Aug.22, 2014
ในคนที่เป็นโรคเบาหวาน...
สิ่งหนึ่งที่เราพบเป็นประจำ คือ เมื่อแพทญืบอกว่า ถึงเวลาที่ต้องรักษา
ด้วยการฉีดยาเมื่อใด....ส่วนหนึ่งไม่ยอมที่จะฉีด
ก่อนที่จะได้รับการรักษาด้วยการฉีด “อินซูลิน” คนไข้ทุกราย
จะต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หรือพยาบาลจนสามารถรู้ได้ว่า ทำไม
จึงต้องฉีด และได้รับการเรียนรู้ ภาวะน้ำตาลลดต่ำ พร้อมกับรู้วิธีป้องกัน
อันตรายอันเกิดจากภาวะดังกล่าวได้
นอกจากนั้น เขายังได้รับการเรียนรู้อีกว่า เหตุใดจึงต้องมีการเปลี่ยนชนิด
ของอินซูลิน หรือรู้เวลาของการฉีดยา และรู้ด้วยว่า ผลของการรักษาไม่
บรรลุเป้าหมายตามที่คาดเอาไว้ และรู้ด้วยว่าควรทำอย่างไรต่อไป
ตัวอย่างของการรักษาด้วยการใช้ “อินซูลินฉีด”
ตัวอย่างที่ 1:
การสั่งให้ใช้ Basal insulin (Humanin –N, Lantus®, Levemir®)
เพื่อเสริมกับยาเม็ดลดน้ำตาล (oral antihypeglycemic agents)
ในการให้อินซูลิน มีเป้าหมายดังต่อไปนี้:
อินซูลิน (basal) ที่ใช้ควรต้องค่อยๆ เพิ่มปริมาณที่ละน้อย (titrate) เพื่อให้
ได้ระดับของน้ำตาลขณะอดอาหาร (fasting BG) มีค่าอยู่ระหว่าง 4.0 – 7.0 mmol/L
( 72 – 108 mg/dL)
(เราสามารถคำนวณค่า mg/dL จากค่า mmol/L = 18xmmol/L)
เราสามารถสอนให้คนไข้โรคเบาหวาน สามารถปรับเพิ่มขนาดของ
ยาได้ด้วยตนเอง หรือทำการปรับร่วมกับพยาบาลผู้ดูแลการรักษา
เริ่มต้น เราแนะนำให้เริ่มฉีดเบซอลอินซูลิน 10 units /วัน ก่อนนอน
โดยแนะนำให้เพิ่มขนาดของอินซูลิน ครั้งละ 1 unit /วัน จนกว่าระดับของน้ำตาล
จะลดลงสู่ระดับที่ตั้งเอาไว้
o สำหรับคนสูงอายุ ควรปรับขนาดยา (titration) อย่างช้า ๆ ด้วยอินซูลินขนาด
(dose) ต่ำ ๆ โดยมีเป้า (targets) ที่ "สูง" กว่าคนหนุ่ม
o ในการปรับขนาดของยาฉีดด้วยตนเองตามที่กล่าว คนไข้ควรทำการตรวจ
ระดับน้ำตาลในเลือดของตนเองอย่างน้อยวันละครั้ง
o ในระหว่างการรักษาด้วยยาฉีด (อินซูลิน) หากเกิดภาวะระดับน้ำตาลลดต่ำ
(BG< 4.0 mmol/L) โดยเกิดขึ้นสองครั้งภายในหนึ่งอาทิตย์ หรือเกิดภาวะน้ำ
ตาลในเลือดตกในตอนกลางคืน (nocturanal hypoglycemia) ไม่ควรปรับเพิ่ม
ปริมาณของอินซูลินเป็นอันขาด...
o ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดขณะท้องว่างมีค่า < 5.5 mmol/L หรือ 5.5x18 mg/dL
ให้พิจารณาปรับ "ลด" ขนาดอินซูลิน 1 – 2 units เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะ
น้ำตาลตกในตอนกลางคืน (nocturnal hypoglyemia)
o ในกรณีที่เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดลดต่ำ (hypoglycemia) ควรหยุดยาเม็ด
ลดระดับน้ำตาล (oral medications) ในตอนกลางวัน โดยเฉพาะกลุ่มยาที่เพิ่ม
การหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน เช่น glipizide, glibenclamide เป็นต้น
<< NEXT : P.2 : continued
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น