Feb. 16,2013
continued...
Glucagon
Glucagon เป็นยาที่มีไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน
เมื่อฉีดให้แก่คนไข้แล้วสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้ทันที
มันเป็นยาที่มีความสำคัญสำหรับคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวาน เพื่อแก้ไขปัญหา
จากน้ำตาลลดต่ำ...
มันเป็นยาที่มีความสำคัญสำหรับคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวาน เพื่อแก้ไขปัญหา
จากน้ำตาลลดต่ำ...
ซึ่งญาติ รวมถึงเพื่อนของคนไข้ควรรู้เรื่องเกี่ยงกับยาตัวนี้เป็นอย่างดี
สามารถหยิบใช้ เพื่อช่วยคนไข้ที่อยู่ในภาวะน้ำตาลลดต่ำได้
สามารถหยิบใช้ เพื่อช่วยคนไข้ที่อยู่ในภาวะน้ำตาลลดต่ำได้
ในกรณีที่คนไข้เป็นเบาหวานหมดสติดจากการขาดน้ำตาล
เพื่อน, หรือญาติของท่านสามารถฉีดยา glucagon ให้แก่คนไข้ได้ทันที
โดยหวังผลช่วยชีวิตคนไข้ให้รอดพ้นจากภาวะสมองขาดน้ำตาล
ซึ่งทุกคน (ที่กล่าวถึง) สามารถฉีดยาตัวดังกล่าวได้
ด้วยการฉีดเข้ากล้ามตรงบริเวณต้นแขน หรือต้นขา...
เพื่อน, หรือญาติของท่านสามารถฉีดยา glucagon ให้แก่คนไข้ได้ทันที
โดยหวังผลช่วยชีวิตคนไข้ให้รอดพ้นจากภาวะสมองขาดน้ำตาล
ซึ่งทุกคน (ที่กล่าวถึง) สามารถฉีดยาตัวดังกล่าวได้
ด้วยการฉีดเข้ากล้ามตรงบริเวณต้นแขน หรือต้นขา...
ในคนไข้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดลดต่ำ...
ควรมียา glucagon พกติดตัวเสมอ หรือเก็บไว้ใกล้ตัว...
พร้อมที่จะหยิบใช้ได้เมื่อถึงคราวจำเป็น
ควรมียา glucagon พกติดตัวเสมอ หรือเก็บไว้ใกล้ตัว...
พร้อมที่จะหยิบใช้ได้เมื่อถึงคราวจำเป็น
Diabetic Gastroparesis
เป็นความผิดปกติ หรือโรคที่เกิดขึ้นจากเส้นประสาท
ของกระเพาะอาหารถูกทำลายจากโรคเบาหวาน
เป็นเหตุให้กระเพาะเกิดความอ่อนแอ
เป็นเหตุให้กระเพาะเกิดความอ่อนแอ
ในโรคดังกล่าว กระเพาะอาหารไม่สามารถขับเคลื่อนอาหาร
ที่เรารับประทาน ให้ผ่านไปยังลำไส้ส่วนที่ถัดไปได้ เป็นเหตุให้มี
อาหารตกค้าง ในบริเวณกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการต่างๆ แก่คนไข้ได้
เช่น เกิดอาการ “เรอ”, “แสบยอดอก”, “คลื่นไส”, “ปวดท้อง”, หรือ “อาเจียน”
ซึ่งมักจะเกิดหลังรับประทานอาหารประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง
ที่เรารับประทาน ให้ผ่านไปยังลำไส้ส่วนที่ถัดไปได้ เป็นเหตุให้มี
อาหารตกค้าง ในบริเวณกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการต่างๆ แก่คนไข้ได้
เช่น เกิดอาการ “เรอ”, “แสบยอดอก”, “คลื่นไส”, “ปวดท้อง”, หรือ “อาเจียน”
ซึ่งมักจะเกิดหลังรับประทานอาหารประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง
เราสามารถลดอาการจากภาวะดังกล่าวได้สองทางด้วยกัน
ประการแรก : ให้รับปรทานอาหารในปริมาณน้อย แต่วันละหลายครั้ง
อย่ารับประทานอาหารหนักเป็นอันขาด
ประการแรก : ให้รับปรทานอาหารในปริมาณน้อย แต่วันละหลายครั้ง
อย่ารับประทานอาหารหนักเป็นอันขาด
ประการที่สอง: หลังรับประทานอาหารห้ามเอนตัวลงนอนเป็นอันขาด เข้าลักษณะ
"โรคสอนคนไม่ให้เป็นคนขี้เกียจ" อย่างนั้นแหละ !
"โรคสอนคนไม่ให้เป็นคนขี้เกียจ" อย่างนั้นแหละ !
นอกจากนั้น...
