Nov. 30, 2013
ที่กล่าวมา...จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับประโยชน์ที่พึงเกิดจากการออก
กำลังกาย แต่ตามเป็นจริงแล้ว การออกกำลังกายอาจนำไปสู่การ
ได้รับบาดเจ็บได้
ดังนั้นเราควรออกกำลังกายด้วยความระมัดระวัง...
ซึ่งสามารถกระทำได้ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำว่า
เราควรปฏิบัติในการออกกำลังกายอย่างไร
และจะใช้อุปกรณ์การ
ออกกำลังกายอย่างไร ?
บาดเจ็บจากการออกกำลังการที่มีแรงกระแทกสูง
(Injuries from High-Impact Exercise)
การวิ่งแข่ง...หรือการออกกำลังการแอโรคบิค
ซึ่งมีแรงกระแทกสูง
(high-impact) จะมีความเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บของกระดูก
และกล้ามเนื้อได้หลายอย่าง เป็นต้นว่า...
บาดเจ็บของข้อเข่า, ข้อเท้า, สะโพก, หลัง, ไหล่ และข้อศอก
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดบาดเจ็บดังกล่าว...
เราสามารถกระทำได้ดังนี้:
o สรวมถุงเท้าหนาซักหน่อยหน่อยก่อนสรวมรองเท้า หรือ
กรณีที่ท่านไม่มีถุงเท้าหนา...ก็ให้สรวมถุงเท้าสองคู่ซ้อน...
o ให้ทำการออกกำลังกายร่วมกันระหว่าง การยกน้ำหนัก
และ
การออกกำลังกายด้วยการกระโดด
ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อ
ของต้นขาแข็งแรง
และเพิ่มการประสานการทำงานของกล้าม
เนื้อได้ดีขึ้น
o ก่อนออกกำลังกาย...อย่าลืม warm up, cool down และการ
ยืดเส้น (stretching) เพราะการยืดเส้น (flexibility) เป็นกุญแจ
สำคัญต่อการป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อเกิดการฉีกขาดได้
o ในการออกกำลังกายควรเลือกวันหยุดการออกกำลังกายเสียบ้าง
ที่ถูกต้องควรออกกำลังกายเพียง 5 วันต่อหนึ่งอาทิตย์ก็เพียง
พอแก่การ
การรักษาบาดเจ็บที่มี่ความรุนแรงต่ำ
บาดเจ็บที่ไม่รุนแรง ถึงรุนแรงปานกลาง จะตอบสนองต่อการรักษา
อย่างง่าย 4 ขั้นตอนต่อไปนี้: พักผ่อน (rest), ประคบน้ำแข็ง (ice),
ใช้ผ้ายืดรัดให้แน่นพอสมควร (compression), และยกให้สูง (RICE)
ซึ่งการรักษาด้วยกรรมวิธีดังกล่าว
สามารถรักษาบาดเจ็บที่เกิดจากการกีฬา
หรือปัญหาที่เกิดมานาน (chronic problems) ได้
การประคบด้วยน้ำแข็ง (ice) จะสามารถลดการอักเสบ และบรรเทาอาการปวด,
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในช่วงแรกๆ หลังจากได้รับบาดเจ็บสองสามชั่วโมง
สำหรับการใช้ผ้ายืดรัดบริเวณบาดเจ็บ (compression) ยังไม่สามารถบอก
ได้ว่าควรใช้นานเท่าใด
ผลจากการศึกษาได้ชี้แนะเอาไว้ว่า...
หลังจากได้รับบาดเจ็บ
การได้เคลื่อนไหวส่วนที่ได่รับบาดเจ็บได้เร็วที่สุด
จะมีประโยชน์ต่อคนไข้รายนั้น ๆ แม้ว่า คนไข้จะได้รับการรักษาด้วยการ
ใส่เฝือกก็ตาม
สำหรับความร้อน (heat), อัลตร้าซาวด์, และนวด อาจช่วยทำให้
ส่วนทีีได้ีรับบาดเจ็บหายเร็วขึ้น แต่ควรนำมาใช้เมื่อบาดเจ็บได้ผ่านไปแล้ว
ส่วนทีีได้ีรับบาดเจ็บหายเร็วขึ้น แต่ควรนำมาใช้เมื่อบาดเจ็บได้ผ่านไปแล้ว
เป็นเวลาหนึ่งถึงสองวัน
สตรีวัยหนุ่มสาวที่เป็นนักกีฬา
ซึ่งออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง
เพื่อทำให้ร่างกายมีรูปร่างเพรียวลม... จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่ม
เพื่อทำให้ร่างกายมีรูปร่างเพรียวลม... จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่ม
อาการที่เราเรียก female athlete triad ซึ่งเป็นกลุ่มอาการสามประการที่
เกิดในนักกิฬาหญิงสาว
กลุ่มอาการสามประการดังกล่าว ได้แก่ความผิดปกติในการรับทานอาหาร
เป็นต้นว่า หลีกเลี่ยงจากกินอาหารบางอย่างที่คิดว่าไม่ดี เช่นพวกไขมัน
(eating disorders) จนกระทั้งเกิดมีความกลัวความอ้วน (anorexia
nervosa), ไม่มีประจำเดือน (amenorrhea), และเกิดกระดูกพรุน
(osteoporosis)
เป็นต้นว่า หลีกเลี่ยงจากกินอาหารบางอย่างที่คิดว่าไม่ดี เช่นพวกไขมัน
(eating disorders) จนกระทั้งเกิดมีความกลัวความอ้วน (anorexia
nervosa), ไม่มีประจำเดือน (amenorrhea), และเกิดกระดูกพรุน
(osteoporosis)
โดยความผิดปกติในการรับทานอาหารของนักกิฬาหญิงได้ประมาณ
15 % ถึง 62 %
หากนักกิฬาหญิงที่ยังคงดำเนินการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงต่อไป
ร่างกายจะตอบสนองด้วยการสร้างฮอร์โมน estrogen ได้น้อยลง
ซึ่งจะยังผลให้นักกิฬาหญิงเหล่านั้นเป็นหมัน (infertility) และกระดูก
บางลง(osteoporosis) นอกจากนั้น เรายังได้พบอีกว่า...
เนื่องจากสตรีในวัยดังกล่าว เป็นช่วงที่กระดูกมีการสร้างมวลกระดูกได้สูง
สุด เมื่อมีการขาดสารอาหารดังกล่าวจึงนำไปสู่ภาวะของกระดูกที่ไร้
ความแข็งแรงได้ในช่วงหลังของอายุขัยได้
บางลง(osteoporosis) นอกจากนั้น เรายังได้พบอีกว่า...
เนื่องจากสตรีในวัยดังกล่าว เป็นช่วงที่กระดูกมีการสร้างมวลกระดูกได้สูง
สุด เมื่อมีการขาดสารอาหารดังกล่าวจึงนำไปสู่ภาวะของกระดูกที่ไร้
ความแข็งแรงได้ในช่วงหลังของอายุขัยได้
การขาดน้ำ (Dehydration
ทุกครั้งที่มีการออกกำลังกายอย่างหนัก
ควรดื่มน้ำให้มากเข้าไว้
อาการกระหายหิว (thirst) มักเป็นตัวชี้บ่งที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับภาวะ
ขาดน้ำของคนสูงอายุที่ออกกำลังกาย
ในขณะที่มีการออกกำลังกายอย่างหนักในอากาศร้อน...
ร่างกายจะสูญเสียน้ำได้ถึงสองลิตรต่อชั่วโมงโดยการผ่านทางเหงื่อ
คนที่ออกกำลังกายอย่างหนัก
ควรปฏิบัติการณ์ด้วยข้อระมัดระวัง
ดังต่อไปนี้:
o ก่อนออกกำลังกายควรดื่มน้ำ ประมาณ 200 – 250 ซีซี (หรือหนึ่ง
แก้ว) ก่อนออกกำลังกาย และในระหว่างเล่นควรหยุดเป็นระยะ ๆ
เพื่อดื่มน้ำ
o น้ำเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ใช้ชดเฉยน้ำที่เสียไป
ส่วน
glucose-sodium-potassium solutions มีชื่อเรียกว่า “sport drinks”
ซึ่งสามารถให้พลังงานได้ทั้นทีนั้น แต่ไม่ได้ดีไปกว่าน้ำ
เพื่อใช้ในขณะออกกำลังกายในระยะยาว
o เครื่องดื่มที่เป็นกาแฟ และ น้ำขวด (soft drink) สามารถให้พลังได้
อย่างฉับพลัน
แต่มันสามารถทำให้ร่างกายเสียน้ำได้
ในการดื่มการแฟก่อนออกกำลังกาย สามารถทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
และทำให้การไหลเวียนของเลือดสู่แขนขาที่ไม่ออกแรงได้น้อยลง
o ตรงกันข้ามกับความเชื่อถือกันมาก่อนว่า...
การดื่มน้ำในจำนวนมาก
จะไม่ทำให้เกิดอาการ หดเกร็งของกล้ามเนื้อ
(muscle cramps) นั้น แต่ความจริงมีว่า การดื่มน้ำได้มากเพียงพอ
สามารถป้องกันไม่ให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
(cramps)
ซึ่งบางครั้งอาจเกิดขึ้นในขณะการออกกำลังกาย
อุณหภูมิกายสูงเกิน (Hyperthermia)
อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน
สามารถเป็นปัญหาของการออกกำลังกาย
ที่รุนแรงเกิน หรือออกกำลังกายในอากาศร้อน
การที่เกิดมีอุณหภูมิกายสูงมากเกินไป
สามารถทำให้เกิดอาการถึง
ขั้นรุนแรงจนกระทั้งทำให้เสียชีวิตได้
การเกิดอาการเหนื่อยเพลียจากความร้อน (heat exhaustion)
ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการเกิดอุณหภูมิกายสูงเกิน
โดยมีอาการ
ดังต่อไปนี้:
o อาการวิงเวียน, คลื่นไส้, ปวดศีรษะ, เหนื่อยเพลีย,
และหมดสมาธิ
o อุณหภูมิกายสูงเกิน 103 F ซึ่งอาจมีอาการหนาวสั่น
(chill)
และผิวหนังเย็นชื้น
o Heat stroke เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการมีอุณหภูมิของกาย
สูงเกิน
โดยคนไข้จะเกิดมีอาการเหงื่อหยุดไหลทันที,
มีการเปลี่ยนแปลงในความรู้สึกตัว,
เกิดอาการชัก, และลงท้ายด้วย
การหมดสติ
(coma) อย่างรวดเร็ว
Heat stroke เป็นภาวะฉุกเฉินซึ่งควรได้รับการรักษาอย่างรีบด่วนด้วย
การประคบความเย็น (ice-water) หรือ ice-packs
Heat stroke เป็นภาวะแทรกซ้อนจากการออกกำลังกายในสภาพ
อากาศที่มีอุณหภูมิสูงมาก โดยอาจเกิดขึ้นในขณะที่บรรยายกาศได้
เย็นลงแล้ว