April 7, 2014
ในการหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการชาที่มือ แพทย์จำเป็นต้องอาศัยข้อ
มูลทุกด้าน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวกับอาการที่ดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ในการวินิจฉัย
นอกจากนั้น แพทย์อาจจำเป็นต้องอาศัยการต่าง ๆ เพื่อยืนยันคำวินิจฉัย
ก่อนให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการชาที่มือ ได้แก่:
o Alcoholism โรคพิษสุราเรื้อรัง
o Amyloidosis โรคอะไมรอยโดซิส เกิดขึ้นเมื่อมีสารโปรตีนชนิด
หนึ่งชื่อ amyloid สะสมภายในอวัยวของกาย....
o Brachial plexus บาดเจ็บของข่ายประสาทจากต้นคอ (C5,6, 7,8,
และT1) ซึ่งทำหน้าที่นำคลื่นประสาทจากกระดูกสันหลังส่วนคอ
ไปยังไหล่, ต้นแขน, และมือ
o carpal tunnel synrome กลุมอาการ “คาร์ปาล”
o Cervical spondylosis เป็นโรคที่สัมัพันธ์กับอายุที่มากขึ้น
เกิดมีการสึกหรอในบริเวณหมอนกระดูก
o Ganglion cyst เป็นก้อนที่เป็นถุงน้ำ (Cyst) ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นใน
ตำแหน่งของเอ็น หรือข้อของข้อมือ หรือมือ
o Guillain-Barre syndrome เป็นโรคที่พบได้น้อยมาก เกิดจากความผิดปกติ
ของระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดเพี้ยนไป โดยหันอายุธเข้าทำลาย
เส้นประสาทของตัวเอง
o HIV/AIDS
o Lyme disease โรคลายม์ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียกสายพันธ์
Borrelia spp. โดยถูกเห็นกัด..
.
o Multiple sclerosis โรคปลอกประสาทอักเสบ
o Paraneoplastic syndromes of the nervous system
เป็นกลุ่มของอาการที่เกิดขึ้นกับคนบางคนที่เป็นมะเร็ง
o Peripheral neuropathy เส้นประสาทส่วนปลายถูกทำลาย
เป็นต้นเหตุของความเจ็บปวด และอาการชาที่บริเวณมือ
o Raynaud's disease เป็นโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้บางส่วนของกาย
รู้สึกมีอาการชา และรู้สึกเย็น เป็นการตอบสนองต่ออาการเย็น
หรือความเครียด
o Side effects of chemotherapy drugs
o Sjogren's syndrome เป็นโรคทางระบบภูมคุ้มคุ้น ซึ่งเป็นเหตุให้น้ำตาแห้ง
o Spinal cord injury
o Stroke
o Syphilis
o Syringomyelia เป็นโรคทีเกิดจากการมีถุงน้ำเกิดภายในประสาทสันหลัง
o Type 2 diabetes
o Ulnar nerve compression
o Vasculitis โรคเส้นเลือดเกิดการอักเสบ
o Vitamin B-12 deficiency
สาหตุต่าง ๆ ที่เสนอมานั้น มักจะเกิดอาการชาที่มือ ร่วมกับอาการอย่าง
อื่น ซึ่งท่านจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น