Feb. 17, 2013
continued
ท่านทราบใหม่ว่า...
ในคนที่เป็นโรคเบาหวาน เมื่อได้รับการวินิจฉัย จะพบว่า
มีเส้นเมื่อเส้นประสาทถูกทำลายเกิดขึ้นถึง 10 % และจะเกิดภาวะดังกล่าวได้ถึง 50 %
ภายในระยะเวลา 25 ปี เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มีเพียง 25 - 33 % เท่าน้นที่เกิดมีอาการเจ็บปวด
และอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้น สามารถเป็นอาการปวดที่บริเวณผิว ๆ
เช่น ปวดแสบสวดร้อน, ปวดเหมือนถูกของมีคมทิ่มแทง, หรือปวดเมื่อมีการกระตุ้น
นอกจากนั้น อาการปวดอาจมีลักษณะเหมือนถูกไฟฟ้าช๊อทเอา,
กล้ามเนื้อปั้น และปวดกล้ามเนื้อ
ท่านทราบใหม่ว่า...
ในคนที่เป็นโรคเบาหวาน เมื่อได้รับการวินิจฉัย จะพบว่า
มีเส้นเมื่อเส้นประสาทถูกทำลายเกิดขึ้นถึง 10 % และจะเกิดภาวะดังกล่าวได้ถึง 50 %
ภายในระยะเวลา 25 ปี เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มีเพียง 25 - 33 % เท่าน้นที่เกิดมีอาการเจ็บปวด
และอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้น สามารถเป็นอาการปวดที่บริเวณผิว ๆ
เช่น ปวดแสบสวดร้อน, ปวดเหมือนถูกของมีคมทิ่มแทง, หรือปวดเมื่อมีการกระตุ้น
นอกจากนั้น อาการปวดอาจมีลักษณะเหมือนถูกไฟฟ้าช๊อทเอา,
กล้ามเนื้อปั้น และปวดกล้ามเนื้อ
อาการ (Symptoms of neuropathy)
อาการที่เกิดขึ้นย่อมขึ้นกับชนิดของเส้นประสาทที่ถูกทำลายไป
บางคนไม่มีอาการแต่อย่างใด ส่วนคนอื่น ๆ อาการเริ่มแรกมักจะมีอาการชา
หรือมีอาการเจ็บปวดเหมือนถูกของมีคมทิ่มแทงในบริเวณฝ่าเท้า
หรือมีอาการเจ็บปวดเหมือนถูกของมีคมทิ่มแทงในบริเวณฝ่าเท้า
ในตอนเริ่มแรก อาการมักจะปรากฏแต่เพียงเล็กน้อย
และเนื่องจากเส้นประสาทถูกทำลาย ได้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานหลายปีโดยเจ้าตัวไม่ทราบว่า
เส้นประสาทของตัวเองถูกทำลายไปเสียแล้ว
เส้นประสาทของตัวเองถูกทำลายไปเสียแล้ว
ในโรคเบาหวาน...
