วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

จะออกกำลังกาย (exercise) ไปเพื่ออะไรกัน ? Part 22: Exercise's Effects on Weight

Nov. 23, 2013

การออกกำลังกายสำหรับช่วยลดน้ำหนัก, และจัดการกับความอ้วน...

มีรายงานจากการวิจัยว่า สุภาพสตรีที่มีน้ำหนักเกิน (อ้วน)  ผู้ซึ่งออกกำลัง
กายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่เคยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการรับทานอาหารเลย....สามารถลดน้ำหนักตัวได้ดีกว่าสตรีที่ไม่ค่อยจะออกกำลังกายเลย... แต่คงยังอ้วนอยู่ดี !

โดยทั่วไป...
การออกกำลังกายด้วยการออกแรงระดับพอประมาณ 30 นาที ต่อวัน
อาจเพียงพอต่อการรักษาสุขภาพของหัวใจ และเส้นเลือดได้
แต่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
ซึ่งจำเป็นต้องออกกำลังกายด้วยการออกแรงในระดับพอประมาณให้
มากขึ้นทั้งจำนวนเวลาที่ออกกำลังกาย ( เป็นชั่วโมง)
สำหรับในเด็ก (child) อาจจำเป็นต้องออกกำลังการด้วยการออกแรงที่หนัก
ขึ้น (more activity)

ตามเป็นจริงแล้ว...
การลดน้ำหนักให้ได้ตามที่ต้องการ จำเป็นต้องออกกำลีงกาย ร่วมกับการ
จำกัดพลังงาน(calories) ที่ได้จากอาหารด้วย   นอกเหนือจากนั้น...
ถ้าคนเราออกกำลังกายโดยไม่ควบคุมเรื่องอาหาร  น้ำหนักที่ลดอาจน้อยมาก
เพราะมวลกล้ามเนื้อมัดใหญ่จะแทนที่ไขมัน

อย่างไรก็ตาม...
ไม่ว่าท่านสามารถลดน้ำหนักได้หรือไม่ก็ตาม
การออกกำลังกายย่อมทำให้ท่านมีสุขภาพที่สมบูรณ์ และมีรูปร่างดีกว่าคน
ที่ไม่ออกกำลังกายอย่างแน่นอน

คนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีแนวโน้มที่จะระมัดระวังในการรับทาน
อาหาร,  มีสภาพจิตใจดี,  และเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากชอบ
เป็นไม่ชอบรับทานอาหารเหมือนเดิม  ซึ่งในขณะที่มีนิสัยไม่ออกกำลังกาย
(sedentary habits)  จะมีลักษณะชอบรับทานทุักอย่างที่กวางหน้า

การออกกำลังกาย สามารถยับยั้งความรู้สึกอยากรับทานอาหารลงได้
(mild appetie suppressant)

อย่างไรก็ตาม  การออกกำลังกายโดยไม่ควบคุมอาหาร  ยังได้รับประโยชน์
ในด้านสุขภาพอีกหลายอย่าง  เป็นต้นว่า  อาจลดอัตราการเสียชีวิตจากน้ำหนักเกิน,
ทำให้สุขภาพสมบูรณ์   นอกเหนือไปจากนั้น เขายังพบว่า  การออกกำลังกายมา
เป็นเวลานาน ร่างกายอาจสร้างกลไกบางอย่างสำหรับเผาผลาญไขมัน...
และทำให้เขามีรูปลักษณ์เพรียวลมได้

การออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนัก สามาระสร้างมวลกล้ามเนื้อ
ซึ่งต้วกล้ามเนื้อนี่แหละ เป็นตัวสำคัญสำหรับการเผาผลาญพลังงาน (calories)
ที่ได้จากอาหารได้ดีกว่าเนื้อเบื่อชนิดอื่นๆ ภายในร่างกายของคนเรา

ลองพิจารณข้อมูลต่อไปนี้:

• การออกกำลังบนสายพานวิ่ง สามารถเผาผลาญพลังงานได้ดี
โดยมีรายงานว่า  การวิงบนสายพานในช่วงสั้นๆ 10 นาที  ทำ
ประมาณ 4 ครั้งต่อวัน  อาจช่วยให้สุภาพสตรีที่มีรูปร่างอ้วนลดนำ้หนักลงได้
ดีขึ้น

• การออกกำลังกายด้วยการใช้แรงสูง (strenuous exercise) จะ
ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้อย่างต่อเนื่องจน
กว่า ร่างกายจะกับสู่สภาพปกติ (resting level)

• ภายหลังการออกกำลังกายด้วยแรงต่ำ จะยังคงมีการเผาผลาญพลังงานต่อ
ไปอีกได้ไม่กี่นาที    แต่ในการออกกำลังกายอย่างหนัก (srenuous exercise)
พบว่า หลังการออกกำลังกายไปแล้ว  จะยังคงมีการเผาผลาญพลังงานต่อ
ได้นานหลายชั่วโมง

• การออกกำลังกายด้วยวิธี resistance (strength) training เช่น  การยกน้ำหนัก,
วิดพื้น...สามารถทำลายไขมัน และสร้างมวลกล้ามเนื้อได้ดี
 ซึ่งควรนำมาปฏิบัติอย่างน้อย 2 - 3 ครั้ง/อาทิตย์

• มีคนกล่าวว่า  การขยับตัวไปมาอย่างอยู่ไม่สุข (fidgeting) ตลอดเวลา
อาจกำจัดน้ำหนักเกินได้ ? เท็จจริงอย่างไร ไม่มีใครับรอง...
แต่ที่เชื่อได้แน่ได้ประโยชน์จริง  คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
จะได้ผลประโยชน์จริง

• เป็นความจำเป็นที่จะต้องรู้ว่า เมื่อเราผอมลง การเผาผลาญคาลอรี่
ต่อระยะทางอขงการเดิน หรือจอกกิ่งจะน้อยลง  เป็นเหตุให้อัตราการลดน้ำหนัก
จะชะลอลง

• การเปลี่ยนแปลในไขมัน และในกล้ามเนื้อ   อาจมีความแตกต่างกันระหว่างชาย
และหญิง อันเป็นผลมาจากการออกกำลังกาย:
โดยชายมีแนวโน้มที่จะลดไขมันที่บริเวณหน้าท้อง ซึ่งจะลดความ
เสี่ยงต่อโรคหัวใจได้เร็วกว่าการลดไขมันตลอดทั่วร่างกาย

ในผู้หญิง การออกกำลังกายตามแบบแอโรบิค และการยกน้ำหนัก หรือ strength training
มีแนวโน้มที่จะทำให้มีการสลายไขมันในบริเวณต้นแขน และลำตัว
โดยไม่มีการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อเพิ่มในบริเวณดังกล่าว

เนื่องจากความอ้วน (obesity) เป็นปัจจัยหนึ่งของโรคหัวใจ
ดังนั้น ท่านใดที่มีน้ำหนักเกินต้องปรึกษาแพทย์ เพื่อหาแนวทางการออกกำลังกาย
เพื่อลดน้ำหนักให้ได้ก่อนที่จะสายจนกระทั้งเกิดเป็นโรคหัวใจขึ้น

<< PREV    NEXT >> Part 23: Exercise's Effects on Other Conditions

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น