วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Non-Hodgkin’s lymphoma:Treatment (4)

เราคนไทย ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
มีสักกี่เปอร์เซ็นต์ ทีทราบเคล็ดลับในการปราบโรค ที่ผู้เขียนกำลังจะเอ่ย ถึง ?
เคยพูดมาครั้งหนึ่งว่า ในการที่เราจะอยู่กับโรคได้อย่างมีความสุขนั้น
เราจะต้องทำ “มัน”ให้ เชื่องเป็นแมวให้ได้ (มัน = เสือดุ)
จะทำได้เช่นนั้น เราต้องทำ ”จิต” ของเราให้เชื่องเหมือน “แมว” เสียก่อน
หมายความว่าอย่างไร ?

ปกติแล้ว จิตของมนุษย์ เหมือนกับคลื่นในมหาสมุทร (โลภ โกรธ และ หลง)
จิตของคนที่เป็นมะเร็ง มันไม่ใช้คลื่นธรรมดาซะด้วย มันเป็นคลื่นยักษ์
เราในฐานะที่เป็นเจ้าของโรค หน้าที่ของเราคือ ทำให้คลื่นดังกล่าว สงบ ลงเหมือนกับผิวน้ำในโอ่งให้ได้เสียก่อน
ซึ่งท่านสามารถทำได้ โดยการเจริญสติ... ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
“ปฏิบัติธรรม: ดูกาย & ดูจิตทุกวัน”
เมื่อนั่นแหละ....เสือที่ว่า ดุแสนดุ จะกลายเป็นแมวเชื่องทันที

เมื่อท่านเป็น non-Hodgkin’s lymphoma หน้าที่ของแพทย์เขาจะพิจารณาว่า จะใช้ วิธีการอย่างไรในการรักษา โดยมีปัจจัยหลายอย่างที่แพทย์เขาต้องพิจารณา เพื่อเลือกวิธีที่ เหมาะสม เป็นต้นว่า ชนิดของโรค อายุของท่าน รวมไปถึงสุขภาพของท่านเป็นอย่างไร

A. หมออาจไม่ให้การรักษาใด ๆ: โรคก็เหมือนกับเสือนั่นแหละ หากมันไม่แสดงความดุร้ายออกมา คุณไม่มีอาการอะไรเลย....เราก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร เพียงแต่คอยดูมันอยู่ห่าง ๆ แพทย์เขาจะนัดตรวจเป็นระยะเพื่อดูการพัฒนา..ของโรค และพร้อมทีจะลงมือจัดการรักษา..
.
B. ในกรณีที่โรคมะเร็ง มีอาการ และอาการแสดงปรากฏ แพทย์เขาจะแนะนำท่านด้วยกรรมวิธีรักษาหลายอย่าง ให้ท่านได้มีส่วนรับรู้ และหรือมีส่วนเลือกด้วย เช่น

• Chemotherapy: การรักษาด้วยสารเคมีบำบัด อาจให้ทางรับประทาน หรือให้ทางหลอดเลือดดำ ซึ่งสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ การรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดนั้น อาจให้เพียงอย่างเดียว หรือให้ร่วมกับการรักษาอย่างอื่นตามเหตุอันควร

• Radiotherapy: การรักษาด้วยรังสีด้วย dose สูง ๆ นั้น สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งลงได้ พร้อมกับทำให้ก้อนเนื้องอกฟ่อตัวลง
เช่นเดียวกับการรักษาด้วย “เคมีรักษา” อาจให้ร่วมกับการรักษาอย่างอื่น

• Stem cell transplant: การปลูกถ่ายเซลล์ เป็นวิธีการหนึ่งที่เรานำมาใช้ในการรักษาโรค lymphoma
กอ่นทำ ท่านจะได้รับการรักษาด้วยสารเคมีบำบัด หรือ รังสีรักษาก่อน เฆ่าเซลล์มะเร็งให้มากที่สุดที่จะมากได้ จากนั้นจึงทำการปลูกถ่ายเซลล์ที่มีอายุน้อย ทีเราเรียก “stem cell” นั่นแหละ
เขาเอา stem cell มาจากไหน ?
เขาเอามาจากเลือดของคุณ หรือจากไขกระดูกของคุณ...แล้วแช่แข็งไว้ รอโอกาสที่เหมาะสม ค่อยปล่อยเข้าสู่ร่างกายของคุณ นั่นหมายความว่า ท่านได้รับการรักษาด้วยสารเคมีไปก่อนแล้ว เมื่อท่านพร้อม เขาก็จะเอาstem cell ที่สมบูรณ์ (หลังจากละลายจากแช่แข็ง) ฉีดเข้าสู่ร่างกายของท่าน....แล้วมันก็จะทำหน้าที่เป็นเซลล์ที่ดีของระบบภูมิคุ้มกันต่อไป

• Medications: มียาที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของท่าน สามารถต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้ ยาที่เรานำมาใช้ได้แก่ Rituximab (Rituxan) มันเป็น monoclonal antibody เมื่อมันเข้าสู่ร่างกาย มันจะจับตัวกับเซลล์มะเร็ง ทำให้ระบบภูมิต้านทานเห็นเซลล์มะเร็ง... แล้วลงมือทำลาย
ฟังแล้ว เหมือนแสงเรเซอร์ของปืน ทีล่อเป้าอย่างนั้นแหละ...ไม่มีพลาด

• Medications: นอกเหนือ จากยา Rituxan แล้ว มนุษย์เรายังสามารถผลิตยาที่มีสารที่เป็นรังสีรักษาเป็นส่วนประกอบเข้าไปด้วย(Radioimmunotherapy) ในตัวยาที่เป็น monoclonal antibodies เมื่อเข้าสู่ร่างกายคนที่เป็นมะเร็ง สารดังกล่าว มันจะไปจับตัวเซลล์มะเร็ง พร้อมกับทำลายด้วยรังสีที่มีอยู่ในตัของมัน
ยาที่ว่า (radioimmunotherapy drugs) มีสองตัว ที่ได้รับการยอมรับจาก FDA คือ ibitumonab (Zevalin) และ tositumomab (Bexxar) ทั้งสองตัวถูกนำมาใช้ในการรักษา lymphoma ที่ฟื้นตัวกลับมาใหม่..
.
นั่นคือกรรมวิธีที่แพทย์เขาทำการรักษา....ในขณะที่ท่านกำลังเจริญสติปัฏฐาน ดูกาย&จิต ซึ่งเป็นวิธีการที่พวกแพทย์เราไม่ค่อยนำมากล่าวเท่าใดนัก.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น