วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

FOOD ALLERGY: Diagnosing & Treatment 2
Diagnosing a Food Allergy
เมื่อท่านสงสัยว่า ลูกหลานของท่านมีภูมิแพ้จากสารอาหาร
ท่านต้องติดต่อหมอทันที
และในการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้จากสารอาหาร แพทย์เขามักจะถาม:

อาการของเด็กที่เกิดขึ้น เกิดบ่อยแค่ใด
กินอาหารชนิดใด จึงเกิดอาการ
ในครอบครัว มีคนใดเป็นโรคภูมิแพ้ต่ออาหาร (ชนิดใด)
หรือมีใครในครอบครัวเป็นแพ้อย่างอื่น (eczema หรือ asthma)

แพทย์จะมองหาโรคอย่างอื่น ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการต่าง ๆ
ยกตัวอย่าง เด็กเกิดท้องล่วง เมื่อดื่มนม
แพทย์จะมองหาข้อมูล ที่สนับสนุนว่า เด็กเกิดภาวะที่ไม่สามารถกินนมได้ (lactose intolerance)
มากว่า ที่จะเป็น โรคภูมิแพ้จากสารอาหาร (food allergy)
โรค Celiac disease- เป็นโรคที่คนเราไม่สามารถทนต่อ “Gluten”
ซึ่งเป็นโปรตีน ที่พบในข้าวสาลี (wheat) หรืออาหารประเภทเมล็ดบางชนิด
โดยที่คนไข้ดังกล่าว จะมีอาการเลียนแบบ โรคภูมิแพ้จากสารอาหารได้


วิธีการตรวจที่กระทำได้ง่ายที่สุด คือ เอาน้ำที่สกัดจากสารอาหาร ที่เป็นตัวก่อให้เกิดภิแพ้
หยดบนแขน จากนั้นใช้ปลายเข็มกรีดเบา ๆ ที่ผิวหนังให้เป้นรอย เพื่อให้สารสามารถซึมผ่าน
ผิวหนังได้ ประมาณ 15 นาที ถ้ามีปฏิกิริยา (ผิวหนัง บวมแดง) เกิดขึ้น
แสดงว่า เด็กแพ้สารอาหารที่ใช้ทำการทดลอง
สำหรับผู้เชี่ยวชาญทางอาหาร สามารถทำการตรวจพิเศษ ตรวจหา IgE antibodies
ที่เฉพาะสำหรับอาหารชนิดนั้น ๆ ได้

ในกรณีที่ไม่สามารถตรวจให้ทราบได้ว่า สารอาหารชนิดใดก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้
ผู้เชี่ยงชาญ (specialist) อาจให้ลองกินอาหารที่สสัยดู...
โดยให้กินอาหารนั้น ในขนาดน้อย ๆ และกระทำให้คลินิกของแพทย์
ซึงจะต้องมีการสังเกตดูอาการโดยแพทย์ผู้ทำการทดลงเท่านั้น...

Treating a Food Allergy
ภายหลังจากทราบว่า เด็กเป็นดรคภูมิแพ้ชนดใดแล้ว
และเนื่องจาก ไม่มียานำมารักษาโรคให้หายขาดได้
การรักษา มีทางเดียวเท่านั้น คือหลีกเลี่ยงสารอาหาร
ที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้เท่านั้นเอง

เป็นหนาที่ของท่านจะต้องทำความเข้าใจกับอาหารที่แพ้ (allergens)
และหลีกเลี่ยงมัน

แม้ว่า เราไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ การรักษาด้วยยาสามารถใช้
รักษาอาการที่ไม่รุนแรง ถึงรายที่มีอาการรุนแรงได้
ด่วยการใช้ antihistamines ซึ่งสามารถรักษาอาการื ลมพิษ น้ำมูกไหล
หรืออาการปวดท้อง ร่วมกับอาการที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมแพ้

ในกรณีที่เด็กของท่านมีอาการอาหารใจลำบาก หายใจเสียดัง หรือมีโรคหืดเกิดขึ้น
ซึ่งเป็นผลจากโรคภูมิแพ้จากอาหาร แพทย์จะให้ยาที่ทำหน้าที่ขยายหลอดลอม (bronchodilators)
เช่น albuterol พ่นเข้าปอดทันที สามารถบรรเทาอาการหายไม่ออกได้

ข้อควรจำ: ถ้าบังเอิญลูหลานของท่าน เป็นโรคภูมิแพ้ แฃะเกิดอาการหืดหอบ
ขึ้น เด็กอาจจำเป็นต้องได้รับยา epinephrine
และที่สำคัญ...ถ้าอาการนั้น เป็นพวก anphylaxis
ท่านต้องพาไปพบแพทย์ในแผนกฉุกเฉินอย่างรีบด่วน

ยาประเภท epinephrine มักจะถูกนำมาใช้รักษาปฏิกิริยาภูมิแพ้
ที่มีอาการรุนแรง หรืเกิด anaphylaxis
ในกรณีที่เกิดของท่าน เป็นโรคภูมแพ้จากอาหาร ชนิดรุนแรง
แพทย์อาจแนะนำให้ท่านมียา ที่สามารถฉีดได้เอง (autinjections)
ท่านสามารถฉีดยาได้ทันที เมื่อมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิต
ซึ่งหมายความ ท่านจะต้องมียา epinephrine เก้บไว้ในบ้าน หรือ
ที่โรงเรียน เมื่อเด็กเกิดอาการ สามารถใช้ยาได้ทันที
อาการ และอาการแสดง ที่บ่งบอกว่า คนไข้เกิดอาการของ anahylaxis
ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการฉีด epinephrine ได้แก่:

- Hoarseness
- Sensation of tightness in the throat
- Difficulty breathing
- Any symptoms from two or more of the body systems,
เช่น เป็นลมพิษ (Hives) ปวดท้อง (abdominal pain)

เมื่อเด็กได้รับ epinephrine แล้ว ท่านจะต้องนำเด็กไป หรือ ผู้ป่วยไปโรงยาบาลทันที
เพื่อรับการรักษาเพิ่ม...อย่างน้อย ๆ เด็กจะได้รับการดูแล สังเกตอาการอีกอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
เพราะมีเด็กบางราย มักจะมีอาการเกิดขึ้น เป็นครั้งที่สองได้ (biphasic reaction)


http://kiealth.org/parent/medical/allergies/food_allergies.html?tracking=P_RelatedArticle#

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น