7/8/12
สำหรับท่านที่เป็นโรคเบาหวาน ควรรู้...
นันคือ กลุ่มเซลล์ชนิดหนึ่ง ชื่อ islets of Langerhans มีเซลล์ชนิดหนึ่ง
เรียกว่า beta cells จำทำหน้าที่สร้างฮอรโมน “อินซูลิน”
โดย มีหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของตับ (liver) ให้ผลิต และ
ปลดปล่อย น้ำตาล glucose และ ทำให้น้ำตาล glucose เคลื่อนย้ายจากการแสเลือดเ
ข้าสู่เซลล์ของร่างกาย เพื่อการเผาผลาญให้เป็นพลังตามที่ต้องการ
สำหรับท่านที่เป็นโรคเบาหวาน ควรรู้...
นันคือ กลุ่มเซลล์ชนิดหนึ่ง ชื่อ islets of Langerhans มีเซลล์ชนิดหนึ่ง
เรียกว่า beta cells จำทำหน้าที่สร้างฮอรโมน “อินซูลิน”
โดย มีหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของตับ (liver) ให้ผลิต และ
ปลดปล่อย น้ำตาล glucose และ ทำให้น้ำตาล glucose เคลื่อนย้ายจากการแสเลือดเ
ข้าสู่เซลล์ของร่างกาย เพื่อการเผาผลาญให้เป็นพลังตามที่ต้องการ
หน้าที่ของ อินซูลิน...
หน้าที่ของ อินซูลิน มีหลายอย่างก็จริง
แต่ที่สำคัญ คือ บทบาทที่ทำให้ร่างกาย สามารถเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานได้
หน้าที่ของ อินซูลิน มีหลายอย่างก็จริง
แต่ที่สำคัญ คือ บทบาทที่ทำให้ร่างกาย สามารถเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานได้
ในลำไส้เล็กของท่าน...
อาหารปะเภท carbohydrates ที่ท่านรับท่านเข้าไป จะถูกเปลี่ยนเป็น glucose
ซึ่งเป็นต้นกำเนิดทสำคัญของพลังงาน ที่ร่างกายของคนเราต้องการ
เมื่อน้ำตาล glucose ถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด
ทำให้ระดับของน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เซลล์ชนิดหนึ่งในตับอ่อน ชื่อ beta cells
ทำการสร้าง และปลดปล่อยฮอร์โมนอินซูลิน สู่กระแสเลือด
อาหารปะเภท carbohydrates ที่ท่านรับท่านเข้าไป จะถูกเปลี่ยนเป็น glucose
ซึ่งเป็นต้นกำเนิดทสำคัญของพลังงาน ที่ร่างกายของคนเราต้องการ
เมื่อน้ำตาล glucose ถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด
ทำให้ระดับของน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เซลล์ชนิดหนึ่งในตับอ่อน ชื่อ beta cells
ทำการสร้าง และปลดปล่อยฮอร์โมนอินซูลิน สู่กระแสเลือด
อินซูลินในกระแสเลือด...
จะจับตัวกับเซลล์ตรงตำแหน่งที่เรียกว่า receptor sites ต่อจากนั้น มันจะส่งสัญญาณ
ไปยัง glucose transporters ซึ่งเป็นโปรตีนจากเซลล์นั้นเอง
ให้ทำการเคลื่อนย้ายน้ำตาล glucose จากเลือดผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ เข้าสู่ภายในเซลล์
จะจับตัวกับเซลล์ตรงตำแหน่งที่เรียกว่า receptor sites ต่อจากนั้น มันจะส่งสัญญาณ
ไปยัง glucose transporters ซึ่งเป็นโปรตีนจากเซลล์นั้นเอง
ให้ทำการเคลื่อนย้ายน้ำตาล glucose จากเลือดผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ เข้าสู่ภายในเซลล์
เมื่อน้ำตาล glucose เคลื่อนย้ายเข้าสู่เซลล์แล้ว อะไรเกิดขึ้น ?
เมื่อน้ำตาลเคลื่อนตัวเข้าสู่เซลล์แล้ว...
อะไรจะเกิดขึ้น แล้วแต่ว่า เซลล์ชนิดนั้น ๆ เป็นเซลล์อะไร ยกตัวอย่าง...
Ø ถ้าเป็นเซลล์ของกล้ามเนื้อ (muscle cells)
น้ำตาล glcose จะถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังงาน (energy)
Ø ถ้าเป็นเซลล์ของไขมัน (fat cells)
น้ำตาล glucose จะถูกเปลี่ยนไปเป็น Triglycerides และ ถูกสะสมเอาไว้
เก็บเอาไว้ใช้ในภายหลัง
เมื่อน้ำตาลเคลื่อนตัวเข้าสู่เซลล์แล้ว...