ยา (medications) อาจมีส่วนช่วยทำให้กระเพาะขับเคลื่อนอาหาร
ให้ออกจากกระเพาะลำไส้ส่วนถัดไปได้เร็วขึ้น
ให้ออกจากกระเพาะลำไส้ส่วนถัดไปได้เร็วขึ้น
Diabetes and Alcohol
เมื่อท่านดื่มแอลกอฮอล์...
แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้าสูกระแสโลหิตอย่างรวดเร็ว
โดยไม่ผ่านกระบวนย่อยในกระเพาะอาหารเหมือนอาหารอย่างอื่น
และภายในห้านาทีหลังการดื่มเท่านั้น
จะพบว่ามีจำนวนแอลกอฮอล์ในเลือดมากพอที่จะให้เราวัดได้
ซึ่งมันจะถูกเผาผลาญ (metabolize) ในตับต่อไป
ในคนปกติถ้าดื่มเพียงแก้วเดียว (one drink)…
ตับจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงก็สามารถเผาผลาญได้หมด
แต่ถ้าเมื่อใดที่มีการดื่มในปริมาณมากเกินกว่าที่ตับจะทำลายได้หมด
จะทำให้ปริมาณของแอลกอฮอล์ในเลือด และในส่วนอื่นของร่างกายสูงขึ้น
โดยเฉพาะสมองซึ่งเราจะเห็นดื่ม รู้สึกตื่นเต้นหลังการดื่ม
ตับจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงก็สามารถเผาผลาญได้หมด
แต่ถ้าเมื่อใดที่มีการดื่มในปริมาณมากเกินกว่าที่ตับจะทำลายได้หมด
จะทำให้ปริมาณของแอลกอฮอล์ในเลือด และในส่วนอื่นของร่างกายสูงขึ้น
โดยเฉพาะสมองซึ่งเราจะเห็นดื่ม รู้สึกตื่นเต้นหลังการดื่ม
ในกรณีที่ท่านเป็นโรคเบาหาวาน...
และท่านรับยาฉีด "อินซูลิน" หรือรับประทานยาเม็ดยาลดระดับน้ำตาล
เช่น sulfonylurea (glipizide, glyburide) หรือ meglitinide
ซึ่งมันจะไปกระตุ้นกับอ่อนให้ผลิต และปล่อย “อินซูลิน” เพิ่มขึ้น
เพื่อทำให้น้ำตาลลดลง
และท่านรับยาฉีด "อินซูลิน" หรือรับประทานยาเม็ดยาลดระดับน้ำตาล
เช่น sulfonylurea (glipizide, glyburide) หรือ meglitinide
ซึ่งมันจะไปกระตุ้นกับอ่อนให้ผลิต และปล่อย “อินซูลิน” เพิ่มขึ้น
เพื่อทำให้น้ำตาลลดลง
นอกจากนั้น ภายใต้ภาวการณ์ดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก...
แอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือด จะทำให้ตับลืมหน้าที่ของมันในการสร้าง และ
ปล่อยน้ำตาลออกมาให้เพียงแก่ความต้องการของร่างกาย
เพราะมัน (ตับ) มัวแต่สาละวนอยู่กับการกำจัดเอาแอลกอฮอล์
เลยไม่มีเวลาทำหน้าที่ของตัวเองไป จนเป็นเหตุให้ไม่มีน้ำตาลในเลือดเพียงพอ
เกิดภาวะน้ำตาลลดต่ำ (hypoglycemia)
แอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือด จะทำให้ตับลืมหน้าที่ของมันในการสร้าง และ
ปล่อยน้ำตาลออกมาให้เพียงแก่ความต้องการของร่างกาย
เพราะมัน (ตับ) มัวแต่สาละวนอยู่กับการกำจัดเอาแอลกอฮอล์
เลยไม่มีเวลาทำหน้าที่ของตัวเองไป จนเป็นเหตุให้ไม่มีน้ำตาลในเลือดเพียงพอ
เกิดภาวะน้ำตาลลดต่ำ (hypoglycemia)
Safe drinking guidelines
เพื่อความปลอดภัยของท่านที่เป็นโรคเบาหวาน...
ท่านควรปรึกษาแพทย์ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์
สามารถทำให้ภาวะแทรกซ้อนที่มีอยู่แล้วเลวลงได้
ท่านควรเช็คดูระดับน้ำตาลในเลือดของท่านในเวลาที่ท่านดื่อม
โดยตรวจในเวลาก่อนดื่ม, ระหว่างดื่ม และหลังดื่มแอลกอฮอล์
และอย่าลืมให้ตรวจอีกครั้งก่อนเข้านอน
เดียวเกิดภาวะน้ำตาลลดต่ำตอนหลับ...อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ในระหว่างออกกำลังกาย ไม่ควรดื่มดื่มแอกอฮอล์...
