7/25/12
เมื่อเรามีอาการปวดหลัง...
มีบ่อยครั้งที่เราไม่สามารถอธิบายได้ว่า อะไรทำให้เกิดมีอาการเช่นนั้น
ทั้งนี้เป็นเพราะมีอวัยวะหรือ โครงสร้างหลายอย่างอายเป็นต้นเหตุได้
แต่โชคยังดี ที่ส่วนใหญ่แล้ว เราไม้ต้องทำการตรวจหาสาเหตุ
และไม่จำเป็นต้องทำการรักษาใดทางด้านการแพทย์อย่างใด
ซึ่งมีเพียงน้อยกว่า 5 % ด้วยซ้ำที่ จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างจริงจัง
ด้วยยา หรือ แม้กระทั้งรักษาด้านศัลยกรรม
มีบ่อยครั้งที่เราไม่สามารถอธิบายได้ว่า อะไรทำให้เกิดมีอาการเช่นนั้น
ทั้งนี้เป็นเพราะมีอวัยวะหรือ โครงสร้างหลายอย่างอายเป็นต้นเหตุได้
แต่โชคยังดี ที่ส่วนใหญ่แล้ว เราไม้ต้องทำการตรวจหาสาเหตุ
และไม่จำเป็นต้องทำการรักษาใดทางด้านการแพทย์อย่างใด
ซึ่งมีเพียงน้อยกว่า 5 % ด้วยซ้ำที่ จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างจริงจัง
ด้วยยา หรือ แม้กระทั้งรักษาด้านศัลยกรรม
เนื่องจากว่า มีอาการปวดหลังมากกว่า 90 % จะหายไปเองโดยไม่ต้อง
ทำอะไร หรือ ให้การรักษานิดหน่อย คนส่วนใหญ่ที่ทรมานจากอาการ
ทำอะไร หรือ ให้การรักษานิดหน่อย คนส่วนใหญ่ที่ทรมานจากอาการ
ปวดหลัง สามารถรักษาดูแลตนเองได้อย่างปอดภัย ยกเว้นกรณีที่ไม่มี
อาการปวด (เอว) อย่างรุนแรง หรือเป็นอาการขอโรคที่อันตราย เช่น...
มะเร็ง, อักเสบติดเชื้อ, กลุ่มเส้นประสาทถูกกด (cauda equina syndrome)
หรือ เป็นเส้นเลือดแดงใหญ่ (บริเวณท้อง) โป่งพอง
สำหรับรายที่มีอาการปวดหลัง (เอว) อย่างรุนแรง...
หากรักษาด้วยตนเอง ด้วยการพักผ่อนประมาณสองสามวันแล้ว ยังไม่หาย,
หรือเกิดขึ้นอีก, หรือ มีอาการอย่าอื่นเกิดร่วมกับอาการเจ็บปวด เช่น อาการ
ชา (numbness), ปวดเสียวร้าวไปยังส่วนสะโพก และ ขา...
