Allergic Reaction Treatment
Self-Care at Home
หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น !
ถ้าท่านทราบว่า แพ้ถั่ว...ก็อย่าไปกินมัน
ทุกครั้งที่ท่านออกไปกินข้าวนอกบ้าน ให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีถั่ว
นั่นคือตัวอย่าง...
ในการดูแลตนเอง ยังไม่เพียงพอต่อการต่อสู้กับปฏิกิริยาโรคภูมแพ้ได้
จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยา:
อย่าพยายามรักษา หรือ ปล่อยให้มีปฏิกิริยาภูมิแพ้ มีความรุนแรง
ให้ไปโรงพยาบาลทันที เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
ถ้าท่านไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้เอง....ให้เรียกหน่วยฉุกเฉินทันที
ในรายที่มีปฏิกิริยาภูมิแพ้ ที่มีอาการเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะตอบสนองต่อ
การรักษาไดโดยไม่ต้องพึ่งยาจากแพทย์
Oral antihistamine:
Loratadine (Claritin or Alavert), Cetirizine(Zyrtec)
และ fexofnadine (Allegra)
ยาในกลุ่มนี้ ไม่ทำให้งาวง สมารถ (กิน) ได้ในระยะยาว
Dephenhydramine (Benadryl) ท่านสามารถใช้แก้อาการภูมิแพ้ได้
แต่เป็นยาที่ทำให้อาการง่วง จะมีผลกระทบต่อการทำงานกับเครื่องมือที่เป็นเครื่่องจักร
อาจมีผลกระทบกับเด็กที่กำลังเรียนหนังสือได้
การใช้ยา ควรใช้ในระยะสั้นเท่านั้น
ในกรณีมีผื่น (rashes) คัน ละคายเคือง
สามารถบรรเทาลงด้วยครีมลดการอักเสบ เช่น hydrocortisone cream
Medical Treatment:
โดยทั่วไป antihistamine เป็นยาที่ถูกนำมาใช้ภายหลังจากสารก่อให้เกิด
อาการแพ้ (allergens) ถูกกำจัดไปแล้ว
รายที่มีอาการรุนแรง อาจได้รับการรักษาอย่างอื่น
เช่น ให้ออกซิเจน แก่คนไข้ที่หายใจลำบาก
หรือ ให้น้ำเกลือแก่คนไข้ ที่อยู่ในภาวะ anaphylaxis
เพื่อเสริมระดับความดันโลหิต และให้ยาตามที่จำเป็น
Allergic Reaction Medications:
มียาต้านการอักเสบ ถูกนำมาใช้รักษาคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ต่อสารที่ก่อให้เกิดภุมิตแพ้ต่าง ๆ
เช่น ขี้ฝุ่น ขนสัตว์ และอื่น ๆ
ยาหลายตัวที่ถูกแนะนำ ดังนี้:
Long-acting antihistamines เช่น cetirizine (Zyrtec),
fexofenadine(Allegra) และ loratadine (Claritin)
เป็นยาที่ลดอาการได้ โดยไม่ทำให้เกิดมีอาการนอนหลับ
เป็นยาที่ใช้กินวันละครั้ง ซึ่งมฤทธิ์อยุู่นาน24 ชั่วโมง
Nasal corticosteroid sprays
เป็นยาใช้รักษาอาการทางจมูก จากโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะรายที่ไม่ตอบสนองต่อ antihistamine
เป็นยาที่ใช้ได้ผล และปลอดภัย และจะต้องใช้ทุกวัน
ตัวอย่างของยาที่มีมใช้ เช่น Fluticasone (Flonase), mometasone
และ triamcinolone (Nasacort)
สำหรับรายที่มีอาการรุนแรง ยาต่อไปนี้จะต้องนำมาใช้ทันที เพื่อลดอาการทันที:
Epinephrine
เป็นยาที่นำมาใช้ในรายที่มีอาการรุนแรงจริงเท่านั้น
