เมื่อโรค...มันเกิดขึ้นกับท่าน ท่านสามารถอยู่ร่วมกับมัน เสมือนหนึ่งว่า
มันเป็นแมวเชื่องตัวหนึ่ง ไม่ใช่เสือ...
ท่านสามารถกระทำได้โดย:
• ดำเนินชีวิตตามปกติ อย่าอยู่นิ่งเฉย ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถทำให้กระดูกของท่านแข็งแรง ขึ้น
ในกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น ท่านสามารถให้การรักษาได้ ยกตัวอย่าง:
o อาการปวดหลัง ที่เกิดจากโรค ท่านสามารถใช้ ยาแก้ปวด หรือใช้ Brace ประคองหลังของท่านได้
o รายที่เป็นโรคไตวาย ท่านสามารถได้รับการรักษาด้วยการฟอกเลือด Hemodialysis
o กรณีเกิดการอักเสบ.... ใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อการรักษาการอักเสบตามความเหมาะสม
o กระดูกพรุน ท่านอาจได้รับการรักษาด้วยยา เช่น bisphosphonate..เพือลดกระดูกพรุน
o โรคโลหิตจาง อาจใช้ยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด เช่น erythropoietin injections
• ดื่มน้ำให้มาก การดื่มน้ำให้มาก จะป้องกันไม่ให้ท่านขาดน้ำ ประการสำคัญ เป็นการช่วยลดความเข็มข้นของ Bence Jone Protein ลง ซึ่งสามารถลดอันตรายไม่ให้เกิดขึ้นกับไตได้
• รับประทานอาหารสุขภาพ..เช่น ผัก ผลไม้ ลดอาหารประเภทไขมันอื่มตัว....
• หลีกเลี่ยงการับประทานยา หรืออาหารเสริมสมุนไพรทั้งหลาย เพราะอาจกระทบกับยาที่ใช้รักษามะเร็งได้
• หลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
• ปฏิบัติธรรม พวกฝรั่งแนะนำให้ทำ Meditation หรือการทำโยคะ...ผู้เขียนเห็นว่า การปฏิบัติของชาวพุทธเรา สามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี:
o การปฏิบัติธรรมแบบ “สมถกรรมฐาน” เป็นการทำให้จิตสงบ ด้วยการใช้จิตเป็นผู้ดูอารมณ์ กายเป็นอารมณ์ (จิตหนึ่ง ดูอารมณ์หนึ่ง) ให้ปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที จะทำให้ท่านมีกำลัง จิตใจสงบ
o การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เป็นการปฏิบัติธรรมที่สูงขึ้นไปอีก ปฏิบัติเพื่อให้เกิดปัญญารู้แจ้งว่า ทุกสิ่งเป็นอนัตตาทั้งนั้น หากท่านสามารถปฏิบัติได้ถึงขั้นนี้...มะเร็งจะไม่สามารถทำอะไรท่าน ท่านสามารถอยู่ร่วมกับมะเร็งได้ โดยไม่มีความกังวลใจ......
ปฏิบัติแค่นี้...ท่านก็สามารถที่จะอยู่กับโรคได้ โดยไม่ต้องกังวลกับมันแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น