เพราะการออกแรงร่วมกับการออกกำลังกาย จะเพิ่มโอกาสให้
เกิดภาวะน้ำตาลลดต่ำได้...ต้องระวัง
Cigarettes and Diabetes
การสูบบุหรี่เป็นปัญหาต่อสุขภาพของทุกคน...
โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวาน ยิ่งมีอันตรายมากกว่าคนไม่สูบบุหรี่
เพราะการสูบบุหรี่สามารถทำให้เส้นเลือดหดตัว (vasoconstricton)
เป็นต้นเหตุให้โรคต่างๆ ที่มีร่วมอยู่แล้ว เลวลงได้
เช่น โรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ, ภาวะสมองขาดเลือด (stroke),
ปัญหาทางเพศจากโรคเบาหวาน(diabetic sex problems)
และเพิ่มโอกาสให้สูญเสียขาได้
โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวาน ยิ่งมีอันตรายมากกว่าคนไม่สูบบุหรี่
เพราะการสูบบุหรี่สามารถทำให้เส้นเลือดหดตัว (vasoconstricton)
เป็นต้นเหตุให้โรคต่างๆ ที่มีร่วมอยู่แล้ว เลวลงได้
เช่น โรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ, ภาวะสมองขาดเลือด (stroke),
ปัญหาทางเพศจากโรคเบาหวาน(diabetic sex problems)
และเพิ่มโอกาสให้สูญเสียขาได้
สำหรับท่านที่สูบบุหรี่เป็นประจำ...มีรายงานที่น่าสนใจว่า
การสูบบุหรี่จะเพิ่มควมเสี่ยงต่อการเกิดภาวะของหัวใจถูกทำลายจาก
การขาดเลือด (heart attack) ได้สามเท่าตัวของคนทั่วไป แต่ถ้าหาก
ท่านเป็นเบาหวาน... การสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจดังกล่าวถึง
10 เท่าตัว
การสูบบุหรี่จะเพิ่มควมเสี่ยงต่อการเกิดภาวะของหัวใจถูกทำลายจาก
การขาดเลือด (heart attack) ได้สามเท่าตัวของคนทั่วไป แต่ถ้าหาก
ท่านเป็นเบาหวาน... การสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจดังกล่าวถึง
10 เท่าตัว
Diabetes and Pregnancy
สตรีที่เป็นโรคเบาหวาน ยังสามารถมีบุตรที่แข็งแรงเป็นเด็กปกติได้
แต่ท่านจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเป็นอย่างดี
มีการดูแลรักษาโรคเบาหวาน ให้ระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับใกล้ปกติ
ตลอดระยะเวลาทั้งก่อน...ระหว่างการตั้งครรภ์
แต่ท่านจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเป็นอย่างดี
มีการดูแลรักษาโรคเบาหวาน ให้ระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับใกล้ปกติ
ตลอดระยะเวลาทั้งก่อน...ระหว่างการตั้งครรภ์
ในระหว่างตั้งครรภ์จะพบว่า ระดับน้ำตาลมีได้ทั้งสูงหรือต่ำได้บ่อยสุด
ซึ่งสามารถทำให้เกิดมีปัญหาทางตา และปัญหาไต ( Eyes & kidney problems)
ทำให้ปัญหาที่มีเลวลงไปกว่าเดิม นอกจากนั้น การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
ยังเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้เช่นกัน
ซึ่งสามารถทำให้เกิดมีปัญหาทางตา และปัญหาไต ( Eyes & kidney problems)
ทำให้ปัญหาที่มีเลวลงไปกว่าเดิม นอกจากนั้น การมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
ยังเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้เช่นกัน
ดังนั้น ก่อนที่ท่านจะตั้งครรภ์...ท่านและสามีจะต้องวาแผนการที่จะมีลูกกันให้ดี
มีความระมัดระวังในเรื่องการ “คุมกำเนิด” เอาไว้ก่อน
จนกว่าท่านพร้อมที่ตั้งครรภ์
มีความระมัดระวังในเรื่องการ “คุมกำเนิด” เอาไว้ก่อน
จนกว่าท่านพร้อมที่ตั้งครรภ์
เมื่อท่านพร้อมที่จะมีบุตร...
ท่านจะต้องควบคุมให้ระดับน้ำตาลอยู่ในใกล้ระดับปกติทั้งก่อน, ระหว่างตั้งครรภ์
การทำได้เช่นนั้น นอกจากจะปกป้องมารดาไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนแล้ว
ยังสามารถปกป้องทารกในครรภ์ให้อยู่ในสภาพปกติได้
ท่านจะต้องควบคุมให้ระดับน้ำตาลอยู่ในใกล้ระดับปกติทั้งก่อน, ระหว่างตั้งครรภ์
การทำได้เช่นนั้น นอกจากจะปกป้องมารดาไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนแล้ว
ยังสามารถปกป้องทารกในครรภ์ให้อยู่ในสภาพปกติได้
http://depts.washington.edu
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น