วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Importance of Vitamin D in Diabetes Management

7/9/12

เมื่อท่านเป็นโรคเบาหวาน...
ท่านอาจให้ความสำคัญในระดับน้ำตาล  และ ระดับไขมันในเลือดของท่าน
โดยที่ท่านอาจไม่เคยสนใจว่า   ท่านได้รับ  vitamin D ได้เพียงพอหรือไม่

แต่ตามความเป็นจริงมีว่า...
Vitamin D  เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง  ซึ่งสามารถควบคุมโรคได้
ในปัจจุบันนี้   ปรากฏว่า  มีข้อมูลจำนวนมากมายเกี่ยวกับ Vitamin D ที่พร่องไปนั้น
มีส่วนสัมพันธ์กับ  ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานประเภทสอง
หรือ  ภาวะแทรกซ้อนอันเกิดจากโรคเบาหวานที่เกิดขึ้นแล้ว

ผู้เชี่ยวชาญหลายนายยืนยันว่า  การรักษาภาวะ Vitamin D พร่อง...
อาจเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด สำหรับป้องกันไม่ให้เกิดโรคเบาหวาน หรือ
ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น

Vitamin D ช่วยได้อย่างไร ?
บทบาทของ Vitamin D….
หน้าที่ของ Vitamin D จะทำหน้าที่ช่วยดูดซึมแคลเซี่ยมได้ดีขึ้น 
ซึ่งช่วยส่งเสริมให้กระดูกแข็งแรง  และคงสภาพความสมบูรณ์ของกระดูก  และ ฟันเอาไว้
Vitamin D จะเพิ่มธาตุให้กระดูกมีความหนาแน่นมากขึ้น 
และ  ลดความเสี่ยงต่อกระดูกแตกสะโพกแตกหัก
นอกจากนั้น  Vitamin D ยังมีส่วนช่วยทำให้ระบบภูมิต้านทานดีขึ้น

มีนักวิจับจำนวนไม่น้อย...
ได้ค้นพบว่า   Vitamin D  ยังมีบทบาทในการควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดอีก 
โดยพบว่า  ในคนที่เป็นโรคเบาหวาน...
Vitamin D  สามารถทำให้มีการสร้าง “อินซูลิน” เพิ่มขึ้น 
ด้วยการปรับระดับธาตุแคลเซี่ยมในกระแสเลือด  และ ช่วยทำให้  beta cell
ในตับอ่อนทำงานได้ดีขึ้น

ในคนที่มีระดับ Vitamin D พร่อง...
จะถูกพบว่า  มันทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในระบบหัวใจ-เส้นเลือด
เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในคนเป็นโรคเบาหวาน  และ  เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ
หัวใจถูกทำลาย (heart attack) และภาวะสมองขาดเลือด (stroke)

มีการศึกษาใน Circulation  จากคนจำนวน  76 คน...
ซึ่งเป็นโรคความดันสูง,  อ้วน,  และ เป็นเบาหวาน,  มีระดับคราบของไขมันในเส้นเลือด
สูง,  และ  มีระดับของ Vitamin D ต่ำ

ผลจากการศึกษา  พบว่า...
คนที่เป็นโรคเบาหวาน  และ มีระดับ Vitamin D ต่ำ....
จะพบว่า  มีความเสี่ยงต่อการเกิด heart attack และ  Stroke สูงถึงเท่าตัวเมื่อ
นำไปเปรียบเทียบกับคนที่เป็นโรคเบาหวาน   และ มี Vitamin D ในกระแสเลือดปกติ

โดยสรุป  ไวตามินดี  มีส่วนสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงต่อคนเป็นเบาหวาน
รวมถึงภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ดังนั้น ถ้าท่านไม่มีเวลาพอมี่จะสัมผัสกับแสดงแดดได้  
ท่านควรได้รับอาหารเสริมที่มี Vitamin D  หรือ
วันหนึ่ง ๆ ท่านควรได้รับ Virtamin D  ประมาณ 600 – 800 IU


http://www.johnshopkinshealthalerts.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น