ท่านต้องไปพบแพทย์ทันที
โดยทั่วไป อาการปวดหลัง (เอว) จากล้ามเนื้อฉีกขาด (injury)
จะบรรเทาลง และหายไปหมดภายในหก ถึง แปดอาทิตย์
จะบรรเทาลง และหายไปหมดภายในหก ถึง แปดอาทิตย์
ส่วนรายที่มีอาการปวดนานกว่าแปดอาทิตย์ ส่วนใหญ่จะเป็นผลจากการเปลี่ยน
แปลงของกระดูกสันหลัง (spinal column) ซึ่งสมควรได้รับการดูแลจากแพทย์
เทคนิคการรักษาอาการปวดหลัง (เอว) ด้วยตัวเอง
การบริหารหลังให้เกิดกรผ่อนคลาย ซึ่งเป็นปฏิบัติการณ์ที่ทำให้กล้ามเนื้อของหลังเหยียด
และ ยืด (stretching) เพื่อทำให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย (relax),
ทำให้กระดูกสันหลังเหยียดยาวออก, เป็นการลดการกดเข้าหากันของกระดูกสันหลัง
ซึ่งสามารถลดอาการเจ็บปวดได้
การบริหารหลังให้เกิดกรผ่อนคลาย ซึ่งเป็นปฏิบัติการณ์ที่ทำให้กล้ามเนื้อของหลังเหยียด
และ ยืด (stretching) เพื่อทำให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย (relax),
ทำให้กระดูกสันหลังเหยียดยาวออก, เป็นการลดการกดเข้าหากันของกระดูกสันหลัง
ซึ่งสามารถลดอาการเจ็บปวดได้
นอกเหนือจากนี้ เรายังมีหลายวีธีที่สามารถนำมาใช้ในการลดอาการปวดหลังได้:
§ Rest. การนอนพักผ่อน เป็นการกำจัดเอาแรงกดดันออกจากกระดูกสันหลัง และ
สามารถลดอาการเจ็บปวดได้ และ ท่าทางที่ดีที่สุดในขณะนอนบนเตียง คือ
ท่าขอทารกที่อยู่ในครรภ์ของมารดา โดยมีหมอนอยู่ระหว่างข้อเข่า หรือนอนหงาย
มีหมอนอยู่ใต้ขาให้หัวเข่าในท่างอ
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ จะแนะนำให้นอนพักผ่อนหนึ่งถึงสองวัน หากหยุดพักนานเกินไป
อาจเป็นโทษมากกว่าประโยชน์ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ
และทำให้การฟื้นตัวนานเกินความจำเป็น ที่ถูกต้อง จะต้องลุกจากเตียงนอนให้เร็วที่สุด
ที่จะกระทำได้ พร้อมกับมีการเคลื่อนไหว แม้ว่าจะยังมีอาการเจ็บปวดอยู่บ้างก็ตาม
มีผลของการศึกษาหนึ่งพบว่า...
ในคนมีอาการปวดหลังแบบเฉียบพลัน ยังมีการำงานประจำตามปกติ
จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าคนนอนเตียงเป็นเวลานาน
ตามความจริงมีว่า คนที่มีการเคลื่อนไหวไว จะมีคนที่ตกงานเพียง 20 %
ส่วนคนที่หยุดพักนาน ต้องตกงานถึง 41 %
หลังสามเดือนให้หลัง คนที่นอนพักนาน จะเสียเวลาการทำงาน 9.2 วัน
ส่วนคนที่มีการทำงานตามปกติ จะเสียเวลาเพียง 4.7 วัน เท่านั้น
§ Ice. ภายหลังการบาดเจ็บ การใช้น้ำแข็งประคบทันทีจะได้รับประโยชน์
สองประการ คือ หยุดเลือดไม่ให้ตกภายใน ลดอาการบวม และ
ลดการไหลเวียนของเลือดลง ระยะเวลาการประคบน้ำแข็ง
จะกินเวลาประมาณ ทุก ๆ 10 – 20 นาที
ห้ามประคบนาน เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากบาดเจ็บจากความเย็น (frostbite)
เราอาจใช้ก้อนน้ำแข็งวางบนบริเวณที่ได้รับเบ็ดเจ็บ (ปวด) โดยตรงได้เช่นกัน
§ Heat. ก่อนที่จะใช้ความร้อน ให้ถือเป็นหลักปฏิบัติ คือ
