ได้กล่าวมาแล้วว่า....
คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคไต
และคนที่รู้ว่าเป็นโรคไตแล้ว ก็ไม่ค่อยจะระมัดระวังตัวเท่าใดนัก ?
จนเป็นเหตุให้สมรรถภาพไตของตนเองต้องลงเอยด้วยการเป็นไตวาย
คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคไต
และคนที่รู้ว่าเป็นโรคไตแล้ว ก็ไม่ค่อยจะระมัดระวังตัวเท่าใดนัก ?
จนเป็นเหตุให้สมรรถภาพไตของตนเองต้องลงเอยด้วยการเป็นไตวาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านเป็นโรคเบาหวาน
อย่าลืมปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการตรวจสอบการทำงานของไตของท่าน
และพยายามทำให้ไตของท่านอยู่ในสภาพที่ด้อยู่เสมอด้วยการควบคุมระดับ
น้ำตาลในกระแสเลือด และควบคุมระดับความดันของท่านให้อยู
ในระดับปกติให้ได้
วันที่ 8 มีนาคม เขาถือเป็นวันไตโลก...
เป็นวันที่ที่สำหรับทำให้คนเราตระนักรู้ถึงโรคไต และความสำคัญของ
การป้องกัน และการวินิจฉัยโรคภาวะเป็นโรคไตให้ได้ตั้งแต่มันเริ่มเกิด
เมื่อโรคไตที่เกิดขึ้นจะทำลายไตของท่าน...
การปกป้องไตไม่ให้ทำงานด้วยการทำความสะอาดของเลือดให้ดีที่สุด
เท่าที่ทำเราสามารถกระทำได้
ไตเมื่อถูกทำลายจะทำให้ของเสียถูกสะสมภายในร่างกาย และทำให้
เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพเกิดขึ้นหลายอย่าง
เป็นต้นว่า โรคหัวใจ, โรคโลหิตจาง และโรคกระดูก
ในคนเป็นโรคไตเรื้อรัง หากไม่ได้รับการรักษา
ในที่สุดจะลงเอยด้วยการเกิดโรคไตวาย
อย่างที่ได้กล่าว...
เมื่อท่านเป็นโรคไต การวินิจโรคให้ได้ตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ใช่วินิจฉัย
ได้เมื่อสายเสียแล้ว เพราะการรักษาสามารถชะลอโรคไม่ให้เสื่อมลง
สามารถป้องกัน และชะลอไม่ให้เกิดไตวายได้
เนื่องจากโรคไตเรื้อรังมักจะเสื่อมลงอย่างช้า ๆ และมีอาการน้อยมาก
จึงทำให้คนเป็นโรคดังกล่าวไม่รู้ว่า
โรคไตได้ด้ำเนินอย่างต่อเนื่องจนถึงขั้นต้องได้รับการฟอกเลือด
ดังนั้น การตรวจเลือด และตรวจปัสสาวะจึงจะสามารถบอกได้ว่า
ท่านเป็นโรคไตเรื้อรัง (chronic kidney disease)
คำแนะนำสำหรับทำให้ไตของท่านอยู่ในสภาพสมบูรณ์
ขั้นตอนสำหรับทำให้ไตอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มีดังนี้:
§ ควบคุมระดับความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 130/80 mm Hg
§ ทำให้ระดับของไขมันในเลือดอยู่ในระดับปกติ
§ จำกัดความเค็ม (salt) ของอาหาร
§ รับประทานอาหารสุขภาพ
§ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และ
§ รับประทานยารักษาตามแพทย์สั่งอย่าได้ขาด
ถ้าท่านเป็นโรคเบาหวานด้วย มีขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้
§ ควบคุมระดับน้ำตาลให้ลดต่ำสู่ระดับปกติให้ได้
§ ทำการตรวจ A1C ของเลือดอย่างน้อยปีละสองครั้ง
ถ้าจะให้ดีควรตรวจทุกสามเดือน
§ การตรวจดูค่า A1C เป็นการตรวจดูระดับของน้ำตาลในกระแส
เลือดย้อนหลังได้สามเดือน
ถ้าผลจากการวัดความดันโลหิตพบว่า ความดันของท่านมีระดับสูง
ท่านจำเป็นต้องตรวจวัดความดันของท่านอย่างสม่ำเสมอ
และจัดการควบคุมให้อยู่ในระดับปกติ และจงแน่ใจด้วยว่า
ไตของท่านอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เป็นปกติอยู่เสมอ ซึ่งท่านจำเป็น
ต้องปรึกษาแพทย์ของท่าน เพื่อควบคุมความดันโลหิตของท่านให้
อยู่ในระดับปกติ...นั่นคือวีการป้องกันไม่ให้ท่านเป็นโรคไตละ!