เช่น รายที่เกิด anaphylaxis ใช้ฉีด เพื่อทำให้หลอดลมขยายตั;
ใช้เพื่อทำให้เส้นเลือดหดตัว (constrict blood vessels)
เพื่อเพิ่มความดันโลหิต
การใช้ยาพ่นทางจมูก ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับ epinephrine อาจนำมาใช้ได้
เช่น โรคหืด (asthma)
Antihistamine เช่น diphenhydramine (Benadryl)
ยาตัวนี้ ถูกนำมาใช้ฉีดเข้าเส้น หรือเข้ากล้ามเนื้อ เป็นยาที่สามารถ
ลดผลที่เกิดจาก histamine ได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับยาเม็ด ถกนำมาใช้ในรายทีมีอาการรุนแรงลดลง
Corticosteroids
เป็นยาที่ถูกนำมาใช้ลดผลอันเกิดจาก mediators โดยการฉีดเข้าเส้น
เป็นยาที่สามารลดอาการบวม และอาการอื่น ๆ ที่เกิดจากปฏิกิริยาของโรคภูมิแพ้
หลังจากฉีดยา ท่านอาจต้องกินยา corticosteroid ต่ออีกหลายวัน
สำหรับยาที่เป็นเม็ดสำหรับรับประทาน จะถูกใช้ในรายที่ไม่รุนแรง
เช่น รายที่มีอาการทางผิวหนัง จะมียาในรูปแบบ “ครีม” สำหรับใช้ทา
นอกจากนั้น ยังมียาที่นำมาใช้สำหรับพ่นเข้าจมูก ใช้สำหรับคนที่มีอาการคัดจมูก
Other medications ยาที่ถูกนำมาใช้ในคนไข้บางราย ที่เป็นโรค
Allegic rhinitis หรือการอักเสบของโพรงจมูก ซึ่งเป็นผลจากโรคภูมิแพ้
ยาที่นำมาใช้ ได้แก่ cromolyn sodium snsal spray.
สามารถป้องกันอาการดังกล่าวได้
Decongestants สามารถรักษาโรค sinuses
ช่วยลดอาการบวม ของโพรงจมูก คัดจมูก น้ำมูกไหล
ยาที่ใช้จะมีรูปแบบพ่นจมูก (spray) หรือเป็นยาเม็ดรับประทาน
เป็นยาทีมีผลข้างเคียง สามารถทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็ว
และ ทำให้มีอาการตื่นเต้น ดังนั้น จึงควรใช้ในระยะสั้นเท่านั้น
Other Therapy:
Allergy shots.
จะถูกนำมาใช้รักษาในรายที่มีความรุนแรง มีอาการต่อเนื่องกันตลอด
เป็นการปรับเปลี่ยนการตอบสนองของระบบภูมิต้านทาน ไม่ให้มีปฏิกิริยาภูมิแพ้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
เป็นการรักษาด้วยการฉีดสารที่มี antigens ที่มีขนาดสูงกว่า
ที่ก่อให้เกิดอาการเล็กน้อย ซึ่งก่อให้เกิดมีอาการภุมิแพ้ เป็นการฉีดหลาย ๆ ครั้ง
ติดต่อกันตามกำหนด โดยฉีดห่างกันทุก 2 – 4 อาทิตย์ เป็นเวลา 5 ปี
จุดประสงค์ของฉีดสารดังกล่าว เพื่อลดความไว้ (desensitized)
ของคนไข้ที่มีต่อสาร ทีก่อให้เกิดภูมิแพ้ลง และผลที่ได้รับ (effective) มีได้แตกต่างกัน
Probiotics: ได้มีการพิจารณาเรื่อง probiotics
(ซึ่งเป็น microorganism ซึ่งเชื่อว่า มีประโยชน์ต่อร่างกาย)
เพื่อนำมาใช้ในการรักษาโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะ atopic dermatitis
ที่เกิดขึ้นในเด็ก แต่ผลจากการศึกษาทาง meta-analysis ยังไม่ได้รับการพิสูจน์
http://www.emedicinehealth.com/allergic_reaction/article_em.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น