คนที่เป็นโรค“ลูปัส” จะพบในสตรีที่อยู่ในวัยรุ่น ถึงวัย 30
ถึงกระนั้นก็ตาม เราสามารถพบในเด็ก หรือคนสูงอายุได้ทั้งชายและหญิง
บางท่านบอกว่า โรคนี้เป็นส่วนหนึ่งคู่กับโลก และมนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นได้กับคนทุกชาติทุกภาษา พบมาก ในคนผิวดำ และคนเอเชีย
โรค “ลูปัส” เป็นโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน (autoimmune disease)
โดยทั่วไป ระบบภูมิต้านทาน จะทำหน้าที่ปกป้องคุมครองเราจากสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส แต่มันหันเป้ามาโจมตีตัวเราเอง
ทำให้เกิดการอักเสบ (inflammation) และทำให้เกิดรอยโรค (damage) ขึ้นกับส่วนต่างๆ ของ ร่างกาย เช่น ข้อต่อต่างๆ ผิวหนัง, ไต, หัวใจ, ปอด, เส้นเลือด และสมอง
ดูเหมือนว่า มันจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้ามัน....
เราไม่ทราบหรอกว่า อะไรเป็นเหตุให้ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันมัน “เพี้ยน” ไปเช่นนั้น
เป็นไปได้ไหมว่า โรคลูปัส เป็นผลเนื่องมาจากผลรวมระหว่างพันธุกรรมต่าง ๆ ร่วมกับสภาพแวดล้อม รอบตัวเรา
เขามีความเชื่อว่า คนที่จะเป็นโรคดังกล่าว มีแนวโน้มที่จะเกิดเป็นโรค เมื่อ เขามีพันธุกรรมที่จะเกิด โรค
กล่าวคือ เมื่อเขาสัมผัสอะไรบางอย่างในสิ่งแวดล้อมตัวเขา และสิ่งแวดล้อมตัวนั้นแหละ กระตุ้นให้ เกิดเป็นโรคลูปัสขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ยาบางตัว หรือ เชื้อไวรัส เป็นต้น
สำหรับโรคลูปัส ชนิด Discoid lupus erythematosus จะกระทบต่อผิวหนังเท่านั้น เช่นเป็นผื่น ที่ผิวหนัง
มีส่วนน้อยเพียง 10 % ที่อาจเกิดขึ้นกับข้อ สมอง และไตได้ โดยที่อาการไม่รุนแรง
“ลูปัส” มักมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเรื้อรัง กลับเป็นอีก ภายหลังจากไม่มีอาการนานเป็นปี
อาการที่ฟื้นขึ้นมาใหม่ อาจถูกกระตุ้นด้วยแสงแดด หรือจาก Infection หรือจากการผ่าตัด หรือเกิดจากการตั้งครรภ์
ส่วนในสตรีหลังหมดประจำเดือน มักจะรอดพ้นจากโรค ไม่ค่อยกลับฟื้นขึ้นมาอีก
เนื่องจากว่า แพทย์สามารถทำการวินิจฉัยของโรคได้ไวขึ้น มีการรักษาที่ดีกว่าสมัยก่อน จะเห็น ผลของการรักษาที่คนไข้ได้รับ ดีกว่าสมัยก่อนมาก
ในระยะยาว การพยากรณ์โรค (prognosis) ดีมาก
ตัวอย่างที่เห็น คือ โรคไต หากได้รับการรักษาไว สามารถยับยั้งการดำเนินโรค สู่ขั้นที่รุนแรง ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น