สามารถทำให้เกิดการทำลายเส้นประสาทได้ทุกส่วน
เช่น ทำลายประสาทส่วนที่ทำหน้าที่รับความรู้สึก (sensory),
ประสาทสำหรับการเคลื่อนไหว (motor) และเส้นประสาทอัตโนมัติ
(autonomic nervous system)
ในคนบางคน การทำลายเส้นประสาทจะเกิดเกิดขึ้นกับเส้นประสาทเพียง
เส้นเดียว (focal neuropathy) โดยอาการการที่เกิด
อาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และมีอาการอย่างรุนแรง
อาการของเส้นประสาทถูกทำลายอาจมีได้ดังต่อไปนี้:
o มีอาการชา (numbness), รู้สึกเหมือนถูกของมีคมทิ่มแทง
หรือมีอาการเจ็บปวดที่บริเวณนิ้วเท้า, เท้า, ขา, มือ, แขน
และนิ้วมือทั้งสองข้าง
o สูญเสียมวลของกล้ามเนื้อของเท้า และแขนไป
o อาการอาหารไม่ย่อย (indigestion), คลื่นไส้ หรืออาเจียน , ท้องร่วง หรือท้องผูก
o วิงเวียน หรือรู้สึกเหมือนจะหมดสติเป็นลม(fainting)
ซึ่งเกิดจากความดันลดโลหิตลดต่ำลงเมื่อลุกขึ้น หรือลุกขึ้นนั่งตรง
เป็นเหตุให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่พอกับความต้องการ
o มีปัญหาในการปัสสาวะ
o มีปัญหาด้านเพศสัมพันธ์ (erectile dysfunction) หรือ
ช่องคลอดแห้งผาก
o กล้ามเนื้ออ่อนแรง (weakness)
นอกจากนั้น เรายังพบอีกว่า มีอาการอีกหลายอย่าง
ซึ่งไม่ใช่อาการของเส้นประสารทถูกทำลายโดยตรง แต่เป็นอาการที่เกิดร่วมเท่านั้น
เช่น น้ำหนักลด (weight loss) และ เกิดอาการซึมเศร้า (depression)
เช่น น้ำหนักลด (weight loss) และ เกิดอาการซึมเศร้า (depression)
ชนิด (Type of diabetic neuropathy):
เส้นประสาทอักเสบที่ถูกทำลายสามารถแบ่งเป็น peripheral, Autonomic, proximal, หรือ focal
ซึ่งแต่ละชนิดจะเกิดขึ้นกับส่วนต่างๆ ร่างกายในหลายทางด้วยกัน
o Peripheral neuropathy:
เป็นเส้นประสาทถูกทำลายจากโรคเบาหวาน เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด
ซึ่งทำให้เกิดอาการ “ปวด” หรือ
ซึ่งทำให้เกิดอาการ “ปวด” หรือ
“สูญเสียความรู้สึก” ของนิ้วเท้า, เท้า, ขา, มือ และ แขนทั้งสองข้าง
o Autonomic neuropathy:
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบกระเพาะ ลำไส้, ระบบขับถ่าย
ปัสสาวะ ทำให้เกิดอาหารไม่ย่อย, มีปัญหาในการขับถ่ายของเสียทั้ง
กระเพาะปัสสาวะ และลำไส้, มีความผิดปกติทางเพศ และการขับเหงื่อ
กระเพาะปัสสาวะ และลำไส้, มีความผิดปกติทางเพศ และการขับเหงื่อ
นอกจากนั้น เส้นประสาทอัตโนมัติที่อักเสบ-ทำลาย ยังสามารถกระทบกับหัวใจ,
ความดันโลหิต, ตลอดรวมถึงปอด และตาทั้งสองและยังสามารถทำให้ระดับน้ำตาลลดต่ำ
ความดันโลหิต, ตลอดรวมถึงปอด และตาทั้งสองและยังสามารถทำให้ระดับน้ำตาลลดต่ำ
โดยที่คนไข้ไม่ทราบว่า ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดลดต่ำลงอีกด้วย
o Proximal neuropathy:
ทำให้เกิดอาการปวดที่บริเวณต้นขา (thigh), สะโพก (hips), ก้นหย่อน (buttock)
ซึ่งจะนำไปสู่อาการอ่อนแรงของขาทั้งสอง
ซึ่งจะนำไปสู่อาการอ่อนแรงของขาทั้งสอง
o Focal neuropathy:
เป็นผลของเส้นประสาทเส้นเดียว หรือเส้นประสาทเป็นกลุ่มถูกทำลายไป
เป็นเหตุให้เกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเจ็บปวดอย่างฉับพลัน
โดยสามารถเกิดขึ้นกับเส้นประสาทเส้นหนึ่งเส้นใดก็ได้
เป็นเหตุให้เกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเจ็บปวดอย่างฉับพลัน
โดยสามารถเกิดขึ้นกับเส้นประสาทเส้นหนึ่งเส้นใดก็ได้
เช่น เส้นประสาทของ ตา, กล้ามเนื้อใบหน้า, หู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น