วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

How is autoimmune hepatitis diagnosed? (2)

Continue.

ในการวินิจฉัยโรคตับอักเสบ อาศัยอาการอาการแสดงต่าง ๆ
ตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการณ์ และเอาชิ้นเนื้อจากตับมาตรวจ (liver biopsy)

 Blood tests. การตรวจดูเอนไซม์ต่าง ๆ สามารถบ่งบอกให้ทราบ
ถึงตับอักเสบชนิดต่าง ๆ ได้
สำหรับตับอักเสบที่เกิดจาก autoimmune disorders
จำเป็นต้องตรวจหา autoimmunity ที่ถูกสร้างขึ้น
ซึ่งสารดังกล่าว เป็นโปรตีน ที่ถูกสร้างโดยระบบภูมิต้านทาน
เพื่อต่อสู้กับเชื้อ “ไวรัส” และ “แบทีเรียม” โดยที่สาร antibodies ดังกล่าว
จะเป็นตัวทำลายเนื้อตับ...ทำให้เกิดการอักเสบขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว ตับอักเสบจากการกระทำของระบบภูมิต้านทาน จะมีมากกว่าหนึ่งตัว
และที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ antinuclear antibodies (ANA)
Smooth muscle antibodies (SMA)
และ antibodies to liver and kidney microsomes
(anti-LKM)

 คนไข้ที่เป็นตับอักเสบชนิดที่ 1 จะตรวจพบ ANA และ SMA หรือพบทั้งสองตัว

 คนไข้ที่เป็นตับอักเสบชนิดที่ 2 จะพบ anti-LKM

การตรวจสอบเลือดต่าง ๆ ยังนำมาใช้แยก autoimmune hepatitis ออกจาก
โรคที่มีลักษณะเดียวกัน เช่น viral hepatitis B และ C
และโรค “เมทตาบอลิค” เช่น Wilson disease

 Liver biopsy. การเอาชิ้นเนื้อจากตับมาตรวจ สามารถบอกได้ว่า ตับอักเสบที่
เกิดนั้นเป็น autoimmune hepatitis หรือเป็นตับอักเสบชนิดอื่น
ตลอดรวมถึงความรุนแรงของโรคอีกด้วย
เป็นวิธีการง่าย สามารถทำในโรงพยาบาล หรือคนไข้ไปกลับได้

How is autoimmune hepatitis treated?
ในการรักษาคนไข้โรค autoimmune hepatitis จะได้ผลดีเมื่อวินิจโรคได้แต่เนิ่น ๆ
หากรักษาได้เหมาะสม โรคสามารถควบคุมได้
จากการศึกษาพบว่า เมื่อคนไข้ตอบสนองต่อการรักษา โรคจะจะหยุดการทำลายเนื้อตับ
และฟื้นตัวสู่สภาพปกติเหมือนเดิมได้

การรักษาหลัก คือการรักษาด้วยยา เพื่อยับยั้ง
หรือชะลอการทำงานเกิน (overactivity) ของระบบภูมิต้านทาน

ในการรักษาโรคตับอักเสบทั้งสองชนิด autoimmune hepatitis type 1 & 2
จะถูกรักษาด้วยยา cortiocosteroid ซึ่งเราเรียกว่า prednisone (กินวันละครั้ง)
ในการรักษา อาจเริ่มต้นด้วย prednisone ที่มีขนาดสูง 30 – 60 mg ต่อวัน
หลังจากโรคถูกควบคุมได้แล้ว prednisone จะลดลงเหลือ 10-20 mg ต่อวัน

ยาตัวอื่น ที่ถูกนำมาใช้รักษา คือ azathioprine (imuran)
ยังถูกนำมาใช้รักษาโรค autoimmune hepatitis ด้วยเหมือนกัน
ยาตัวนี้ ก็เหมือนกับ prednisone ตรงที่ มันไปยับยั้งระบบภูมิต้านทานได้ทั้งคู่
แต่ มันทำงานในทิศทางที่แตกต่างกัน

ในการรักษา อาจเริ่มต้นด้วยการให้ยาทั้งสองพร้อมกัน (prednisone + azathiprine)
หรือ อาจให้ azathioprine เพิ่มในตอนหลังเมื่อโรคถูกควบคุมได้
ในการใช้ยา azathioprine จะช่วยลดขนาดของ prednisone ลง
ซึ่งสามารถลดอาการอันไม่พึงประสงค์ของยาลงได้

จากสถิติรายงานไว้ว่า คนไข้ 7 ใน 10 ราย หลังจากเริ่มให้การรักษา
อาการจะดี โรคดีขึ้น (remission) ภายในระยะเวลา 3 ปี หลังการเริ่มการรักษา
เมื่ออาการดีขึ้น (remission) การตรวจเลือดดูการทำงานของตับจะดีขึ้น

ในบางรายอาการตับอักเสบ อาจกลับเป็นขึ้นมาใหม่ได้ ดังนั้น ในรายที่ยุติการรักษา
ควรได้รับการตรวจสอบด้วยความระมัดระวัง หากมีอาการเกิดขึ้น ต้องรายงานให้
แพทย์ได้ทราบทันที

การรักษาด้วย prednisone และ azathioprine ในขนาดน้อย ๆ
อาจจำเป็นต้องให้ต่อ (on and off) เป็นเวลาหลายปี (ถ้าไม่ใช้ให้ตลอดชีวิต)

Continue> What are then side effects of prdenisolone and azathioprine ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น