วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Alcoholic Hepatitis. 1

เมื่อได้พบเห็นคนไข้คนหนึ่ง ต้องจากไปในเวลาอันไม่สมควร
ทำให้นึกถึงประโยคหนึ่งขึ้นมา -
“ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา
เป็นสำนวนจีนโบราณ...ซึ่งไม่ต้องแปลให้เสียเวลา

มีคนที่เรารัก และห่วงใยจำนวนไม่น้อย ตกเป็นทาสของแอลกอฮอล์...
(เบียร์ ไวน์ และวิสกี หรือเหล้าขาว)
ที่สำคัญ... จะมีสักกี่คนที่กล้าแนะนำ และตักเตือนให้คนเหล่านั้น
โดยเฉพาะคนที่เรารัก และเคารพ ...
ก็ได้แต่ปล่อยท่านไป
...

มีกระทาชายนายหนึ่ง รับราชการ ทำหน้าที่ดูแลป่า
พอตกเย็น ก็ร่วมวงดื่มแก้เหงา
อีกหลายปีต่อมา โรคตับอักเสบ ก็มาเยือน
ต้องเข้า-ออก โรงพยาบาลหลายครั้ง
แต่ละครั้ง เพื่อน ๆ ก้อ้อนวอนให้โลิกเหล้าเสีย
แต่ก็อย่างที่เรารู้กัน...ดื่มทุกวันเหมือเดิม

สุดท้ายต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง ด้วยตัวเหลืองตาเหลือง ท้องโต
เพื่อนที่เป็นแพทย์ ได้เตือนด้วยสำเนียงที่ดุดันว่า
“ต้องเลิกดื่ม โดยเด็ดขาด มิฉะนั้น ตายแน่!”

เป็นไปตามที่เพื่อนแพทย์คนนั้นบอกเตือน
นั้น คือ “ตาย “ สมความปรารถนา
ไมใช่ประเภท “ ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” ซะแล้ว
เขาจัดอยุ่ในประเภท ”ข้า ฯ จะกินเหล้า ซะอย่าง ใครจะทำไม?”

Alcoholic Hepatitis.

การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ๆ เป็นประจำ
จัดเป็นสาเหตุความตายเป็นอันดับสาม ของคนทีเป็นประชากรของสหรัฐฯ
ซึ่งเป็นภาวะที่สามารถป้องกันได้
เป็นที่ทราบว่า ความตายเนื่องจากแอลกอฮอล์
จะเกิดในคนหนุ่มเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะพบได้ในช่วงอายุ 30

จากการดื่มจัด มีโอกาสเกิดโรคตับอักเสบ
เซลล์ตับจะถูกทำลายทั้งระยะสั้น (acute) และ เรื้อรัง (chronic)
นอกจากนั้น มันยังมีโอกาสทำให้เกิดเป็นมะเร็งตับชนิดต่าง ๆ
รวมไปถึงการทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือ ระหว่างการทำงาน
ก่อให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งในสังคม
และทำให้ครอบครับแตกแยกได้อีก

การดื่มแอลกอฮอล์ มีส่วนสัมพันธ์กับโรคตับ
เป็นเรื่องที่ได้รับการบอกกล่าวกันมานาน ว่าเป็นของไม่ดี ไม่ส่งเสริมให้คนดื่มน่าเชิดชูตรงใหน
แต่คนดื่มที่ชอบดื่ม...ก็ไม่เห็นความสำคัญกับโรคดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การเป็นโรคตับแข็ง (cirrhosis)
แม้ว่า จะเกิดขึ้นในคนดื่มจัดได้จริง แต่ไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนที่ดื่ม
อาจเป็นข้อนี้กระมัง ที่ทำให้คนดื่มจัด จึงดื่มจัดกันต่อไป

มีรายงานว่า ถ้าดื่มแอลกอฮอล์ มากกว่า 30 กรัม ต่อวัน
จะเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับแข็ง
ถ้าดื่มมากว่า 120 กรัมต่อวัน จะเพิ่มอัตราเสี่ยงได้สูงสุด:

ถ้าดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณ 30 – 60 กรัมต่อวัน มีโอกาสเกิดโรคตับแข็งได้ 1 %
ดื่มแอลกอฮอล์ 120 กรัม ต่อวัน จะมีอัตราเกิดโรคตับแข็ง 5.7 %

นอกจากอื่มแอลกอฮอล์ ยังมีปัจจัยอย่างอื่น สามารถทำให้เกิดโรคตับแข็งได้
เช่น เพศ พันธุกรรม สภาพแวดล้อม
รวมทั้ง ทั้งการอักเสบของตับเรื้องรังจากเชื้อไวรัส

การดื่มแอลกอฮอล์อย่างอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เซลล์ตับถูกทำลายได้หลายรูปแบบ
เช่น ทำให้เกิดมีไขมันสะสมในตับ
เรียกภาวะดังกล่าวว่า fatty liver หรือ steatosis
โดยมีไขมันประเภท tricglycerides สะสมในเซลลืตับ (hepatocytes)
อย่างไรก็ตาม หากเลิกการดื่มซะ ไขมันที่อยู่ในเซลล์ก็จะสลายไปได้เอง
แต่ สำหรับคนที่ยังดื่มต่อไป จะทำให้เกิดตับอักเสบ
และเกิดพังพืด (scar formation) ทำให้เกิดโรคตับแข็ง (cirrhosis) ในที่สุด

ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ (alcoholic hepatitis)
เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้
มีการรายงานว่า 40 % ของคนที่เป็นโรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์
จะเสียชีวิตภายใน 6 เดือน หลังจากที่มีคนไข้เริ่มมีตับอักเสบเกิดขึ้น
ดังนั้น การวินิจฉัย และการรักษาได้แน่เนิ่น ๆ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

CLINICAL PRESENTATION OF ALCOHOLIC HEPATITIS
โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ เป็นต้นเหตุให้เกิดตัวเหลือตาเหลือง และตับล้มเหลว
ซึ่ง มักจะเกิดหลังจากดื่มจัดมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ (ประมาณ 100 กรัมต่อวัน)
แม้ว่า คน ๆ นั้น จะหยุดการดื่มเหล้าหลายอาทิตย์แล้วก็ตาม
โรคมักจะเกิดขึ้นกับคนที่ที่มีอายุระหว่า 40 ถึง 60 ปี

สำหรับเพศหญิง จะไม่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับอักเสบเท่าเพศชาย
ส่วนเพศชาย จะเป็นคนดื่มจัด
มีโอกาสเป็นโรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ ได้มากกว่า เพศหญิง
ชนิดของแอลกอฮอล์ จะไม่มีความแตกต่างต่อการเกิดตับอักเสบ

แอลกอฮอลที่คนเราดื่มเข้าไป
มันทำลายตับได้อย่างไร ?

แอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นชนิดใด (เบียร์ ไวน์ และเหล้า) เมื่อดื่มเข้าไป
สาร ethanol จะถูกเปลี่ยนให้เป็น acetaldehyde
ซึ่งจะเป็นสารที่มีพิษ ทำให้เซลล์ตับเกิดการอักเสบ และถูกทำลายลงในที่สุด

เมื่อเวลาผ่านไป จะมีพังผืด และแผลเป็น (scar) เกิดขึ้น
และกระจายไปทั่วตัวตับ แทนที่เซลล์ปกติของตับ
เมื่อมีมากเข้า จะเป็นเหตุให้การทำงานของตับเสียไป

Continue > 2 : Alcoholic hepatitis- symptoms and signs

1 ความคิดเห็น: