วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Rheumatoid Arthritis (RA) and Cancer

7/14/12

โรครูมาตอยด์ (RA)...
คนที่เป็นโรค “รูมาตอยด์”  มักจะตกอยู่ภายใต้ภาวะบางอย่าง
ที่ยากต่อการเอาชนะ  ซึ่งในปัจจุบัน มีหลักฐานจำนวนไม่น้อย  บ่งชี้ให้เห็นว่า
คนที่โรค”รูมาตอยด์”  อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด  และ...
ในรายทีเกิดเป็นเร็ง (malignancy)  มักจะทำให้การพยากรณ์ของโรครูมาตอยด์แย่ลง...

ปัญหาสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไข้  คือ  ถ้าท่านเป็นโรครูมาตอยด์
สิ่งที่ท่านต้องตอบให้ได้  คือ:  การเป็นโรค “รูมาตอยด์” มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน?
อะไรทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น?  และ ท่านสามารถป้องกันมันได้อย่างไร ?

ในปัจจุบันนี้  เรายังไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่างโรค “รูมาตอยด์” และ “มะเร็ง”
ได้ชัดนัก  แต่จากการศึกษา พบว่า  โรครูมาตอยด์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด
มะเร็ง  ส่วนคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช้โรค “รูมาตอยด์”  อัตราความเสี่ยงจะลดลง 
และภาพจะชัดมากยิ่งขึ้น  เมื่อได้พิจารณามะเร็งแต่ละอย่างดังนี้:

Lymphoma.
มีหลักฐานที่แน่ชัด  บ่งชี้ให้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างโรค RA  ที่มีความรุนแรง
จะมีความสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง lymphoma  ซึ่งเป็นมะเร็งของเลือดที่พบบ่อย
โดยนักวิจัยจากสวีเดน  ได้ทำการศึกษาข้อมูลจากคนไข้โรค RA จำนวน 75,000 ราย
พบว่า  มีคนเป็นโรคมะเร็งของเลือด lymphoma 378 ราย

นักวิจัยได้ประเมินความเสี่ยงเป็นสามระดับ (ระดับต่ำ, พอประมาณ, และ รุนแรง)
เขาพบว่า   ในรายที่มีความรุนแรงพอประมาณ  จะมีโอกาสเป็นมะเร็งถึง 8 เท่าของราย
ที่ความรุนแรงต่ำสุด  และ จะมีโอกาสถึง 70 เท่าของรายที่มีความรุนแรง

มีหลักฐานมากมาย...
ซึ่งบันทึกใน  Arthritis Research & Therapy  ได้ยืนยันว่า...
โดยรวมแล้ว  คนไข้ที่เป็นโรค RA  มีโอกาสเกิดเป็น lymphoma ได้เป็นสองเท่า
ของคนทั่วไป  โดยเฉพาะ Hodgkin’s lymphoma
ซึ่ง หากเราตรวจพบได้แต่เนิ่น ๆ   เราสามารถรักษาให้หายขาดได้

Lung cancer.
จากรายงานเดียวกัน...
พบว่า  คนที่เป็นโรค RA  มีโอกาสเกิดเป็นมะเร็งของปอดได้สูง
จากข้อมูลของ 12  การศึกษา  รายงายไว้ว่า  คนเป็นโรค RA มีโอกาสมากกว่า
คนทั่วไปที่จะเกิดเป็นมะเร็งของปอดได้ถึง 63 %

Cancer at other sites.
นอกเหนือจากนั้น  เขายังรายงานต่อไปว่า  คนที่เป็นโรค RA 
จะมีแนวโน้มที่จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของลำไส้ใหญ่ colorectal cancer
ที่เป็นเช่นนั้น  เขาให้ความเห็นว่า  คนที่เป็นโรค RA มีโอกาสได้ใช้ยาลด
การอักเสบ NSAIDs  &  COX-2 inhibitors กันสูงมาก
นอกจากนั้น  พวกยังมีรายงานอีกว่า  โอกาสที่จะเกิดเป็นมะเร็งของเต้านมน้อยลง

อะไรอยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์ ของRA and Cancer
มีคำถามบางอย่างที่เราไม่สามารถตอบได้ว่า  คนที่เป็นโรค RA  จะมีแนวโน้มที่จะ
เกิดเป็นมะเร็งบางชนิดได้มากกว่าชนิดอื่นหรือไม่...  เรายังไม่สามารถตอบได้
หรือ มียาอะไรหรือไม่  ที่มีส่วนต่อการทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค

ผลจากการศึกษาของ Swedish study…
มีคนไข้ RA มากกว่า 70 % ได้รับการรักษาด้วยยา disease-modifying antirheumatic
Drugs หรือ DMARDs  เช่น  methotrexate (Rheumatrex,Trexall)
ผลที่ได้จากการศึกษา  พบว่า  มีเพียงยาประเภท DMARD  เท่านั้น 
ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของเม็ดเลือด-lymphoma  และยาที่ใช้คือ imuran
ซึ่งเป็นยาที่ไม่ค่อยได้ใช้เท่าใดนัก  ส่วนยา NSAIDs  เช่น aspirin และ ibuprofen
ยังไม่พบว่ามีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็ง

มีรายงานชิ้นหนึ่งสนับสนุนว่า...
คนที่ได้รับสาร corticosteroids เพื่อการรักษาข้ออักเสบเป็นประจำนั้น 
มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง lymphoma ได้ต่ำมาก
ที่เป็นเช่นนั้น  เขาอธิบายว่า  ยา anti-inflammatory drugs สามารถ
ป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็ง lymphoma ได้

ผลวิจัยที่ลงพิมพ์ใน American Medical Association…
ได้รายงานคนไข้โรค RA  ซึ่งได้รับยากลุ่ม Biologic response modifiers (BRMs)
เช่น  infliximab (Remicase) และ adalimumab (Humira) พบว่า...
มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งบางชนิด  เช่น lymphoma และมะเร็งของผิวหนัง
ซึ่งเขาให้คำอธิบายว่า  ยา Remicade, Humira และ  etanercept (Enbrel) 
จะทำหน้าที่สกัดไม่ให้โปรตีนชนิดหนึ่ง  ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมไม่ให้เซลล์มะเร็งเจริญ
เติบโตได้...โปรตีนตัวนั้นคือ  tumor necrosis factor (TNF)

โดยสรุป  มีการศึกษาจำนวนไม่น้อย  มีแนวโน้มที่จะชี้ให้เห็นว่า...
คนที่เป็นโรครูมาตอยด์ (RA) มีแนวโน้มเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิด
โดยไม่ทราบสาเหตุชัดแจ้งนักว่า  มันมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ?
แต่มีหลักฐานชี้ให้เห็นว่า  การรักษาด้วยยา Anti-TNF เช่น  Remicade และ Humira
สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด lymphoma และ มะเร็งของผิวหนังได้

จากหลักฐานดังกล่าว  ไม่ได้หมายความว่า...
ท่านที่เป็นโรค RA  ต้องหยุดการใช้ยา Anti-TNF  เพราะยาดังกล่าว  เป็นยา
มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาคนไขที่เป็นโรค RA  โดยเฉพาะรายที่ไม่ตอบสนอง
ต่อ  traditional DWARD therapy

http://www.johnshopkinshealthalerts.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น