้นเลือด-หัวใจยังเป็นเหตุทำ
ให้การไหลเวียนของเลือดสู่ขาเลวลง และเป็นต้นเหตุให้เสียขาไป
แม้ว่า การรักษาโรคหัวใจได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก ทำให้คนเป็นโรคหัว
ใจ และสมองขาดเลือดจะรอดพ้นจากความตายเพิ่มขึ้นก็ตาม
แต่ก็ยังปรากฏว่า อุบัติการณ์ของคนเป็นโรคเบาหวาน และโรคหัวใจ
รวมถึงภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ยังมีจำนวนมากอยู่ดี
ในคนเป็นเบาหวาน ที่เกิดภาวะหัวใจขาดเลือด (heart attack)…
พบว่า เปอร์เซ็นต์ของการรอดชีวิตจะน้อยกว่าคนทั่วไป
มีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้างที่เราควรรู้ ?
ในขณะนี้ โรคเบาหวานถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงตัวสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ
ซึ่งไม่เพียงแต่ระดับของน้ำตาลในกระแสเลือดที่สูงขึ้นเท่านั้นที่เป็นเหตุ
แต่ยังมีกลไกหลายอย่าง ซึ่งทำปฏิกิริยาต่อกันและกัน...
เส้นเลือดของคนเป็นโรคเบาหวาน...
จะไวต่อการทำลายจากปัจจัยเสี่ยงอย่างอื่นอีกหลายอย่าง
เช่น สูบบุหรี่, ระดับไข้มัน cholesterol สูง, และความดันโลหิตสูง
มีหลักฐานยืนยันว่า...
การสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจก่อนเวลาอันควรได้
ประมาณ 10 ปี (premature heart disease)
โดยเฉพาะในรายที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับปกติได้เป็นเวลานาน
หรืออาจเป็นผลเนื่องมาจากเส้นเลือดถูกทำลายจากโรคเบาหวาน
นอกจากนั้น การมีน้ำหนักตัวสูง, การมีอาชีพนั่งโต๊ะไม่ค่อยได้ออก
กำลังกาย และความล้มเหลวในการรักษาเบาหวาน จะเป็นต้นเหตุ
ให้เกิดมีความดันโลหิตสูง และเกิดความผิดปกติในระดับไขมัน
ในเลือด (high cholesterol, high triglycerides, low HDL)
ผลจากการศึกษา...
มีหลักฐานยืนยันว่า โรคเบาหวานจะเพิ่มระดับการอักเสบเซลล์บุผิวภายในเส้นเลือดแดง
ซึ่งเป็นกระบวนการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจในภายหลัง
โดยเราสามารถรู้ได้ด้วยการตรวจหาค่า C-reactive protein
การป้องกัน หรือชะลอการเกิดโรคหัวใจ
ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจมักจะเริ่มต้นก่อนที่เราจะรู้ว่า
เราเป็นโรคเบาหวานเสียอีก
จากสถิติของสหรัฐฯ รายงานไว้ว่า มีคนชาวอเมริกันจำนวน 60 ล้านคน (ผู้ใหญ่)
มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน และวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน
หรือชะลอการเกิดโรคในระบบหัวใจ-เส้นเลือด
คือการป้องกันไม่ให้เกิดโรคเบาหวานนั่นเอง
เราสามารถระบุได้ว่า ใครมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน
และผลจากการศึกษาของ NIH ใน The Diabetes Prevention Program
แลการศึกษาอื่น ๆ พบว่า การลดน้ำหนักตัว และการออกกำลังกายอย่าง
น้อย 30 นาทีต่อวัน ห้าวันต่อหนึ่งอาทิตย์ สามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรค
เบาหวานประเภทสองได้มากกว่า 50 %
นอกเหนือไปจากนี้ ในคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวาน
หรือคนที่อยู่ในระยะก่อนเป็นเบาหวานเต็มตัว (pre-diabetes) และคนเป็น
โรคเบาหวาน เรายังพบอีกว่า มีเป็นจำนวนไม่น้อยที่มีความผิดปกติใน
ระดับความดันโลหิต และความผิดปกติในระดับของไขมันชนิดต่าง ๆ
ซึ่งเราสามารถตรวจพบได้ และรักษาเพื่อป้องก้นไม่ให้เกิดโรคในระบบ
หัวใจ และเส้นเลือด
การลดน้ำหนักตัว และการเลิกสูบบุหรี่...
ต่างเป็นวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สำคัญ ที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจได้
แม้ว่าจะเป็นคนมีน้ำหนักตัวสูงก็ตาม แต่หากเขาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ย่อมสามารถทำให้เขาผู้นั้นได้ประโยชน์ต่อการป้องกันโรคในระบบเส้นเลือด
และหัวใจได้เช่นกัน
ผลจากการศึกษาทั่วโลกเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา...
พบว่า การควบคุมระดับไขมัน LDL cholesterol และความดันโลหิตสูง
สามารถป้องกันการเกิดโรคในระบบหัวใจ และเส้นเลือดได้ 30 – 50 %
โดย American Diabetes Association & American Heart Association
แนะนำให้ลดระดับ LDL cholesterol ในผู้ใหญ่ให้ต่ำกว่า 100 mg/dL
ยิ่งเป็นคนที่เป็นโรคหัวใจด้วยแล้ว ควรให้ LDL ต่ำกว่า 70 mg/dL
สำหรับคนเป็นเบาหวานร่วมกันโรคความดันโลหิตสูง...
เป้าหมายของการลดระดับความดันโลหิต ควรต้องต่ำกว่า 130/80 mg/dL
และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว อาจจำเป็นต้องใช้ยาสองตัว
หรือมากกว่าสองขนานขึ้นไป
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สำหรับท่านที่เป็นโรคเบาหวาน & ความดันโลหิตสูง
นั้นคือ เรามีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยสำหรับใช้
รักษาคนเป็นโรคความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง
นอกเหนือจากที่กล่าว...
การรักษาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ร่วมกับการให้ยา aspirin
เป้าหมายของการลดน้ำตาลโดยใช้ A1C ควรต้องได้ค่าต่ำแกว่า 7 %
และถ้าเป็นคนไข้อายุน้อย ระดับของ A1C ควรต่ำกว่า 6.5 %
โดยสรุป....
เพื่อเป็นป้องกัน และรักษาโรคเบาหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เราสามารถใช้สัญลักษณ์ที่เป็นตัวอักษร “ABC” เพื่อประโยชน์ในด้าน...
ใช้เป็นเครื่องหมายให้ทราบถึงคำวินิจฉัยโรค, ประสิทธิภาพของการรักษา,
ตลอดรวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น
โดย A เป็นสัญลักษณ์ของ A1C
ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงระดับน้ำตาลในกระแสเลือดย้อนหลังได้นานถึงสามเดือน
(ค่าปกติต้องต่ำกว่า 7 %), B เป็นสัญลักษณ์แทนความดันโลหิต ( blood pressure)
ซึ่งจะต้องมีค่าต่ำกว่า 130/80 mm Hg และ C เป็นสัญลักษณ์แทนระดับไขมัน
cholesterol ในกระแสเลือด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น