วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Understanding Peptic ulcers

กระเพาะของคนเรา จะถูกบุด้วยเยื่อบุที่มีความยืดหยุ่น ถูกปกคุมด้วยเมือก (mucous)
เพื่อปกป้องตัวเองจากกรดที่สร้างโดยกระเพาะ ซึ่งมันจะเริมทำงานเมื่อมีการย่อยอาหารเกิดขึ้น
เมือกดังกล่าว ยังทำหน้าปกป้องผิวด้านในของลำไส้ส่วนบนอีกด้วย

น้ำย่อยอาหารของกระเพาะอาหาร ซึ่งมีลักษณะเป็นกรด มีบทบาทสำคัญในการย่อยอาหารนั้น
มีลักษณะเป็นพิษเหมือนกับแบตเตอรี่ของรถยนต์
ดังนั้นเยื่อบุผิวภายในกระเพาะอาหาร และลำไส้ส่วนบน จึงมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม

โรคที่เกิดขึ้นกับกระเพาะอาหาร ทีพบบ่อยที่สุด คือ Peptic ulcer disease
ซึ่งมันจะเกิดขึ้น เมื่อน้ำย่อย (กรด) ที่ผลิตจากกระเพาะ ได้ทะลุผ่านพื้นผิวภายในของกระเพาะ
และลำไส้ ทำให้เกิดแผล (ulcer) ขึ้น แผลชนิดนี้ จะทำให้เกิดมีความรู้สึกเจ็บปวด ที่บริเวณท้อง
จากสถิตของสหรัฐฯ รายงานว่า มีคนประมาณ 4 ล้านคน เป็นโรคดังกล่าว
และพบว่า หนึ่งในสิบคนของคนไข้ จะเกิดโรคในระหว่างที่มีชีวิตอยู่

Peptic Ulcer Disease
เป็นที่รับรู้กันวา เชื้อแบคทีเรีย ชื่อ Helicobacter pylori (H.pylori)
ซึ่งอาศัยในกระเพาะ และลำไส้ส่วนบนนั้น
เมื่อมันทำให้เกิดการอักเสบขึ้นเมื่อใด มันสามารถทำให้เกิดมีแผลขึ้นที่ผิวของกระเพาะ และลำไส้ส่วนบนได้
บาดแผลที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้เกิดมีอาการปวดท้อง หรือบางราย ทำให้เกิดมีเลือดออก (bleeding)
ในกรณีที่แผลที่เกิดขึ้น ไม่ได้รับการรักษา มันสามารถทำให้มีการลายผิวของกระเพาะ
และลำไส้ส่วนบนเพิ่มขึ้น- ซึ่งอาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อการรักษาต่อไป

ในกรณีที่มีการอักเสบเรื้อรังจากแผลที่เกิด สามารถทำให้เนื้อเยื้อของกระเพาะเกิดบวม และมีพังพืดขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไป พังพืดที่เกิดขึ้นอาจปิดทางออก (outlet)
ป้องกันไม่ให้อาหารผ่านไปยังลำไส้ เป็นเหนุให้เกิดอาเจียน และน้ำหนักลด
ในรายที่รุนแรง แผลที่เกิดอาจลงเอยด้วยภาวะแทรกซ้อน และเสียชีวิตได้

Causes of Ulcers
จากการศึกษาได้พบว่า แผลในกระเพาะอาหารจำนวนไม่น้อย เกิดจากการอักเสบโดยเชื้อ ชื่อ H. pylori
ไม่ได้เกิดจากอาหารที่มีรสจัด (เผ็ด) หรือจากความเครียดแต่อย่างใด
และจากการศึกษาของนักวิจัยทั้งหลาย ต่างไม่ทราบว่า เชื้อ H. pylori มัแพร่กระจายอย่างไร ?
แต่เชื่อว่า มันอาจกระจายจากคนสู่คน โดยมีเชื้อโรคจาก “อุจจาระ-สู่-ปาก”
หรือจาก “ปาก-สู่-ปาก” และมันอาจแพร่กระจายทางน้ำ ที่ปนเปื้อนด้วยเชื้อโรคก็ได้.

นอกเหนือจากเชื้อ H. pylori bacteria แล้ว การใช้ยาแก้ปวด เช่นพวก NSAIDS
ได้แก่ aspirin, ibuprofen, Meloxicam และ celecoxib
สามารถทำให้เกิดแผลในกระเพาะ และลำไส้ได้

คนทีได้รับยาลดการอักเสบ (NSAIDs) และความเจ็บปวด (pain) เป็นเวลานาน ๆ
สามารถเพิ่มความเสี่ยง (risk) ต่อการเกิดแผลในกระเพาะ และสำไส้ส่วนบนได้

ท่านมีโอกาสเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมีแผลในกระเพาะลำไส้ เมื่อ:

 เมื่อท่านมีอายุ 50 ปี หรือมากกว่านั้น
 ดื่มแอลกอฮอลเป็นนิสัย (มาก)
 สูบบุหรี่
 มีประวัติทางครอบครัวว่า มีคนเป็นโรคแผลในกระเพาะลำไส้

ท่านมความเสี่ยงต่อการเกิดมีแผลในกระเพาะลำไส้ เมื่อท่านกินยา NSAIDs เมื่อท่าน:

 เมื่อท่านอายุ 60 หรือมากกว่า (เยื่อบุผิวภายในกระเพาะ-ลำไส้จะเปราะบางเมื่ออายุมากขึ้น)
 มีประวัติว่าเคยมีแผลในกระเพาะ-ลำไส้ และมีเลือดออกมาก่อน
 กินยารักษาโรคด้วยสาร steroid เช่น prednisone
 กินยาสลายการจับตัวของเม็ดเลือด เช่น warfarin
 สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอลเป็นประจำ
 กินยา NSAIDs เป็นเวลานาน

Symptoms of Peptic Ulcer Disease

อาการของ peptic ulcer ที่พบบ่อยที่สุด คือ อาการแสบท้อง (burning pain) ซึ่งอยู่ระหว่างสะดือ กับกระดุกหน้าอก

 อาการปวดท้องมักจะเกิดขึ้นในขณะท้องว่าง หรืออาจเกิดเวลาไหนก็ได้.
 อาการปวดท้อง อาจกินเวลาเป็นหลายนาที ถึง ชั่วโมง และบางครั้งอาจปลุกให้ตื่นกลางดึกได้
 อาการปวด สามารถทำให้ลดลงได้ด้วยอาหาร น้ำ หรือยาลดกรด

นอกเหนือจากที่กล่าวมา คนไข้อาจมีอาการอย่างอื่นได้ แต่ไม่มาก เช่น

 คลื่นไส้
 อาเจียน
 อาเจียนเป็นเลือด
 ถ่ายดำ (เลือด)
 เบื่ออาหาร

เมื่อแผลในกระเพาะ และลำไส้มีเลือดออก ไม่ได้รับการรักษา คนไข้จะมีโลหิตจาง
และมีอาการอ่อนแรง
อาการของคนที่เป็นแผลจากการใช้ยา NSAIDS คนไข้อาจไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ
หรืออาจมีอาการเกิดขึ้นแบบฉับพลันได้

Continue. (2) Peptic ulcer: Tests for peptic ulcers.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น