อะไรจะเกิดขึ้น แล้วแต่ว่า เซลล์ชนิดนั้น ๆ เป็นเซลล์อะไร ยกตัวอย่าง...
Ø ถ้าเป็นเซลล์ของกล้ามเนื้อ (muscle cells)
น้ำตาล glcose จะถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังงาน (energy)
Ø ถ้าเป็นเซลล์ของไขมัน (fat cells)
น้ำตาล glucose จะถูกเปลี่ยนไปเป็น Triglycerides และ ถูกสะสมเอาไว้
เก็บเอาไว้ใช้ในภายหลัง
เมื่อระดับน้ำตาล glucose ในกระแสเลือดกลับสู่ระดับปกติ...
ตับอ่อน (pancreas) จะสร้างฮอร์โมน อินซูลิน น้อยลง
อย่างไรก็ตาม beta cells ในตับอ่อน ก็ยังคงทำงานด้วยการสร้าง อินซูลิน
ด้วยจำนวนไม่มาก เพียงพอต่อการป้องกันไม่ให้มีระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงเกิน
ตับอ่อน (pancreas) จะสร้างฮอร์โมน อินซูลิน น้อยลง
อย่างไรก็ตาม beta cells ในตับอ่อน ก็ยังคงทำงานด้วยการสร้าง อินซูลิน
ด้วยจำนวนไม่มาก เพียงพอต่อการป้องกันไม่ให้มีระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงเกิน
ชนิดของโรคเบาหวาน...
เมื่อร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมน อินซูลิน ได้โดยสินเชิง เราเรียกว่า
เป็นโรคเบาหวานประเภทหนึ่ง ถ้ามันสามารถสร้าง อินซูลินได้
แต่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จะทำให้เกิดเบาหวานประเภทสอง
เมื่อร่างกายไม่สามารถสร้างฮอร์โมน อินซูลิน ได้โดยสินเชิง เราเรียกว่า
เป็นโรคเบาหวานประเภทหนึ่ง ถ้ามันสามารถสร้าง อินซูลินได้
แต่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จะทำให้เกิดเบาหวานประเภทสอง
ในเบาหวานประเภทหนึ่ง...
พบว่า ระบบภูมิต้านทานของคนเรา จะทำลาย beta cells ของตนเอง
เป็นเหตุให้ตับอ่อนไม่สามารถสร้าง “อินซูลิน” ได้โดยสิ้นเชิง
พบว่า ระบบภูมิต้านทานของคนเรา จะทำลาย beta cells ของตนเอง
เป็นเหตุให้ตับอ่อนไม่สามารถสร้าง “อินซูลิน” ได้โดยสิ้นเชิง
ส่วนเบาหวานประเภทสอง...
จะเกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อของคนไข้ ต่อต้านอินซูลิน (insulin resistance)
ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินเท่าที่ควร ดังนั้น ตับอ่อนจึงต้องสร้างอินซูลินเพิ่มขึ้น
เพื่อที่จะทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดถูกย้ายเข้าสู่เซลล์ให้มากขึ้น
เมื่อเลาผ่านไปนานเข้า ภายใต้สภาพการต่อต้านการทำงานอินซูลิน (insulin resistance)
ถึงจุดหนึ่ง ตับอ่อนไม่สามารถที่จะทำงานเช่นนั้นได้ต่อไป
ถึงจุดหนึ่ง ตับอ่อนไม่สามารถที่จะทำงานเช่นนั้นได้ต่อไป
ไม่ว่าท่านจะเป็นเบาหวานประเภทใด...
ถ้าไม่ได้รับการรักษา น้ำตาลในกระแสเลือดจะเพิ่มสูงขึ้น
ซึ่ง จะทำให้เกิดการทำลายอวัยวะ และ เนื้อเยื้อต่าง ๆ ดังนั้น คนไข้ที่เป็นเบาหวาน
ประเภทหนึ่ง และคนไข้เบาหวานประเพทสองบางราย ควรได้รับรักษาด้วยยาฉีด insulin
เพื่อป้องกันไม่ให้มีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกิน
ถ้าไม่ได้รับการรักษา น้ำตาลในกระแสเลือดจะเพิ่มสูงขึ้น
ซึ่ง จะทำให้เกิดการทำลายอวัยวะ และ เนื้อเยื้อต่าง ๆ ดังนั้น คนไข้ที่เป็นเบาหวาน
ประเภทหนึ่ง และคนไข้เบาหวานประเพทสองบางราย ควรได้รับรักษาด้วยยาฉีด insulin
เพื่อป้องกันไม่ให้มีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกิน
มีคนไข้เบาหวานประเภทสองเป็นจำนวนมาก รับทานยาเม็ดลดน้ำตาล
โดยการกระตุ้นให้ตับอ่อนทำการสร้างอินซูลินให้มากขึ้น
โดยการกระตุ้นให้ตับอ่อนทำการสร้างอินซูลินให้มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น