ต้องให้เวลาผ่านไปเป็นเวลา 48 ชม. ก่อน ซึ่งอาจเป็นกระเป๋าน้ำร้อน อาบน้ำร้อน
หรือประคบด้วยผ้าชุบน้ำร้อน ได้ทั้งนั้น
§ Over-the-counter medications. ยาที่ท่านสามารถนำมาใช้ในการรักษาอาการ
ปวดได้หลังได้แก่ NSAIDs เช่น ibuprofen หรือ ยาแก้ปวด พาราเฃตตามอล
(acetaminophen)
§ Traction, corsets and braces. หลักฐานสำหรับการดึง (traction)
เพื่อลดอาการปวดหลังมีน้อยมาก แม้กระทั้งการใช้ corset อาจช่วยในระยะสั้นได้
เช่น ใช้หลังการผjาตัดหลัง ก็ไม่ควรใช้นาน
§ Rest. การนอนพักผ่อน เป็นการกำจัดเอาแรงกดดันออกจากกระดูกสันหลัง และ
สามารถลดอาการเจ็บปวดได้ และ ท่าทางที่ดีที่สุดในขณะนอนบนเตียง คือ
ท่าขอทารกที่อยู่ในครรภ์ของมารดา โดยมีหมอนอยู่ระหว่างข้อเข่า หรือนอนหงาย
มีหมอนอยู่ใต้ขาให้หัวเข่าในท่างอ
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ จะแนะนำให้นอนพักผ่อนหนึ่งถึงสองวัน หากหยุดพักนานเกินไป
อาจเป็นโทษมากกว่าประโยชน์ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ
และทำให้การฟื้นตัวนานเกินความจำเป็น ที่ถูกต้อง จะต้องลุกจากเตียงนอนให้เร็วที่สุด
ที่จะกระทำได้ พร้อมกับมีการเคลื่อนไหว แม้ว่าจะยังมีอาการเจ็บปวดอยู่บ้างก็ตาม
มีผลของการศึกษาหนึ่งพบว่า...
ในคนมีอาการปวดหลังแบบเฉียบพลัน ยังมีการำงานประจำตามปกติ
จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าคนนอนเตียงเป็นเวลานาน
ตามความจริงมีว่า คนที่มีการเคลื่อนไหวไว จะมีคนที่ตกงานเพียง 20 %
ส่วนคนที่หยุดพักนาน ต้องตกงานถึง 41 %
หลังสามเดือนให้หลัง คนที่นอนพักนาน จะเสียเวลาการทำงาน 9.2 วัน
ส่วนคนที่มีการทำงานตามปกติ จะเสียเวลาเพียง 4.7 วัน เท่านั้น
§ Ice. ภายหลังการบาดเจ็บ การใช้น้ำแข็งประคบทันทีจะได้รับประโยชน์
สองประการ คือ หยุดเลือดไม่ให้ตกภายใน ลดอาการบวม และ
ลดการไหลเวียนของเลือดลง ระยะเวลาการประคบน้ำแข็ง
จะกินเวลาประมาณ ทุก ๆ 10 – 20 นาที
ห้ามประคบนาน เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากบาดเจ็บจากความเย็น (frostbite)
เราอาจใช้ก้อนน้ำแข็งวางบนบริเวณที่ได้รับเบ็ดเจ็บ (ปวด) โดยตรงได้เช่นกัน
§ Heat. ก่อนที่จะใช้ความร้อน ให้ถือเป็นหลักปฏิบัติ คือ
ต้องให้เวลาผ่านไปเป็นเวลา 48 ชม. ก่อน ซึ่งอาจเป็นกระเป๋าน้ำร้อน อาบน้ำร้อน
หรือประคบด้วยผ้าชุบน้ำร้อน ได้ทั้งนั้น
§ Over-the-counter medications. ยาที่ท่านสามารถนำมาใช้ในการรักษาอาการ
ปวดได้หลังได้แก่ NSAIDs เช่น ibuprofen หรือ ยาแก้ปวด พาราเฃตตามอล
(acetaminophen)
§ Traction, corsets and braces. หลักฐานสำหรับการดึง (traction)
เพื่อลดอาการปวดหลังมีน้อยมาก แม้กระทั้งการใช้ corset อาจช่วยในระยะสั้นได้
เช่น ใช้หลังการผjาตัดหลัง ก็ไม่ควรใช้นาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น