วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ALLERGIC REACTION: Treatment 2

Allergic Reaction Treatment
Self-Care at Home

หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น !

ถ้าท่านทราบว่า แพ้ถั่ว...ก็อย่าไปกินมัน
ทุกครั้งที่ท่านออกไปกินข้าวนอกบ้าน ให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีถั่ว
นั่นคือตัวอย่าง...

ในการดูแลตนเอง ยังไม่เพียงพอต่อการต่อสู้กับปฏิกิริยาโรคภูมแพ้ได้
จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยา:

 อย่าพยายามรักษา หรือ ปล่อยให้มีปฏิกิริยาภูมิแพ้ มีความรุนแรง
ให้ไปโรงพยาบาลทันที เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
 ถ้าท่านไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้เอง....ให้เรียกหน่วยฉุกเฉินทันที
ในรายที่มีปฏิกิริยาภูมิแพ้ ที่มีอาการเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะตอบสนองต่อ
การรักษาไดโดยไม่ต้องพึ่งยาจากแพทย์

Oral antihistamine:

Loratadine (Claritin or Alavert), Cetirizine(Zyrtec)
และ fexofnadine (Allegra)
ยาในกลุ่มนี้ ไม่ทำให้งาวง สมารถ (กิน) ได้ในระยะยาว

Dephenhydramine (Benadryl) ท่านสามารถใช้แก้อาการภูมิแพ้ได้
แต่เป็นยาที่ทำให้อาการง่วง จะมีผลกระทบต่อการทำงานกับเครื่องมือที่เป็นเครื่่องจักร
อาจมีผลกระทบกับเด็กที่กำลังเรียนหนังสือได้
การใช้ยา ควรใช้ในระยะสั้นเท่านั้น

ในกรณีมีผื่น (rashes) คัน ละคายเคือง
สามารถบรรเทาลงด้วยครีมลดการอักเสบ เช่น hydrocortisone cream

Medical Treatment:

โดยทั่วไป antihistamine เป็นยาที่ถูกนำมาใช้ภายหลังจากสารก่อให้เกิด
อาการแพ้ (allergens) ถูกกำจัดไปแล้ว
รายที่มีอาการรุนแรง อาจได้รับการรักษาอย่างอื่น
เช่น ให้ออกซิเจน แก่คนไข้ที่หายใจลำบาก
หรือ ให้น้ำเกลือแก่คนไข้ ที่อยู่ในภาวะ anaphylaxis
เพื่อเสริมระดับความดันโลหิต และให้ยาตามที่จำเป็น

Allergic Reaction Medications:

มียาต้านการอักเสบ ถูกนำมาใช้รักษาคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ต่อสารที่ก่อให้เกิดภุมิตแพ้ต่าง ๆ
เช่น ขี้ฝุ่น ขนสัตว์ และอื่น ๆ
ยาหลายตัวที่ถูกแนะนำ ดังนี้:

 Long-acting antihistamines เช่น cetirizine (Zyrtec),
fexofenadine(Allegra) และ loratadine (Claritin)
เป็นยาที่ลดอาการได้ โดยไม่ทำให้เกิดมีอาการนอนหลับ
เป็นยาที่ใช้กินวันละครั้ง ซึ่งมฤทธิ์อยุู่นาน24 ชั่วโมง

 Nasal corticosteroid sprays
เป็นยาใช้รักษาอาการทางจมูก จากโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะรายที่ไม่ตอบสนองต่อ antihistamine
เป็นยาที่ใช้ได้ผล และปลอดภัย และจะต้องใช้ทุกวัน
ตัวอย่างของยาที่มีมใช้ เช่น Fluticasone (Flonase), mometasone
และ triamcinolone (Nasacort)

