วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Diabetic Neuropathy : Symptoms 2

Feb. 17, 2013
continued

ท่านทราบใหม่ว่า...
ในคนที่เป็นโรคเบาหวาน  เมื่อได้รับการวินิจฉัย  จะพบว่า
มีเส้นเมื่อเส้นประสาทถูกทำลายเกิดขึ้นถึง 10 %  และจะเกิดภาวะดังกล่าวได้ถึง 50 %
ภายในระยะเวลา  25  ปี  เมื่อเกิดขึ้นแล้ว  มีเพียง  25 - 33 % เท่าน้นที่เกิดมีอาการเจ็บปวด
และอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้น สามารถเป็นอาการปวดที่บริเวณผิว ๆ
เช่น ปวดแสบสวดร้อน,  ปวดเหมือนถูกของมีคมทิ่มแทง, หรือปวดเมื่อมีการกระตุ้น
นอกจากนั้น  อาการปวดอาจมีลักษณะเหมือนถูกไฟฟ้าช๊อทเอา,
กล้ามเนื้อปั้น  และปวดกล้ามเนื้อ

อาการ (Symptoms of neuropathy)

อาการที่เกิดขึ้นย่อมขึ้นกับชนิดของเส้นประสาทที่ถูกทำลายไป
บางคนไม่มีอาการแต่อย่างใด  ส่วนคนอื่น ๆ อาการเริ่มแรกมักจะมีอาการชา
หรือมีอาการเจ็บปวดเหมือนถูกของมีคมทิ่มแทงในบริเวณฝ่าเท้า

ในตอนเริ่มแรก  อาการมักจะปรากฏแต่เพียงเล็กน้อย
และเนื่องจากเส้นประสาทถูกทำลาย  ได้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานหลายปีโดยเจ้าตัวไม่ทราบว่า 
เส้นประสาทของตัวเองถูกทำลายไปเสียแล้ว

ในโรคเบาหวาน...
สามารถทำให้เกิดการทำลายเส้นประสาทได้ทุกส่วน
เช่น  ทำลายประสาทส่วนที่ทำหน้าที่รับความรู้สึก (sensory),
ประสาทสำหรับการเคลื่อนไหว (motor) และเส้นประสาทอัตโนมัติ
(autonomic nervous system)

ในคนบางคน  การทำลายเส้นประสาทจะเกิดเกิดขึ้นกับเส้นประสาทเพียง
เส้นเดียว (focal neuropathy) โดยอาการการที่เกิด
อาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน  และมีอาการอย่างรุนแรง

อาการของเส้นประสาทถูกทำลายอาจมีได้ดังต่อไปนี้:

o   มีอาการชา (numbness), รู้สึกเหมือนถูกของมีคมทิ่มแทง
    หรือมีอาการเจ็บปวดที่บริเวณนิ้วเท้า, เท้า, ขา, มือ, แขน
    และนิ้วมือทั้งสองข้าง

o   สูญเสียมวลของกล้ามเนื้อของเท้า และแขนไป
o   อาการอาหารไม่ย่อย (indigestion), คลื่นไส้ หรืออาเจียน , ท้องร่วง หรือท้องผูก

o   วิงเวียน หรือรู้สึกเหมือนจะหมดสติเป็นลม(fainting)
   ซึ่งเกิดจากความดันลดโลหิตลดต่ำลงเมื่อลุกขึ้น หรือลุกขึ้นนั่งตรง
   เป็นเหตุให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่พอกับความต้องการ

o   มีปัญหาในการปัสสาวะ

o   มีปัญหาด้านเพศสัมพันธ์ (erectile dysfunction) หรือ
    ช่องคลอดแห้งผาก

o   กล้ามเนื้ออ่อนแรง (weakness)

นอกจากนั้น เรายังพบอีกว่า มีอาการอีกหลายอย่าง 
ซึ่งไม่ใช่อาการของเส้นประสารทถูกทำลายโดยตรง แต่เป็นอาการที่เกิดร่วมเท่านั้น 
เช่น น้ำหนักลด (weight loss) และ เกิดอาการซึมเศร้า (depression)


ชนิด (Type of diabetic neuropathy):

เส้นประสาทอักเสบที่ถูกทำลายสามารถแบ่งเป็น peripheral, Autonomic, proximal, หรือ focal
ซึ่งแต่ละชนิดจะเกิดขึ้นกับส่วนต่างๆ ร่างกายในหลายทางด้วยกัน

o   Peripheral neuropathy:
   เป็นเส้นประสาทถูกทำลายจากโรคเบาหวาน  เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด 
   ซึ่งทำให้เกิดอาการ “ปวด” หรือ
   “สูญเสียความรู้สึก” ของนิ้วเท้า, เท้า, ขา, มือ และ แขนทั้งสองข้าง

o   Autonomic neuropathy:
    ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบกระเพาะ ลำไส้, ระบบขับถ่าย
    ปัสสาวะ  ทำให้เกิดอาหารไม่ย่อย, มีปัญหาในการขับถ่ายของเสียทั้ง
    กระเพาะปัสสาวะ และลำไส้,  มีความผิดปกติทางเพศ และการขับเหงื่อ

นอกจากนั้น  เส้นประสาทอัตโนมัติที่อักเสบ-ทำลาย  ยังสามารถกระทบกับหัวใจ,
ความดันโลหิต, ตลอดรวมถึงปอด และตาทั้งสองและยังสามารถทำให้ระดับน้ำตาลลดต่ำ
โดยที่คนไข้ไม่ทราบว่า ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดลดต่ำลงอีกด้วย

o   Proximal neuropathy:
    ทำให้เกิดอาการปวดที่บริเวณต้นขา (thigh), สะโพก (hips), ก้นหย่อน (buttock)
    ซึ่งจะนำไปสู่อาการอ่อนแรงของขาทั้งสอง

o   Focal neuropathy:
    เป็นผลของเส้นประสาทเส้นเดียว หรือเส้นประสาทเป็นกลุ่มถูกทำลายไป 
    เป็นเหตุให้เกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเจ็บปวดอย่างฉับพลัน 
    โดยสามารถเกิดขึ้นกับเส้นประสาทเส้นหนึ่งเส้นใดก็ได้
    เช่น เส้นประสาทของ ตา, กล้ามเนื้อใบหน้า, หู


<< BACK      NEXT >>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น