โดยหลักการทั่วไป ก่อนให้การรักษาโรคใดๆ แพทย์ต้องรู้เสียก่อนว่า
โรคที่ตนเองกำลังรักษานั้น เป็นโรคอะไร
ในปัจจุบันนี้ เรา “ไม่มีการตรวจเฉพาะ” เพื่อการวินิจฉัยโรค polymyalgia rheumatica
ความจริงมีว่า มีหลายโรคนอกเหนือจาก โรค PMR เมื่อเกิดมีอาการอักเสบขึ้น มันเป็นเหตุให้เกิด อาการ “ปวด” (pain) ในกล้ามเนื้อต่างๆ
เมื่อการตรวจ เพื่อวินิจฉัยโรค มีข้อจำกัด ไม่มากพอที่จะทำการวินิจฉัยได้
ดังนั้น การวินิจฉัยแบบ การตัดโรคออกจากการพิจารณา (rule-out) จึงเป็นวีธีการหนึ่ง
ที่ทำให้การวินิจฉัยโรคแคบเข้า โดยแยกจากโรคที่ไม่น่าจะใช่ออกไป
• โรครูมาตอยด์ (RA) คนไข้พวกนี้จะพบว่า มีการอักเสบเรื้อรังของข้อเล็กๆ ของมือ มีข้อถูกทำลาย (destructive lesion) พบ rheumatoid nodule และอื่น ๆ (ดูเรื่อง Rheumatoid)
• Fibromyalgia พวกนี้อาการมักจะอยู่เป็นกลุ่มไม่กระจายเหมือนพวก polymyalgia rheumatica และโรคอื่น ๆ
คนเป็นโรค polymyalgia rheumatica การเคลื่อนไหวของข้อไหล่ จะเคลื่อนในวงจำกัด เคลื่อนได้ลำบาก เพราะเมื่อข้อไหล่มีการเคลื่อนไหว จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้น
มีอาการบวมที่บริเวณข้อมือ และมือ ปรากฏให้แพทย์สามารถตรวจพบได้
การตรวจเลือด ที่มีส่วนสัมพันธ์กับการอักเสบ ได้แก่
• Erythrocyte Sedimentation rate (ESR) เป็นการตรวจการตกของเม็ดเลือดแดง ว่ามันตกลงเร็วแค่ใด ถ้าเม็ดเลือดตกลงมากองที่ก้นหลอดแก้วได้เร็ว มักบ่งบอกให้ทราบว่า ร่างกายคนนั้น มีการอักเสบ (ทุกชนิด) เกิดขึ้น
ดังนั้น การตรวจหากค่า ESR จึงไม่ใช้ค่าเฉพาะเพื่อการวินิจฉัยโรค PMR
• C-reactive protein (CRP):
เป็นที่ทราบกันว่า protein ตัวนี้ถูกสร้างขึ้นที่ตับ (liver) โดย ตับจะสร้างตัวนี้ขึ้น เพื่อ เป็นการตอบสนองต่อการที่ร่างกายเกิดการอักเสบ (infection) , ร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ (injury) หรือร่างกายเกิดโรค polymyalgia rheumatica
ดังนั้น การตรวจหาค่า CSR ก็ไม่ใช้การตรวจเฉพาะสำหรับโรค PMR เช่นกัน
• คนไข้ที่เป็น polymyalgia rheumatica บางครั้ง มักจะเกิดร่วมกับการอักเสบของเส้นเลือดที่บริเวณขมับ temporal arteritis
และเพื่อการวินิจฉัยภาวะดังกล่าว จำเป็นต้องทำการตัดเอาชิ้นเนื้อของเส้นเลือดที่อักเสบ มาตรวจ (biopsy) เพื่อยืนยันคำวินิจฉัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น