วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

FATTY LIVER DISEASE

What is Nonalcoholic Fatty Liver Disease (NAFLD) /
Nonalcoholic Steatohepatitis (NASH)?

NAFLD หมายถึงโรคตับชนิดหนึ่ง ซึ่งมีไขมันสะสมอยู่ภายในตับของคนไข้
โดยที่คนไข้รายนั้น ไม่เคยมีประวัติว่า เป็นคนดื่มเครื่องดองของเมามาก่อน หรืออาจดื่มมาบ้าง
แต่ไม่มากเหมือนพวกดื่มแบบหัวราน้ำ

รูปแบบของคนที่เป็นโรค NAFLD จะไม่มีความรุนแรงแต่ประการใด
เราเรียกความผิดปกติของตับชนิดนี้ว่า “ไขมันลงตับ” หรือ “fatty liver”
ไขมันซึ่งไปรวมตัวในตับในกรณีนี้ ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่อเนื้อตับเลย

มีคนจำนวนหนึ่งที่เป็น NAFLD มีอาการเลวลง
ถูกเรียกว่า non-alcoholic steatohepatitis (NASH)
ซึ่งในพวกนี้ นอกจากเราจะพบเห็นว่า มีไขมันรวมตัวอยูในตับแล้ว
มันยังทำให้ตับเกิดการอักเสบขึ้น และตามด้วยการเกิดพังผืด และมีแผลเป็น (scar)
ภายในตัวตับ

NASH ถือว่าเป็นภาวะที่เป็นโรค ที่มีความรุนแรง เมื่อตับถูกทำลายในปริมาณที่มากพอ
เซลล์ของตับ ถูกแทนที่ด้วยพังผืด-แผลเป็น (scarring)ในปริมาณที่มากพอ
จะทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานของตับ ทำให้ตับไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
คนไข้บางราย ต้องลงเอยด้วยการเปลี่ยนตับ (liver transplant)
เพื่อให้สามารถมีชีวิตรอดต่อไป

How common is NAFLD / NASH?

NAFLD เป็นความผิดปกติที่พบได้บ่อย สามารถเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ได้ถึง 20 %
และเกิดในเด็กได้ 5 %
ทั้งในผู้ใหญ่ และในเด็ก มีการประเมินเอาไว้ว่า คนที่อ้วน อาจมีไขมันสะสม (fatty liver) ถึง 2/3
จากสถิติของสหรัฐฯ รายงานเอาไว้ว่า ผู้ใหญ่ที่อ้วน มีโอกาสเป็นโรค NASH ถึง 20 %

What causes NAFLD / NASH?

NAFLD เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม metabolic syndrome เช่น เป็นเบาหวาน
น้ำหนักเกิน หรืออ้วน ไขมันในเลือดสูง (LDL & TG) และโรคความดันโลหิตสูง
คนที่เป็น NAFLD ดังกล่าว จะไม่แสดงอาการทาง metabolic syndrome ทุกรายไป

ส่วนการเกิด NASH เราไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
นักวิจัยหลายนาย ได้มุ่งประเด็นไปที่ปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดโรค NASH
ดังนี้:

• Oxidative stress (imbalance between pro-oxidant
and anti-oxidant chemicals that lead to liver cell damage)

• Production and release of toxic inflammatory proteins
(cytokines)

• Liver cell necrosis or death, called apoptosis

What are signs and symptoms of NAFLD / NASH?

คนที่เป็น NAFLD ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการใด การตรวจร่างกายจะอยู่สภาพปกติ
สำหรับเด็ก อาจมีอาการปวดท้องตรงบริเวณส่วนกลางของท้อง หรือบริเวณด้านขวาส่วนบน
บางครั้ง อาจมีอาการเหนื่อยล้า

อย่างไรก็ตาม ควรมองหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง และอาการเมื่อยล้าด้วย
เพราะอาจเป็นอาการของโรคอย่างอื่น ?
จากการตรวจร่างกาย อาจคลำพบว่าตับโตเล็กน้อย
ในเด็กบางราย อาจพบผิวหนังมีรอยเข็มของผิวหนัง (dark discoloration )
มีชื่อเรียก acanthosis nigricans ซึ่งจะเกิดในบริเวณคอ หรือใต้ต้นแขน

How is NAFLD / NASH diagnosed?