ในการป้องกันไม่ให้เป็นโรเบาหวานประเภทสอง...
ก็จัดเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งสำหรับป้องกันไม่ให้เกิดโรคไตได้
ผลจากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ บอกให้ทราบว่า
การปล่อยให้น้ำหนักตัวสูง จะทำให้เกิดความเสี่ยง
ต่อการเกิดโรคเบาหวานประเภทสองได้สูงขึ้น
การลดน้ำหนักตัว 5 – 7 % ของน้ำหนักตัว หรือประมาณ 10 – 14
ปอนด์ของคนน้ำหนัก 200 ปอนด์ สามารถป้องกัน หรือชะลอการ
โรคไตได้ ซึ่งท่านสามารถกระทำได้โดยไม่ยากด้วยการรับประทาน
อาหารสุขภาพ และออกกำลังกายทุกวัน
(อย่างน้อย 150 นาที ต่อหนึ่งอาทิตย์)
เราทราบได้อย่างไรว่า...
ใครมีแนวโน้มที่จะเกิดโรคไตละ ?
นอกเหนือจากโรความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานแล้ว...
ยังมีปัจจัยอย่างอื่นอีกหลายอย่าง ที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อ
การเกิดโรคได้ เช่น โรคหัวใจ, ความอ้วน, สูงอายุ,
ไขมันในเลือดสูง, และมีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคไต
และบาดเจ็บสามารถทำให้เกิดโรคไตได้
มีรายงานว่า ในคนเป็นเบาหวานเกิดเป็นโรคไตเสื่อมเรื้อรังได้ถึง
35 % และการมีโรคความดันโลหิตสูงร่วมกับการมีระดับน้ำตาล
ในเลือดสูง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตเรื้อรัง ซึ่งจะนำ
ไปสู่การเกิดโรคไตวายในที่สุด
ถ้าท่านเป็นโรคเบาหวาน...
การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และรักษาโรคความดันให้เป็นปกติ
ให้ได้ จะทำให้สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไต
และอาจชะลอความเสื่อมของโรคไต (ถ้ามี) ได้
การอักเสบติดเชื้อ และบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับไต
สามารถทำลายไตได้
การอักเสบติดเชื้อ เช่น การอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ และ
อักเสบของไต สามารถทำลายไตได้เช่นกัน
ซึ่งท่านต้องให้แพทย์ทราบเมื่อท่านพบอาการดังนี้
§ ปัสสาวะขุ่น หรือปัสสาวะเป็นเลือด
§ เจ็บแสบเวลาถ่ายปัสสาวะ
§ อยากถ่ายปัสสาวะโดยกลั้นไม่อยู่
นอกจากนั้น การอักเสบของไตยังมีอาการอย่างอื่นอีก เช่น
§ ปวดเอว
§ หนาวสั่น
§ เป็นไข้
ระยะสุดท้ายของโรคไตเรื้อรัง:
ระยะสุดทายของโรคไต คือไตวาย ซึ่งมีการรักษาได้สองทาง
เท่านั้น หนึ่งคือ ฟอกเลือด (hemodialysis)
หรือผ่าตัดเปลี่ยนไต (kidney transplantation)
โดยสรุป เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดโรคไต...
เราจำเป็นต้องปฏิบัติการตามขั้นตอนที่ได้กล่าวมา เพื่อทำให้ไต
ของเราอยู่ในสภาพที่เป็นปกติ และสมบูรณ์อยู่เสมอ
พร้อมกับมีการตรวจเช็คเลือด และปัสสาวะเป็นระยะ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น