สำหรับรายที่มีอาการรุนแรง ยาต่อไปนี้จะต้องนำมาใช้ทันที เพื่อลดอาการทันที:
 Epinephrine
เป็นยาที่นำมาใช้ในรายที่มีอาการรุนแรงจริงเท่านั้น
เช่น รายที่เกิด anaphylaxis ใช้ฉีด เพื่อทำให้หลอดลมขยายตั;
ใช้เพื่อทำให้เส้นเลือดหดตัว (constrict blood vessels)
เพื่อเพิ่มความดันโลหิต
การใช้ยาพ่นทางจมูก ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับ epinephrine อาจนำมาใช้ได้
เช่น โรคหืด (asthma)

 Antihistamine เช่น diphenhydramine (Benadryl)
ยาตัวนี้ ถูกนำมาใช้ฉีดเข้าเส้น หรือเข้ากล้ามเนื้อ เป็นยาที่สามารถ
ลดผลที่เกิดจาก histamine ได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับยาเม็ด ถกนำมาใช้ในรายทีมีอาการรุนแรงลดลง

 Corticosteroids
เป็นยาที่ถูกนำมาใช้ลดผลอันเกิดจาก mediators โดยการฉีดเข้าเส้น
เป็นยาที่สามารลดอาการบวม และอาการอื่น ๆ ที่เกิดจากปฏิกิริยาของโรคภูมิแพ้
หลังจากฉีดยา ท่านอาจต้องกินยา corticosteroid ต่ออีกหลายวัน

สำหรับยาที่เป็นเม็ดสำหรับรับประทาน จะถูกใช้ในรายที่ไม่รุนแรง
เช่น รายที่มีอาการทางผิวหนัง จะมียาในรูปแบบ “ครีม” สำหรับใช้ทา
นอกจากนั้น ยังมียาที่นำมาใช้สำหรับพ่นเข้าจมูก ใช้สำหรับคนที่มีอาการคัดจมูก


 Other medications ยาที่ถูกนำมาใช้ในคนไข้บางราย ที่เป็นโรค
Allegic rhinitis หรือการอักเสบของโพรงจมูก ซึ่งเป็นผลจากโรคภูมิแพ้
ยาที่นำมาใช้ ได้แก่ cromolyn sodium snsal spray.
สามารถป้องกันอาการดังกล่าวได้

 Decongestants สามารถรักษาโรค sinuses
ช่วยลดอาการบวม ของโพรงจมูก คัดจมูก น้ำมูกไหล
ยาที่ใช้จะมีรูปแบบพ่นจมูก (spray) หรือเป็นยาเม็ดรับประทาน
เป็นยาทีมีผลข้างเคียง สามารถทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็ว
และ ทำให้มีอาการตื่นเต้น ดังนั้น จึงควรใช้ในระยะสั้นเท่านั้น

Other Therapy:

 Allergy shots.
จะถูกนำมาใช้รักษาในรายที่มีความรุนแรง มีอาการต่อเนื่องกันตลอด
เป็นการปรับเปลี่ยนการตอบสนองของระบบภูมิต้านทาน ไม่ให้มีปฏิกิริยาภูมิแพ้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
เป็นการรักษาด้วยการฉีดสารที่มี antigens ที่มีขนาดสูงกว่า
ที่ก่อให้เกิดอาการเล็กน้อย ซึ่งก่อให้เกิดมีอาการภุมิแพ้ เป็นการฉีดหลาย ๆ ครั้ง
ติดต่อกันตามกำหนด โดยฉีดห่างกันทุก 2 – 4 อาทิตย์ เป็นเวลา 5 ปี
จุดประสงค์ของฉีดสารดังกล่าว เพื่อลดความไว้ (desensitized)
ของคนไข้ที่มีต่อสาร ทีก่อให้เกิดภูมิแพ้ลง และผลที่ได้รับ (effective) มีได้แตกต่างกัน

 Probiotics: ได้มีการพิจารณาเรื่อง probiotics
(ซึ่งเป็น microorganism ซึ่งเชื่อว่า มีประโยชน์ต่อร่างกาย)
เพื่อนำมาใช้ในการรักษาโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะ atopic dermatitis
ที่เกิดขึ้นในเด็ก แต่ผลจากการศึกษาทาง meta-analysis ยังไม่ได้รับการพิสูจน์

http://www.emedicinehealth.com/allergic_reaction/article_em.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น