ในการวินิจฉัยภาวะ NAFLD จะเกิดขึ้น เมื่อคน ๆ นั้น มีน้ำหนักมาก หรือเป็นคนอ้วน
พร้อมกับตรวจ liver tests พบว่ามีค่าสูงขึ้นเล็กน้อย

มีผู้เชี่ยวชาญบางราย แนะนำให้ทำการตรวจ Liver function tests
ในเด็ก หรือวัยรุ่นทีอ้วนทุกราย

แต่อย่างไรก็ตาม NAFLD จะมีค่า ของ liver function test อาจปกติได้
การวินิจฉัยโรคดังกล่าว กระทำได้โดยการตรวจดูภาพ (imaging) ด้วย ultrasound
ซึ่งจะแสดงให้เห็นภาพของไขมันถูกสะสมในตับ

ไขมันสะสมในตับ สามารถพบเห็นได้ในหลายกรณี เช่น คนที่ดื่มแอลกอฮอลในปริมาณมาก ๆ
กินยาบางชนิด ตับอักเสบจาเชื้อไวรัส โรคตับจากระบบภูมิคุ้มกัน โรคทางเมตาบอลิสซึม
และโรคตับจากสาเหตุทางพันธุกรรม

ในขณะนี้ เราจะบอกได้ว่า ใครเป็นโรค NASH สามารถแยกจากโรค NAFLD ได้
โดยการใช้เข็มเจาะเอาเนื้อตับออกมาตรวจ (liver biopsy)
โรค NASH จะถูกวินิจฉัยโดยพบว่า จากการตรวจชิ้นเนื้อ จะพบ มีไขมันสะสมในตับ
ร่วมกับร่วมกับการอักเสบ และมีพังผืดหรือแผลเป็น (scarring) ภายในเนื้อตับ
ส่วนโรค NAFLD จะมีแต่เพียงไขมันถูกสะสมภายในตับเท่านั้น

What are the risks of having NAFLD / NASH?

คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรค NAFLD คือคนที่มีไขมันสะสมอยู่ในเนื้อตับเท่านั้น
โดยที่ตับไม่มีการอักเสบ หรือมีแผลเป็น (scar) ภายในตับเลย
คนในกลุ่มนี้ จะไม่มีปัญหาใด ?

ส่ำหรับคนที่เป็นโรค NASH จะพบว่า จากการมีแผลเป็นภายในตัวตับ
เมื่อเวลาผ่านไป สภาพดังกล่าว อาจเลวลง การเกิดพังผืด และแผลเป็น
จะดำเนินไปอย่างช้า ๆ ซึ่งอาจกินเวลานานเป็นปี หรือเป็นทศวรรษ
จึงจะเกิดเป็นโรคตับแข็ง (cirrhosis)

ในคนไข้บางราย แผลเป็น หรือ scar ที่เกิดขึ้นอาจคงที่ ไม่เพิ่มขึ้น
แต่บางรายแผลเป็นอาจมีปริมาณมากขึ้น และนำไปสู่การเกิดโรคตับแข็ง (cirrhosis)

จากรายงานจากสหรัฐฯว่า โรค NASH เป็นเหตุให้เกิดมีการปลูกถ่ายอวัยวะตับ
(liver transplant)

How is NAFLD / NASH treated?

ในปัจจุบันนี้ เราไม่มีการรักษาภาวะไขมันสะสมในตับเป็นการเฉพาะ
แต่ จากการศึกษาพบว่า การที่คนมีน้ำหนักลดลง ทำให้ไขมันในตับลดปริมาณลง
ดังนั้น แพทย์จึงแนะนำให้ทำการลดน้ำหนักตน (สำหรับคนอ้วน หรือน้ำหนักเกิน)
ให้ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ กินอาหารที่ดี ให้เกิดความสมดุล
งดเว้นจากการดื่มแอลกอฮอลทุกชนิด และหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็นลง

ในขณะนี้ ได้มีการทดลองใช้ยาเพื่อรักษาโรค NAFLD และ NASH เป็นกรณ๊ศึกษา
ซึ่ง มีปัจจัยต่าง ๆ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดไขมันในตับลง ดังนี้:

 ลดน้ำหนัก (อาหาร + ออกกำลังกาย + ผ่าตัด)
 ลดการอักเสบของตับลง โดยใช้ยา anti-oxidant medications,
anti-apoptotic medications และ anti-cytokine medications
 ใช้ยาลดไขมันในเลือด (Lipid lowering medication)
 ใช้ยาที่ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซลินดีขึ้น (Insulin sensitizers)


http://s3.gi.org/patients/gihealth/pdf/fld.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น